- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- บึ้มสนั่นกลางปัตตานี พระ-ทหารเจ็บระนาว องค์กรสิทธิฯบี้รัฐออกมาตรการคุมอาวุธปืน
บึ้มสนั่นกลางปัตตานี พระ-ทหารเจ็บระนาว องค์กรสิทธิฯบี้รัฐออกมาตรการคุมอาวุธปืน
ใต้ป่วนหนัก คนร้ายลอบวางระเบิดทหารชุดคุ้มครองพระวัดหลักเมืองขณะออกบิณฑบาต ตูมสนั่นภิกษุบาดเจ็บ 1 รูป ทหารสาหัส 2 นาย อีกสามเจ็บเล็กน้อย แฉกลุ่มก่อความไม่สงบปฏิบัติการป่วนต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้แค่ 1 วันเพิ่งดักระเบิดรถ อส.ยะลาชุดคุ้มครองครูเจ็บอีก 5 ขณะที่ "ยิงรายวัน" ยังไม่หยุดโดยเฉพาะที่ปะนาเระ อีกรายประกบยิงทหารพรานหญิงเสียชีวิตคาถนนต่อหน้าลูกสาว
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดไม่หยุด โดยล่าสุดเมื่อเวลา 06.40 น.วันศุกร์ที่ 28 ม.ค.2554 คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดทหารชุดรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ (ชุด รปภ.พระ) สังกัดหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 ขณะปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองพระออกบิณฑบาต บนถนนโรงเหล้า สาย ก. บ้านสวนสมเด็จ หมู่ 6 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 5 นาย และพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 1 รูป
รายชื่อผู้บาดเจ็บประกอบด้วย 1) พระวัชระพงษ์ สุทะ จากวัดหลักเมือง อ.เมือง จ.ปัตตานี 2) จ.ส.อ.ดิเรก รัตนชัย อายุ 39 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3) ส.ต.กฤษฎา บัวบาน อายุ 22 ปี ขาซ้ายหักและถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณช่องท้อง อาการสาหัส 4) พลทหารเสกสรร อินทร์เพชร อายุ 20 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณต้นขาขวา และแขนซ้าย 5) ส.ต.วีระพงษ์ ประเสริฐสร อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และ 6) พลทหารบุญถม ขันดี อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นกัน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทหารชุด รปภ.พระ ได้ปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองพระออกบิณฑบาตจากวัดหลักเมืองไปตามถนนโรงเหล้า สาย ก. เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้มีทหารและพระภิกษุได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊สขนาด 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร โดยคนร้ายนำไปวางไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้าข้างถนน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
อนึ่ง เหตุการณ์ลอบทำร้ายพระสงฆ์หรือเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองพระเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2553 ก็เพิ่งเกิดเหตุคนร้าย 6 คนใช้รถกระบะเป็นพาหนะ กราดยิงทหารชุดคุ้มครองพระขณะพระภิกษุออกบิณฑบาต บริเวณปากทางถนนอุตสาหกรรม หลังตลาดพิมลชัย ในเขตเทศบาลนครยะลา ทำให้ทหารเสียชีวิต 2 นาย ขณะที่พระภิกษุได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ยิง รปภ.ฟาร์มตัวอย่างเจ็บพร้อมภรรยา
เวลา 18.10 น.วันเดียวกัน คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดประกบยิง นายประสิทธิ์ แสงเมือง อายุ 59 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) โครงการฟาร์มตัวอย่าง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และ นางชิด แสงเมือง อายุ 58 ปี ภรรยา ได้รับบาดเจ็บขณะทั้งคู่ขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 มุ่งหน้ากลับบ้าน ซึ่งอยู่เลขที่ 35 บ้านสีปาย หมู่ 3 ต.ตาลีอายร์ อ.ยะหริ่ง เหตุเกิดหน้าโรงเรียนสตรีพัฒนาศึกษา บ้านกรือเซะ หมู่ 3 ต.ตันหยงลุโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
พบศพถูกยิงทิ้งวันเดียว 2 ศพ
ส่วนที่ อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 35 ปี ถูกทิ้งริมถนนสายดต๊ะบาเกะ-ยะลา บ้านนิบงบารู หมู่ 7 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพชายไม่ทราบชื่อในสภาพนอนคว่ำหน้าใส่กุญแจมือไพล่หลัง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดบริเวณกกหูด้านซ้ายจำนวน 3 นัด และตามใบหน้ายังมีบาดแผลถูกกรีดด้วยของมีคม คาดว่าถูกฆ่าจากพื้นที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการสังหารโหดครั้งนี้ได้
ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พบศพชายไม่ทราบชื่อเช่นกัน อายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อยืดสีส้ม กางเกงยีนส์ มีเสื้อยีนทับอักชั้นหนึ่ง และรองเท้าผ้าใบ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงจนเสียชีวิต นอนคว่ำหน้าบริเวณริมถนนสายโคกอิฐ-โคกใน-โคกกูแว หมู่ 3 ต.พร่อน อ.ตากใบ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ในร่างกายไม่มีเอกสารแสดงว่าเป็นใคร แต่ในกระเป๋ากางเกงพบอุปกรณ์เสพยาเสพติด และใกล้ๆ กับศพพบรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ 1 คัน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการลอบสังหารดังกล่าว
ตร.ชี้บึ้มสังหาร 9 ศพปมหักกลุ่มป่วนใต้
ด้านความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระบะของชาวบ้าน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ที่เข้าไปหาของป่าและล่าสัตว์ในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิดเมื่อวันอังคารที่ 25 ม.ค.นั้น
ล่าสุด แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน เปิดเผยว่า การก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มนายอุบัยดีละห์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่นาน นายมาหะมะ มะรอ อายุ 28 ปี มือขวาของนายอุบัยดีละห์ เคยพาพรรคพวกไปดักยิงชาวบ้านกลุ่มนี้ขณะออกหาของป่าบนภูเขาหลังบ้านอูยงซูแง หมู่ 6 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา แล้วเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น ผลปรากฏว่านายมาหะมะถูกยิงเสียชีวิต จากนั้นกลุ่มชาวบ้านหาของป่ายังได้แจ้งทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 14 ตามเข้าไปยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 ได้อีก 1 กระบอก
หลังเกิดเรื่อง ชาวบ้านกลุ่มนี้ยังคงเดินทางเข้าพื้นที่บ้านบาโร๊ะ อ.ยะหา เพื่อล่าหมูป่าและเก็บของป่าตามปกติ และใช้เส้นทางซ้ำๆ กัน ทำให้นายอุบัยดีละห์กับพวกวางแผนลอบวางระเบิดเพื่อล้างแค้นให้นายมาหะมะ
อย่างไรก็ดี หลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง โดยชี้แจงว่ากลุ่มชาวบ้านทั้งหมดไม่เคยยิงปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบแต่อย่างใด
องค์กรสิทธิฯจี้รัฐออกมาตรการลดอาวุธปืน
เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา มูลนิธิผสานวัฒนธรรม มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม มูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ กลุ่มด้วยใจ จ.สงขลา และคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย (Asian Human Rights Commission) ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์หัวข้อ "ร่วมกันแสดงจุดยืนคัดค้านการก่อเหตุความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าฝ่ายใด" เพื่อประณามเหตุร้ายกรณีระเบิดรถกระบะทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 9 ราย
แถลงการณ์ ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นและต่อทุกครอบครัวของผู้สูญเสีย ขณะเดียวกันขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบเพื่อก่อเหตุร้าย สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การโต้ตอบกันด้วยความรุนแรงไม่สามารถสร้างความชอบธรรมในการเรียกร้องความ เป็นธรรมและทางการเมืองได้ ยังแต่สร้างความโกรธแค้นชิงชังและไม่นำพาซึ่งการรักษาไว้ซึ่งความสงบและ สันติในพื้นที่ท้องถิ่นของตน อีกทั้งการกระทำดังกล่าวของผู้ใช้ความรุนแรงถือว่าเป็นการขัดขวางกับการ สร้างสันติภาพ ส่งผลต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และสร้างความสูญเสียความเชื่อมั่นต่อการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายรัฐ ทั้งๆ ที่มีความพยายามของทุกภาคส่วนที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง และแสวงหนทางยุติความรุนแรงและความขัดแย้งโดยสันติวิธี
ฉะนั้นจึง ขอต่อต้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบไม่ว่าฝ่ายใด และขอให้รัฐยึดมั่นในหลักนิติธรรม หลักสิทธิมนุษยชน และการมีส่วนรวมของประชาชน ในการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนและภาคประชาสังคม ทั้งในพื้นที่และในประเทศไทย ไม่ต้องการให้ความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง กลายเป็นความชาชิน พร้อมมีข้อเสนอแนะและมาตรการ ดังนี้
1) ให้รัฐกำหนดมาตรการลดอาวุธปืนทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย อย่างเป็นรูปธรรม มีมาตรการควบคุมจัดสรรอาวุธให้ประชาชน และการตรวจสอบการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อย่าง เคร่งครัด
2) ให้รัฐกำหนดมาตรการตรวจค้น การห้ามซื้อขายอาวุธปืน สารตั้งต้นระเบิด และอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบระเบิดอื่นๆ อย่างเด็ดขาด
3) ให้รัฐกำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยสมดุลกับการใช้งบประมาณแผ่นดินที่เพิ่มสูงขึ้น การพัฒนาระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นมืออาชีพ และเป็นอิสระ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่อย่างจริงจัง เพื่อลดความสูญเสียจากเหตุการณ์ก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้น
บึ้ม อส.ชุด รปภ.ครูเจ็บ 5 ที่ยะลา
วันพฤหัสบดีที่ 27 ม.ค.2554 เกิดเหตุรุนแรงตลอดทั้งวัน โดยเมื่อเวลา 08.05 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดบริเวณเชิงสะพานเรือนจำ ท้องที่ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ อ.เมืองยะลา ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 นาย
รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย อส.รัตกมล แซ่หว่อง อายุ 34 ปี อส.มะหะดี ดือรามิง อายุ 24ปี อส.อับดุลรอแม มะเซ็งบางี อายุ 32 ปี อส.นัฐศักดิ์ นวลจันทร์ อายุ 21 ปี และ อส.วิเชียร สายดวง อายุ 46 ปี ทั้งหมดอาการไม่สาหัส
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ และทราบว่าขณะที่ อส.ทั้ง 5 นายกำลังนั่งรถกระบะกลับจากการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) โรงเรียนท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา ได้ถูกคนร้ายจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายผูกติดกับเสาไฟฟ้าข้างทาง แรงระเบิดทำให้รถกระบะได้รับความเสียหาย และ อส.ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ปะนาเระป่วนรายวันไล่ยิงชาวบ้านตาย 1 เจ็บ 1
ต่อมาเวลา 14.00 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามทั้งเอ็ม 16 และอาก้า กราดยิง นายมะสาวี มะสาและ อายุ 41 ปี และ นายรอเซะ เจ๊ะเม็ง อายุ 58 ปี ขณะขี่รถจักรยายนต์อยู่บนถนนสายชนบท ท้องที่หมู่ 5 ต.คอกกระบือ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทำให้ นายมะสาวี เสียชีวิตคาที่ ส่วนนายรอเซะได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะนาเระ ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบปลอกกระสุนอาก้า และเอ็ม 16 ตกบนถนนจำนวน 30 ปลอก สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมะสาวี และนายรอเซะ กำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปทำธุระ โดยนายมะสาวีเป็นคนขับ ส่วนนายรอเซะนั่งซ้อนท้าย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่ซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่จนนายมะสาวีเสียชีวิตและนายรอเซะได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการลอบสังหารโหดครั้งนี้
อนึ่ง ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ในท้องที่ อ.ปะนาเระ เกิดเหตุรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยส่วนใหญ่เป็นเหตุยิงด้วยอาวุธปืน และเหยื่อมีทั้งประชาชนทั่วไปและอาสารักษาดินแดน (อส.)
ประกบยิงทหารพรานหญิงดับต่อหน้าลูกสาว
เวลาประมาณ 19.00 น. คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายอุสมา บือซา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/17 หมู่ 5 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากตลาดนัดกลางคืนในเขตเทศบาลตำบลยะรัง ทำให้นายอุสมาเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 หน้าโรงไม้บ้านพงสะตา หมู่ 5 ต.ยะรัง
ช่วงค่ำวันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาด ประกบยิง อาสาสมัครทหารพรานหญิง (อส.ทพ.) ปัณฑารีย์ พุกเจริญผล อายุ 34 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 43 ช่วยราชการ กอ.รมน.จ.ปัตตานี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน โดยมีบุตรสาว 2 คนนั่งซ้อนท้ายไปด้วย เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) บ้านบาลาคอ หมู่ 2 ต.บางปู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี หลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงรถจักรยานยนต์ของ อส.ทพ.ปัณฑารีย์ หลบหนีไปด้วย
ลอบยิง อส.เจ็บอีกหนึ่ง-สุคิรินชาวบ้านสังเวย
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 26 ม.ค. เวลา 08.20 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกสั้นประกบยิงยิง อส.มุสตอพา เจ๊ะเอ๊ะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/1 บ้านบาโงลูโบ๊ะอาแน หมู่ 7 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขณะที่ อส.มุสตอพา กำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านมุ่งหน้าไปทำงาน โดยใช้ถนนสายตันหยงมัส-บ้านซีโป เหตุเกิดในท้องที่หมู่ 3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ อส.มุสตอพา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 13.20 น.วันเดียวกัน คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายมาหะมะซักรี เปาะซู อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/1 บ้านน้ำใส หมู่ 3 ต.เกียร์ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากแจกจ่ายปุ๋ยในโครงการของหมู่บ้านให้กับสมาชิก เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการลอบสังหารครั้งนี้
ลอบยิงใส่ฐาน ตชด.44 ที่จะนะ
เวลา 21.30 น.วันพุธที่ 26 ม.ค. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฐานปฏิบัติการ ร้อย.ฉก.ตชด.44 (หน่วยเฉพาะกิจกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44) ที่บ้านท่าคลอง หมู่ 4 ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา แต่ไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่า คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงมาจากด้านหลังของฐานปฏิบัติการ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นถนนและเส้นทางรถไฟ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
- แพทย์กำลังปฐมพยาบาล พระวัชระพงษ์ สุธะ จากวัดหลักเมือง ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดกลางเมืองปัตตานี
- พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี รุดตรวจจุดเกิดเหตุด้วยตัวเอง (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังนิ)
อ่านประกอบ :
- พระเตรียมย้ายวัดหลังทหารชุด รปภ.ถูกยิงดับ 2 รัฐเชื่อไม่ส่งผลปีใหม่เดือด
http://www.south.isranews.org/other-news/643--2-.html
- เงื่อนปมคดียิงทหารคุ้มครองพระ กับภาวะ "ฝุ่นตลบ" ที่ชายแดนใต้
http://www.south.isranews.org/scoop-and-documentary/scoop-news-documentary/649--qq-.html
- ส.ว.อนุศาสน์ กับคำถามถึงบทบาทของภาคสังคม หลังกรณียิงชุด รปภ.พระ
http://www.south.isranews.org/interviews/648-2010-12-22-02-08-46.html
- เมื่อจีวรต้องเปื้อนโลหิต...จากวัดพรหมประสิทธิ์ถึงเหตุสังหารพระที่ยะลา
http://www.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=4679&Itemid=86