- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ปูพรมค้น-จับผู้ต้องสงสัย "ปล้นฐานทหาร-บอมบ์ยะลา" ผบ.ทบ.ยอมรับแก๊งอิทธิพลเถื่อนผสมโรง
ปูพรมค้น-จับผู้ต้องสงสัย "ปล้นฐานทหาร-บอมบ์ยะลา" ผบ.ทบ.ยอมรับแก๊งอิทธิพลเถื่อนผสมโรง
กองกำลังผสมปูพรมค้น ไล่ล่า จับกุมผู้ต้องสงสัยปล้นฐานพระองค์ดำ-บอมบ์ยะลา รวบนับสิบ ยึดยุทโธปกรณ์-เวชภัณฑ์เพียบ สามผู้ต้องสงสัยที่ยะลาถูกคุมตัวคาแผงวงจรมือถือจุดระเบิด ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ประกาศิตห้ามเกิดเหตุที่ทำให้ประชาชนเจ็บตายอีก ยอมรับแก๊งค้ายา-อิทธิพลเถื่อนผสมโรง ใต้ยังป่วนซุ่มยิงฐานทหาร 2 จังหวัด
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์และมอเตอร์ไซค์บอมบ์ในย่านเศรษฐกิจของเมืองยะลาถึง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 13 ก.พ.และ 21 ก.พ.2554 โดยเว้นระยะห่างเพียง 8 วัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก และบ้านเรือนกับทรัพย์สินต่างๆ เสียหายไม่น้อยนั้น
ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ก.พ.2554 พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) พร้อมด้วย พ.ท.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 รับผิดชอบพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา ได้นำกำลังตำรวจ ทหาร และทหารพราน จำนวนกว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่บ้านบ่อเจ็ดลูก หมู่ 6 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา หลังสืบทราบว่า มีกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุคาร์บอมบ์และมอเตอร์ไซค์บอมบ์กบดานอยู่
ผลการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว นายซอฟัน บากา อายุประมาณ 23 -25 ปี นายอาบียะ แลเมาะ อายุประมาณ 25 ปี และ นายอนุวัติ เจ๊ะยูโซ๊ะ อายุประมาณ 26 ปี ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 บ้านบ่อเจ็ดลูก พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือและวิทยุสื่อสารที่ชำแหละแผงวงจรไฟฟ้าแล้ว กำลังจะต่อเป็นตัวกดจุดชนวนระเบิดได้อีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ควบคุมตัวทั้งสามคนไปเข้ากระบวนการซักถามเพื่อขยายผลต่อไป
ปูพรมค้นกรงปินังรวบ 12 อาร์เคเคโยงปล้นฐานพระองค์ดำ
วันเดียวกัน ที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา หมู่ 1 บ้านท่าสาป ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา พร้อมด้วย พ.อ.สุทัศน์ จารุมณี รองผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจยะลา และ พ.ท.ภาส วงศ์สารภี ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา 13 รับผิดชอบพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติจนสามารถติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ พร้อมตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ถึง 38 รายการในพื้นที่ ต.ปุโรง อ.กรงปินัง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีส่วนในการบุกโจมตีและปล้นอาวุธปืนที่ฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.15121 หรือฐานพระองค์ดำ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา
พ.ท.ภาส กล่าวว่า จากการซักถามผู้ต้องสงสัยที่ร่วมก่อเหตุ ทำให้ทราบว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับอาร์เคเค (หน่วยรบขนาดเล็กที่ผ่านการฝึกรบแบบจรยุทธ์) กบดานอยู่ในพื้นที่ ต.ปุโรง และมีความเคลื่อนไหว ทางหน่วยจึงได้สนธิกำลัง 3 ฝ่ายเข้าปฏิบัติการ และสามารถจับกุมสมาชิกอาร์เคเคได้จำนวน 12 คน (2 ชุดปฏิบัติการ) ซึ่งทุกคนให้การรับสารภาพ
จากนั้น หน่วยเฉพาะกิจยะลา 13 ได้ประกอบกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบตรวจค้นในพื้นที่ ต.ปุโรง ตามที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้รับสารภาพ ทำให้สามารถตรวจยึดอาวุธยุทธภัณฑ์ และเวชภัณฑ์ได้จำนวน 38 รายการ ซึ่งจากการวิเคราะห์ทำให้ทราบโครงสร้างของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ต.ปุโรง ที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา จำนวน 6 เหตุการณ์
ด้าน พล.ต.ปรีชา กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าในการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยหลังกลุ่มคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์และมอเตอร์ไซค์บอมบ์ในเขตเมืองยะลาถึง 2 ครั้งในรอบ 8 วันว่า ทุกฝ่ายได้ประชุมเพื่อปรับแผนการทำงานร่วมกัน โดยได้เน้นย้ำให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดรอบพื้นที่เทศบาลนครยะลา รวม 20 จุด และเพิ่มเป็น 37 จุดทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ ซึ่งจะสามารถสกัดกั้นเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้ายได้ ขณะเดียวกันได้มีการสนับสนุนกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจากทางจังหวัดยะลาและภาคเอกชนเพื่อเร่งติดตั้งให้ครอบคลุมทุกบริเวณด้วย
เอ็กซเรย์ศรีสาคร นราธิวาส เจอเพิงพักแก๊งป่วนใต้อีก
วันเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 41 ได้สนธิกำลังร่วมกับทหารหลักและตำรวจ เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เทือกเขาเมาะแต เขตรอยต่อของบ้านดาฮง หมู่ 4 ต.เชิงคีรี บ้านบีโละ หมู่ 3 บ้านไอร์เจี๊ยะ หมู่ 5 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร หลังได้รับแจ้งมีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหลบซ่อนตัวอยู่
ผลการตรวจค้นพบที่พักชั่วคราว ลักษณะเป็นเพิง แต่ไม่พบกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เมื่อเข้าไปตรรวจสอบในเพิงพัก พบเสบียงอาหาร ชุดลายพราง เป้สนาม และอุปกรณ์ดำรงชีวิตในป่าจำนวนหนึ่ง จึงได้ยึดไปเก็บหลักฐานสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) เพื่อขยายผลต่อไป
ยิงถล่มฐานทหาร 2 จุดใน 2 จังหวัด
สำหรับเหตุรุนแรงในพื้นที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะลดระดับความถี่ลงไปมากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาก็ตาม โดยเมื่อเวลา 20.45 น. วันศุกร์ที่ 25 ก.พ. คนร้ายจำนวน 3-4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามไม่ทราบชนิดและขนาดซุ่มยิง นายการี ยามา อายุ 45 ปี สารวัตรกานัน ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา อยู่บ้านเลขที่ 63 บ้านกาเยาะมาตี (บ้านย่อยของบ้านกำปงบือแน ) หมู่ 2 ต.จะกว๊ะ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากร้านน้ำชาในหมู่บ้านเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน
วันพุธที่ 23 ก.พ. เวลา 19.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารพรานที่ 4104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 41 ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่บ้านบาเจาะ หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยยิงปืนใส่ประมาณ 10 นัด ทำให้ฝ่ายทหารพรานยิงตอบโต้กลับไป กระทั่งฝ่ายคนร้ายล่าถอยไป ไม่มีความสูญเสีย
เวลา 19.40 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มิลลิเมตร และอาวุธปืนสงครามไม่ทราบขนาด ยิงใส่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารราบ 15331 (ร้อย ร.15331) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 บ้านโคกคอแห้ง หมู่ 4 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าทั้งสองเหตุการณ์เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายสะมะแอ กูโน อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านไอร์จูโจ๊ะ หมู่ 7 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส กระสุนปืนถูกบริเวณหัวไหล่ขวาและใต้ต้นแขนขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะนายสะมะแอกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากมัสยิดหลังเสร็จพิธีละหมาดเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการดักสังหารครั้งนี้
ผบ.ทบ.รับใต้แก้ยากเพราะคนร้ายไม่สนชีวิตคน
วันพุธที่ 23 ก.พ.เช่นกัน ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจยะลา หมู่ 1 บ้านท่าสาป ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รองผอ.รมน.) ได้เดินทางไปร่วมประชุมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยกำลังในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังเกิดสถานการณ์ความไม่สงบถี่ยิบในช่วงที่ผ่านมา โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจเลขตัวเดียวและเลข 2 ตัวทั้งหมด รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงฝ่ายปกครอง และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รอต้อนรับและบรรยายสรุป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์หรือไม่มีเหตุการณ์ ก็ได้มีการตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 (ในโครงสร้าง กอ.รมน.) ซึ่งดูแลพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการควบคุมและบังคับบัญชาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นในรอบที่ผ่านมา ก็ได้มีการอำนวยการสั่งการไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งมีการปรับแผนและบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ก็ทำให้ประสบความสำเร็จในการติดตามไล่ล่าคนร้ายได้หลายรายด้วยกัน
สาเหตุที่ลงพื้นที่ในครั้งนี้ ไม่ใช่มาเพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่มาตามห้วงระยะเวลาที่มีอยู่ เพื่อกำกับและติดตามการปฏิบัติตามนโยบาย ซึ่งนโยบายของ กอ.รมน.ก็มีความชัดเจนอยู่แล้วเรื่องของการแก้ปัญหาโดยใช้ยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ส่วนยุทธศาสตร์รองก็มีอีก 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งจะครอบคลุมทุกมิติ โดยกองทัพบกก็ทำอย่างนี้มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ายากที่จะดูแลพื้นที่ทั้งหมด 100% เพราะการทำงานต้องใช้กฎหมาย ต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์ ต้องหาพยานหลักฐานต่างๆ ในการดำเนินคดี ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าบางคดีผู้ก่อความไม่สงบอาจจะหลุดกระบวนการทางกฎหมายไปได้ เพราะว่าหลักฐาน เอกสาร และวัตถุพยานมีไม่เพียงพอ แต่ก็มีการติดตาม อาจจะต้องมีการจับกุมซ้ำอีกครั้งหนึ่งเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ ซึ่งเป็นการทำงานที่ยากพอสมควร ไม่เหมือนกับสถานการณ์ที่ผ่านมาของบ้านเมือง เพราะฝ่ายตรงข้ามจะไม่ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่จะมีการพึ่งประชาชน ผิดกับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีการทำร้ายประชาชน
"ที่ผ่านมากำลังเจ้าหน้าที่ครึ่งหนึ่งต้องเข้าไปดูแลครู พระ และวัด ขณะนี้ก็มีการปรับรูปแบบ เมื่อทางฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติการเชิงรุก ทางฝ่ายคนร้ายก็จะมีการตอบโต้ นั่นเป็นสูตรสำเร็จที่กลุ่มคนร้ายใช้อยู่ เพราะในช่วง 2–3 เดือนที่ผ่านมา ทางกองทัพได้มีมาตรการเชิงรุกในพื้นที่ป่าเขาบ้าง ในพื้นที่ชนบทบ้าง ก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนรูปแบบมาปฏิบัติการในเขตเมืองอีกครั้ง เพราะฉะนั้นต้องมีการเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยในเขตเมือง และปรับกลยุทธ์ในการต่อสู้กันในทางกฎหมาย ไม่ใช่เหมือนต่อสู้ระหว่างไทยกับต่างชาติ ในพื้นที่เหมือนเป็นการแย่งชิงประชาชนกันมากกว่า"
ยันใต้ดีขึ้นกดดันแก๊งป่วนตอบโต้-กำชับห้ามชาวบ้านเจ็บตายอีก
"ข้อมูลหลายๆ อย่างที่ได้รับทราบจากการประชุมในวันนี้คือมีความก้าวหน้าในหลายๆ ด้านตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนามากบ้างน้อยบ้าง หรืองบประมาณที่ลงมาก็ถึงพื้นที่มากพอสมควร เพราะโครงการต่างๆ เป็นโครงการระยะยาว ดังนั้นเมื่องานพัฒนาเริ่มได้ผลมากขึ้น ก็เกิดการต่อต้านจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี" ผบ.ทบ.ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์โจมตีฐานพระองค์ดำ และเหตุการณ์คาร์บอมบ์ในพื้นที่ จ.ยะลา และนราธิวาส ขณะนี้คืบหน้าไปมาก บางส่วนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้บ้างแล้ว บางส่วนก็มีการติดตามไล่ล่า ได้อาวุธปืนคืนกลับมาได้พอสมควร ทั้ง 3 เหตุการณ์คืบหน้าไปมาก มีผู้ต้องหาหมดเรียบร้อย เป็นผลมาจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและพยานวัตถุ รวมถึงพยานผู้เห็นเหตุการณ์ แต่ขอเก็บเป็นความลับไว้ก่อน
"ผมไม่อยากให้ประชาชนได้รับผลกระทบทางร่างกาย ทรัพย์สิน และทางเศรษฐกิจอีก หลังจากนี้ไปได้กำชับให้มีการเพิ่มจุดตรวจจุดสกัดมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ขอให้มีการลดจุดตรวจจุดสกัดลง เพราะไม่สะดวกในการเดินทาง ผมอยากถามว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วคุ้มหรือเปล่า ก็คงไม่คุ้มอยู่แล้ว เมื่อลดด่าน ลดจุดตรวจก็จะเกิดปัญหาอย่างนี้ เพราะมีการเคลื่อนย้ายอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมายได้ง่ายขึ้น นำไปสู่การก่อเหตุรุนแรง หลังจากนี้ต้องมีการเพิ่มจุดตรวจจุดสกัด ต้องเพิ่มความเข้ม ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ เพราะจะเอาทุกอย่างคือทั้งความสะดวกและความปลอดภัยในเวลาเดียวกันคงไม่ได้"
ยอมรับแก๊งค้ายา-อิทธิพลเถื่อนผสมโรง
"สำหรับผู้ที่ก่อเหตุร้ายต่างๆ ในอดีตมีการแบ่งกลุ่มกันทำงาน แต่ในปัจจุบันมีการรวมกลุ่ม อย่าลืมว่าที่ผ่านมาไม่มีความชัดเจนว่าใครเป็นหัวหน้า และทางฝ่ายรัฐก็ไม่สามารถที่จะไปพูดคุยกับฝ่ายตรงข้ามได้ ไม่เฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดจากผู้ก่อความไม่สงบอย่างเดียว แต่อาจจะมีเรื่องของยาเสพติด การกระทำผิดกฎหมายมาเกี่ยวข้องด้วย และในขณะนี้ผมได้สั่งการให้ กอ.รมน.ภาค 4 ไปดูแลเรื่องยาเสพติดด้วย เป็นการลดปัญหาแทรกซ้อนที่อาจให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ทั้งน้ำมันเถื่อน ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทั้งหมดมารวมตัวกันในการก่อเหตุร้ายต่าง ๆ ต่อเจ้าหน้าที่รัฐหรือประชาชนได้" ผบ.ทบ.กล่าว
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ล่องใต้เมื่อวันพุธที่ 23 ก.พ.ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท่ามกลางสถานการณ์ร้อนระอุในพื้นที่
2-3 หน่วยเฉพาะกิจยะลาแถลงข่าวผลการปฏิบัติปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม
4 พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนเข้าประชุมที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา (ภาพทั้งหมดโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)