- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ฟังเสียงชาวบ้านหลังปฏิบัติการดับ "มะแอ อภิบาลแบ"
ฟังเสียงชาวบ้านหลังปฏิบัติการดับ "มะแอ อภิบาลแบ"
เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกับกลุ่มติดอาวุธซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบ เมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านจาเราะแป หมู่ 3 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา จนทำให้ นายมะแอ อภิบาลแบ แกนนำระดับบัญชาการซึ่งมีชื่อติดกลุ่มเกี่ยวพันการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ครั้งแล้วครั้งเล่าต้องเหลือเพียงชื่อนั้น ยังคงเป็นประเด็นโจษขานกันอย่างกว้างขวางในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยามนี้
ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐให้ข้อมูลละเอียดยิบผ่านสื่อว่า นายมะแอ วัย 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 1 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา คือแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบคนสำคัญ เคยมีรางวัลนำจับถึง 2 ล้านบาท เคลื่อนไหวอยู่ในเขต อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต รวมถึง ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา
ข้อมูลจากฝ่ายรัฐยังระบุว่า นายมะแอ ถูกออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) มากถึง 28 หมาย พัวพันคดีก่อเหตุร้ายขนาดใหญ่ที่สร้างความสูญเสียมากมาย อาทิ คดียิงรถตู้โดยสารสายหาดใหญ่-เบตง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 8 คน เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2550 คดีลอบวางระเบิดขบวนรถของทหาร จนทำให้ พ.อ.สุทธิศักดิ์ ประเสริฐศรี ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 จ.ยะลา เสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2549 ซึ่งนับเป็นนายทหารยศสูงสุดที่ต้องพลีชีพในสมรภูมิปลายสุดด้ามขวาน นับตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้น ข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงยังระบุด้วยว่า นายมะแอเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ขณะออกลาดตระเวนอีกหลายครั้ง โดยครั้งใหญ่ที่สุดคือลอบวางระเบิดและใช้อาวุธสงครามซุ่มโจมตีรถกระบะของทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4105 บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา เมื่อค่ำวันที่ 31 พ.ค.2550 จนเป็นเหตุให้กำลังพลเสียชีวิตทั้งหมด 11 นาย
ข่าวบางกระแสจากฝ่ายความมั่นคงยังไปไกลถึงว่า นายมะแอน่าจะเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการซุ่มโจมตี "วีรบุรุษสีกากี" เสียชีวิตถึง 3 นายด้วย ได้แก่ ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข หรือ "ผู้กองแคน" ตำรวจพลร่มวัย 30 ปี บนถนนบ้านสายสุราษฎร์-บ้านภักดี หมู่ 3 ต.เขื่อนบางลาง อ.บังนังสตา เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2550
ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ หรือ "หมวดตี้" ตำรวจพลร่มซึ่งเพิ่งเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยมาหมาดๆ บริเวณเนินบ้านสันติ 1 หมู่ 2 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2551
และ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา (ภายหลังได้รับพระราชทานยศเป็นพลตำรวจเอก) อดีตผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา บนถนนในหมู่บ้าน หมู่ 2 บ้านทับช้าง ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2553
ฉะนั้นปฏิบัติการปลิดชีพ นายมะแอ จึงถือเป็นความสำเร็จของฝ่ายความมั่นคงอย่างไม่ต้องสงสัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ก็ออกมาแสดงความยินดีต่อความสำเร็จในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ข่าวสารที่เสนอผ่านสื่อส่วนใหญ่เป็นข่าวจากทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเท่านั้น จึงน่าคิดว่าท่ามกลางกระแสชื่นชมต่อปฏิบัติการวิสามัญฆาตกรรมนายมะแอและพวก โดยเฉพาะการระบุว่านายมะแอมีหมายจับในคดีสำคัญๆ ถึง 28 หมายนั้น ประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะผู้ที่รู้จักกับนายมะแอ รู้สึกกันอย่างไร
เสียงจากชาวบ้าน...ไม่เชื่อข้อมูล จนท.อ้างก่อ 28 คดี
นายมะรุสะดี ดีสาเอะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่แน่ใจว่านายมะแอจะสามารถก่อคดีได้มากถึง 28 คดี แต่ในฐานะที่เป็นชาวบ้านอาจจะไม่รู้ข้อมูลลึกๆ ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายเหตุผลที่ทำให้รู้สึกไม่เชื่อข้อมูลของฝ่ายเจ้าหน้าที่
"อย่างเหตุการณ์กราดยิงร้านน้ำชาที่บ้านกาโสด หมู่ 5 ต.บันนังสตา เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา วันนั้นข่าวออกมาก่อนเลยว่าเป็นฝีมือของกลุ่มนายมะแอ อภิบาลแบ แต่พอเวลาผ่านไปก็ปรากฏความจริงว่าเป็นเรื่องของการแก้แค้น และเกี่ยวพันกับอดีตทหารพรานคนหนึ่ง เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วข่าวที่เสนอไปว่านายมะแอเป็นคนทำคืออะไร ใครจะรับผิดชอบ เจ้าตัวเขาก็ไม่สามารถออกมาเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ ได้ ยิ่งญาติพี่น้องยิ่งแล้วใหญ่"
นายมะรุสะดี กล่าวต่อว่า การคาดการณ์หรือบางครั้งก็เป็นการด่วนสรุปของเจ้าหน้าที่ ทำให้ชาวบ้านในสามจังหวัดถูกละเมิดสิทธิ์ไม่น้อยเหมือนกัน
"พอเกิดเหตุขึ้นเจ้าหน้าที่มักบอกก่อนเลยว่าเป็นฝีมือกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ทำ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการตรวจสอบ แล้วรูปคดีจะไปทางไหนได้ ก็ต้องใส่ว่าคนนั้นคนนี้ตามที่บอกมา สิ่งเหล่านี้ทำให้คนในพื้นที่รู้สึกว่ายังขาดความเป็นธรรม การปฏิบัติตัวของหน่วยงานรัฐยังมีลักษณะของการละเมิดอยู่ และมันก็จะนำมาสู่การต่อยอดของเหตุการณ์ความรุนแรงอื่นๆ อีก" นายมะรุสะดี ระบุ
รู้ทุกอย่างแต่พูดไม่ได้
ชาวบ้านบันนังสตาอีกรายซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่านายมะแอฆ่าคนบริสุทธิ์แบบมั่วๆ คิดว่าต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของกันและกัน ไม่อย่างนั้นคำว่าโจรมีคุณธรรมคงไม่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้
"ทางแก้ปัญหามีวิธีเดียวคือรัฐต้องยอมรับและต้องกล้าพูดความจริง อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ชาวบ้านเห็น ชาวบ้านรู้ แต่เขาไม่สามารถพูดได้ เพราะแรงกดดันมีมาก ถ้ารัฐทำถูก ชาวบ้านที่ไหนจะยอมไปร่วมมือกับคนร้าย ทุกคนต่างต้องการความสงบสุข"
จนท.ถือกฎหมาย...ชาวบ้านได้แต่ฟัง
ก๊ะเมาะ วัย 43 ปี ชาวบ้านบาเจาะ ตำบลเดียวกับนายมะแอ กล่าวว่า คนที่เสียชีวิตคือนายมะแอจริงๆ ทุกคนยอมรับ แต่ไม่เชื่อว่าเขาจะก่อเหตุเยอะถึงขนาดที่เจ้าหน้าที่รัฐบอก
"ฉันสังเกตมาตลอดว่า ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่วิสามัญฯ จะพยายามให้ข่าวว่าคนที่ตายนั้นมีคดีติดตัวมาก แต่ไม่รู้ความจริงเป็นอย่างไร จะว่าไปชาวบ้านก็ไม่ค่อยเชื่อ เพราะมีหลายครั้งที่ไม่ค่อยตรงกับความจริง และเชื่อว่าครอบครัวของคนตายก็ไม่เชื่อเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากคนที่ถือกฎหมายคือเจ้าหน้าที่ เราชาวบ้านก็ได้แต่ฟังแล้วทำตัวเฉยๆ ต้องไม่มีปัญหา"
ก๊ะเมาะ ยังบอกว่า หลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลกับสื่อไม่ตรงกับความเป็นจริง ชาวบ้านทราบดีแต่ก็ต้องทำเฉย ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เอง หากเป็นคนละหน่วยงานก็คิดและทำงานไม่เหมือนกัน ทหารไปทาง ตำรวจไปทาง ฝ่ายปกครองไปทาง ขนาดทหารพรานกับทหารเขียว (หมายถึงทหารหลัก) ยังมองปัญหาคนละอย่างเลย
ส่วนคดีต่างๆ จำนวนมากที่ติดตัวคนที่ถูกวิสามัญฯนั้น ก๊ะเมาะ กล่าวว่า คนตายไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ มีแต่เจ้าหน้าที่พูด จึงอยากให้มีการตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานรัฐในพื้นที่ด้วย
หมายเหตุจาก "ทีมข่าวอิศรา"
การนำเสนอความเห็นและความรู้สึกอีกด้านหนึ่งของฝ่ายที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐดังที่ปรากฏในรายงานชิ้นนี้ หาใช่การมองข้ามความเสี่ยงอันตรายและความยากลำบากของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการไม่ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้หมายถึงการตอบโต้ข้อมูลของภาครัฐ หรือสร้างความชอบธรรมใดๆ ให้กับผู้ตายในกรณีที่เขาเคยก่อเหตุร้ายแรงเช่นว่านั้นมาจริงๆ
จุดประสงค์ของ "รายงานจากพื้นที่" ชิ้นนี้ (ซึ่งมีเนื้อหาไม่ยาวนัก เพราะไม่ค่อยมีใครกล้าพูด) ต้องการสะท้อนให้เห็นว่า ความรู้สึกของชาวบ้านต่อปฏิบัติการของรัฐในหลายๆ เรื่อง (โดยเฉพาะที่รัฐเชื่อว่าประสบความสำเร็จ) นั้น ประชาชนบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่จริงๆ รู้สึกอย่างไร ซึ่งเมื่อทราบแล้วก็จะเป็นประโยชน์ต่อรัฐเองในการกำหนดท่าทีและนโยบายต่อไป
ที่สำคัญ "การวิสามัญฆาตกรรม" นั้น แท้ที่จริงๆ แล้วเป็น "กรณียกเว้น" ทางกฎหมาย หาใช่ "กรณีทั่วไป" ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถกระทำได้โดยเสรีไม่ โดยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ได้กำหนดมาตรการตรวจสอบการกระทำวิสามัญฆาตกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐเอาไว้อย่างค่อนข้างชัดเจนว่า ต้องเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการกระทำที่ไม่เกินกว่าเหตุเท่านั้น จึงจะเข้าข่ายยกเว้นการถูกดำเนินคดีหรือเอาผิด (กรณีฆ่าคนตาย) และต้องมีกระบวนการ "ไต่สวนการตาย" โดยใช้อำนาจศาลและอัยการเข้ามาถ่วงดุลการทำสำนวนคดีของเจ้าพนักงานตำรวจด้วย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตั้งจุดตรวจจุดสกัดอย่างเข้มงวดในเขตเทศบาลนครยะลา เพราะกำลังจะมีงานสมโภชศาลหลักเมืองและงานกาชาด จ.ยะลา ประจำปี 2554 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงซึ่งคาดว่ากลุ่มก่อความไม่สงบอาจต้องการแก้แค้น หลังจากระดับแกนนำถูกวิสามัญฆาตกรรมไปหลายราย รวมทั้ง นายมะแอ อภิบาลแบ
อ่านประกอบ :
- "ปิดล้อม-ซ้อม-วิสามัญฯ" ข้อร้องเรียนปฏิบัติการหลังปล้นค่าย แม่ทัพใต้ลั่นถ้ามีจริงให้บอกมา!
http://www.south.isranews.org/scoop-and-documentary/scoop-news-documentary/747-q-q-.html
- เพราะวิสามัญฯไม่ใช่ผลงาน...อย่าปล่อยให้เกิดการฆาตกรรมโดยผู้ถือกฎหมาย!
http://south.isranews.org/scoop-and-documentary/scoop-news-documentary/278-2010-04-06-16-39-43.html
- บทพิสูจน์กรณี "สมเพียร เอกสมญา" สังคมไทยยัง "เข้าไม่ถึง" ชายแดนใต้
http://www.isranews.org/isranews/index.php?option=com_content&view=article&id=269:-q-&catid=18:2009-11-15-11-19-53
- จับตายคนร้าย...(อาจ) ไม่ใช่ความสำเร็จ!
http://www.isranews.org/isranews/index.php?option=com_content&view=article&id=15:2009-11-18-18-34-24&catid=10:2009-11-15-11-15-01&Itemid=3
- 5 ปีไฟใต้ (8)...สงครามความรู้สึกระหว่างรัฐกับชาวบ้าน
http://www.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=4376&Itemid=86
- 5 ปีไฟใต้ (9)...ไม่กลัวกฎหมาย แต่กลัวผู้ใช้กฎหมาย!
http://www.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=4393&Itemid=86