- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- คาร์บอมบ์ยะลาเจ็บระนาว-วอด 15 คูหา
คาร์บอมบ์ยะลาเจ็บระนาว-วอด 15 คูหา
ใต้ป่วนหนัก คนร้ายควบกระบะ “คาร์บอมบ์” เข้าถึงกลางยะลา ก่อนจุดชนวนระเบิดตูมสนั่นดังก้องทั้งเมืองหวังถล่มรถทหารที่แล่นผ่าน ชาวบ้านรับเคราะห์ด้วยเจ็บ 17 ราย เพลิงเผาบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์วอด 15 คูหา แฉใช้บึ้มถังแก๊ส 4 ลูก ถังน้ำมันอีก 8 ถังยัดปิคอัพ เป็นคาร์บอมบ์ลูกแรกของปี 54
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงปั่นป่วนอย่างหนัก คนร้ายยังสามารถก่อเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 09.45 น.วันอาทิตย์ที่ 13 ก.พ.2554 ได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วเมืองยะลา โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่สี่แยก ณ นคร หรือที่เรียกกันว่าสี่แยกธนาคารนครหลวงไทย สาขายะลา ในเขตเทศบาลนครยะลา บริเวณหน้าร้านเฮนเบเกอรี่ เลขที่ 33 ถนน ณ นคร ต.สะเตง อ.เมืองยะลา แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 17 ราย มีรายชื่อดังนี้
1) ส.อ.ชานนท์ สองแก้ว อายุ 26 ปี
2) จ.ส.ท.ประสิทธิ์ อิสโร อายุ 35 ปี
3) พลทหารวรินทร์รัตน์ จันทร์ดี อายุ 22 ปี มาจากค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
4) ส.ต.อ.ชาติ ประไมยะ อายุ 31 ปี สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (บก.ภ.จว.ยะลา)
5) น.ส.อังคณางค์ ภัทรพงศ์ อายุ 20 ปี
6) นายเดชณรงค์ พันโท อายุ 25 ปี
7) น.ส.ชลัยพร เรือนธรรม อายุ 42 ปี
8) นายสมศักดิ์ รักษ์พงษ์ อายุ 35 ปี
9) นางศิริพร เรือนธรรม อายุ 38 ปี
10) นางทักษิณา วงศ์จุมปู อายุ 30 ปี
11) นายหมู แซ่เสี้ยว อายุ 59 ปี
12) ด.ช.นิลพัทธ์ แก้วเกาะสะบ้า อายุ 5 ปี
13) นายสุวัฒน์ ไตรรงค์เจริญสุข อายุ 31 ปี
14) นายสมมาตร บุญรุ่ง อายุ 42 ปี
15) นายธนันต์ ฉั่วพานิชย์ อายุ 54 ปี
16) นางปภาดา ผิวเกลี้ยง อายุ 61 ปี
17) นางเตือนใจ กลัดทอง อายุ 44 ปี
ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่อาการสาหัส 4 ราย คือ นายเดชณรงค์ พันโท ส.อ.ชานนท์ สองแก้ว พลทหารวรินทร์รัตน์ จันทร์ดี และ จ.ส.ท.ประสิทธิ์ อิสโร
หลังเกิดเหตุ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยได้เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุ พร้อมอำนวยการให้พนักงานดับเพลิงของเทศบาลนครยะลาเร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังโหมไหม้อาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นไม้และเกิดเพลิงไหม้ขึ้นจากสะเก็ดระเบิดด้วย อย่างไรก็ดี กว่าจะสกัดเพลิงได้ปรากฏว่าบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์วอดไปถึง 15 คูหา รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างทางเสียหายกว่า 10 คัน
ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพบว่า ตรงจุดที่มีการระเบิดมีซากรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นดีแม็กซ์ ยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียน อยู่ในสภาพพังยับเยิน คาดว่าเป็นรถที่คนร้ายใช้บรรทุกวัตถุระเบิดมาก่อเหตุ มีเศษซากถังแก๊สหลายถัง ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบรถกระบะยี่ห้ออิซูซุ หมายเลขทะเบียน บต 6817 ปัตตานี จอดเสียหลักอยู่กลางถนน เป็นรถของเจ้าหน้าที่ทหาร ในกระบะท้ายมีเครื่องอุปโภคบริโภคบรรทุกอยู่เต็ม
สอบสวนทราบว่า คนร้ายได้ขับรถบรรทุกระเบิดเข้ามาในเขตเทศบาลนครยะลาแล้วไปจอดที่หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ตั้งแต่เวลา 07.30 น.โดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นคนขับกับเพื่อนร่วมขบวนการที่ขี่รถจักรยานยนต์มารับตัวไป โดยก่อนเกิดระเบิดมีรถกระบะของทหารที่เข้าเมืองมาซื้อเสบียงแล่นผ่านสี่แยกดังกล่าว คนร้ายซึ่งคาดว่าเป็นคนละชุดกับที่ขับรถมา และได้ซุ่มดูพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหารมาก่อนแล้วจึงจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทหารในรถจำนวน 4 นายได้รับบาดเจ็บ แรงระเบิดยังทำให้ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้รับบาดเจ็บไปด้วยอีก 13 ราย และบ้านเรือนกับอาคารพาณิชย์ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายดังกล่าว
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) พร้อมด้วย นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา ได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนและอำนวยการการเก็บพยานหลักฐาน
พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหลัง เป็นเพราะ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ปฏิบัติงานด้านการเมืองและการทหารในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมกับภาครัฐมากขึ้น ประกอบกับเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและวิสามัญฆาตกรรมกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ได้หลายต่อหลายครั้ง ทำให้กลุ่มคนร้ายพยายามก่อเหตุทำลายฐานการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง ตอบโต้การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะการเข้ามาก่อเหตุร้ายในย่านเศรษฐกิจการค้าเพื่อสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
“ผมขอประณามการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ในครั้งนี้ว่าเป็นพวกนอกศาสนา” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
สำหรับวัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง บรรจุไว้ในถังแก๊สจำนวน 4 ถัง น้ำหนักถังละประมาณ 30 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ระเบิดไม่ทำงาน 1 ลูก ส่วนสะเก็ดระเบิดคนร้ายใช้เหล็กตัดท่อนจำนวนมาก ขณะที่เพลิงที่ลุกไหม้บ้านเรือนและอาคารพาณิชย์เสียหายกว่า 15 คูหา เกิดจากภายในรถคาร์บอมบ์คนร้ายใส่ถังน้ำมันขนาด 5 ลิตรเอาไว้จำนวน 8 ถังด้วย
อนึ่ง เหตุระเบิดในรูปแบบ “คาร์บอมบ์” ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบปี 2554 โดยครั้งล่าสุดที่เกิดคาร์บอมบ์คือเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2553 บริเวณหน้าที่ทำการหมวดการทาง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย โดยคนร้ายใช้รถกระบะเช่นเดียวกัน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-2-3 ความเสียหายจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์กลางเมืองยะลา
4 พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจพี่น้องประชาชน