- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- เลือกตั้งส่อเดือดแทงหัวคะแนนเพื่อไทย รัฐลุยล้างน้ำมันเถื่อน-รถหนีภาษีสกัดคาร์บอมบ์
เลือกตั้งส่อเดือดแทงหัวคะแนนเพื่อไทย รัฐลุยล้างน้ำมันเถื่อน-รถหนีภาษีสกัดคาร์บอมบ์
เลือก ตั้งชายแดนใต้ส่อรุนแรง หัวคะแนนพรรคเพื่อไทยถูกผู้สนับสนุนพรรคคู่แข่งแทงดับที่ร้านน้ำชา อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี แม้ฝ่ายปกครอง-ตำรวจจะสั่งเพิ่มกำลังคุมเข้ม ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังระอุ ยิงรายวันเพียบ รัวกระสุนถล่ม อส.บันนังสตา สิ้นชื่อ ชรบ.บาดเจ็บที่กรงปินังห่างจุดตรวจแค่ 300 เมตร กำลังผสมเปิดปฏิบัติการเชิงรุกค้นแหล่งซุกน้ำมันเถื่อน-สินค้าเถื่อน ตำรวจโชว์ผลงานยึดรถผิดกฎหมาย 31 คันสกัดทำคาร์บอมบ์
บรรยากาศช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่อเค้า ดุเดือด และเริ่มมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นแล้ว โดยเมื่อกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย.2554 พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง ผู้กำกับการ สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่ร้านน้ำชาในหมู่บ้าน หมู่ 3 บ้านบางปู ต.บางปู อ.ยะหริ่ง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ แต่พลเมืองดีได้ช่วยกันนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลยะหริ่งแล้ว ทราบชื่อคือ นายดาหารี การี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ 3 ต.บางปู อ.ยะหริ่ง มีบาดแผลถูกมีดปลายแหลมแทงเข้าที่บริเวณหน้าท้องเป็นแผลฉกรรจ์ และสิ้นใจที่โรงพยาบาลเนื่องจากเสียเลือดมาก
สอบสวนทราบว่า นายดาหารีเป็นหัวคะแนนให้กับ นายอดิลัน อาลีอิสเฮาะ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ปัตตานี พรรคเพื่อไทย มีหน้าที่รับผิดชอบติดป้ายหาเสียงให้กับพรรคและนายอดิลัน ก่อนเกิดเหตุนายดาหารีนั่งดื่มน้ำชาภายในร้านและสนทนาเรื่องการเมืองกับชาว บ้านในพื้นที่ ระหว่างนั้นมีคนในร้านน้ำชา 2-3 คน คาดว่าเป็นกลุ่มสนับสนุนพรรคการเมืองคู่แข่ง คาดว่าไม่พอใจคำพูดของนายดาหารี จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น สุดท้ายหนึ่งในกลุ่มที่โต้เถียงกันได้เดินกลับบ้าน แล้วนำมีดปลายแหลมกลับมาแทงนายดาหารี ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปพร้อมพวก
หลังเกิดเหตุ นายอดิลัน ได้เดินทางไปดูศพนายดาหารี และกล่าวว่า การสังหารนายดาหารีเป็นนเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มสนับสนุนพรรคการเมืองคู่แข่งของเขาเอง และเป็นคนในพื้นที่เหมือนกัน
“สุเทพ”ล่องใต้นั่งรถโชเล่ย์หาเสียงไม่หวั่นบึ้ม
ก่อน หน้านั้น เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรักษาการรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย นายถาวร เสนเนียม รักษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และแกนนำพรรค กับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ได้ตระเวนลงพื้นที่หาเสียงในเขตตัวเมือง จ.ยะลา โดยนายสุเทพและคณะได้นั่งรถยนต์หกล้อ สลับกับรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง (รถโชเล่ย์) ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลนครยะลา โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ คอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคมั่นใจจะสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้ครบทุกเขตเลือกตั้ง จำนวน 11 เขต 11 คน เพราะจากการพูดคุยกับประชาชนทราบว่าพอใจกับการทำงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตลอดกว่า 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ให้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ขึ้นเ
ตำรวจ-ฝ่ายปกครองติวเข้ม จนท.ดูแลเลือกตั้ง
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 8 มิ.ย.ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ถนนสุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ได้เดินทางจากส่วนกลางลงมาเรียกประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตำรวจชุดปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งและชุดเคลื่อนที่เร็ว ประจำสถานีตำรวจในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 60 นาย
ทั้งนี้ นอกจาก ศชต.จะมีชุดเคลื่อนที่เร็วปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งแล้ว ยังมีการอบรมกำลังพลจำนวน 320 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัย (รปภ.) บุคคลสำคัญ เวทีหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งที่คิดว่าตนเองอาจถูกปองร้ายด้วย
ส่วนที่ห้องประชุมกังสดาล ชั้น 2 โรงแรมยะลาแกรนด์พาเลซ อ.เมือง จ.ยะลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้พบปะหารือกับผู้นำท้องที่ของ จ.ยะลา ตามโครงการพัฒนาประสิทธิภาพผู้นำท้องที่ จำนวน 5 อำเภอ 53 หมู่บ้าน 400 คน โดย นายกฤษฎา ได้เน้นย้ำให้ผู้นำท้องที่ทำความเข้าใจเรื่องการเลือกตั้งและวางตัวเป็นกลาง พร้อมช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อป้องกันเหตุร้ายและเหตุก่อความไม่สงบในพื้นที่
รัวกระสุนสาววัย 32 ปีดับหน้าบ้านที่ยะรัง-ยิงเฒ่า 60 หลังมัสยิดที่ยะหา
สำหรับสถานการณ์ความไม่สงบตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงสุดสัปดาห์ นี้ ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย.เวลา 11.15 น. คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง น.ส.มารูณี เบญไซดี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 บ้านบาซากาจิ หมู่ 2 ต.กระโด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลยะรัง เหตุเกิดขณะ น.ส.มารูณี นั่งคุยโทรศัพท์อยู่บริเวณหน้าบ้านของตนเอง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
เวลา 20.00 น.วันศุกร์ที่ 10 มิ.ย. พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้กำกับการ สภ.ยะหา จ.ยะลา ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณหลังมัสยิดบ้านอาเส็น หมู่ 6 ต.ยะหา ทราบว่าผู้ที่ถูกยิงคือ นายกาเดร์ เวาะกา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204 หมู่ 4 ต.ยะหา เหตุเกิดขณะนายกาเดร์กำลังเดินกลับบ้านหลังเสร็จจากพิธีละหมาดที่มัสยิด โดยคนร้ายมี 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ และใช้อาวุธปืนพกจ่อยิงกลางหลังของนายกาเดร์ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัวและการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความ ไม่สงบ
ดักถล่ม อส.บันนังสตาสิ้นชื่อ-เพื่อน ชรบ.บาดเจ็บ
เมื่อเวลา 22.45 น.วันพฤหัสบดีที่ 9 มิ.ย. พ.ต.ท.สาธิต จันศร พนักงานสอบสวน สภ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงเจ้าหน้าที่รัฐได้รับบาดเจ็บ บริเวณซอยกุโบร์ หมู่ 7 ตลาดกรงปินัง จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่ในซอยห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) ประมาณ 100 เมตร และห่างจากจุดตรวจ 3 ฝ่ายเพียง 300 เมตร พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กข 4736 ยะลา จอดเสียหลักอยู่ มีรอยถูกยิงจนตัวถังเป็นรูพรุน ส่วนผู้ถูกยิงทราบชื่อคือ นายมุสตาฟา ยามูดิง อายุ 27 ปี เป็นอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.บันนังสตา จ.ยะลา อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา อาการสาหัส และเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล อีกรายคือ นายรุสดี ดามูซอ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223 หมู่ 4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา เป็นชุดรักษาความปลอดภัย (ชรบ.) ถูกกระสุนเฉี่ยวที่สีข้าง บาดเจ็บเล็กน้อย
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมุสตาฟา กำลังขับรถยนต์เก๋งจาก อ.บันนังสตา เพื่อไปทำธุะที่ตลาดในเขต อ.เมืองยะลา โดยมีนายรุสดีซึ่งเป็นเพื่อนนั่งมาด้วยกัน เมื่อถึงตลาดกรงปินัง นายมุสตาฟาได้เลี้ยวรถเข้าไปรับเพื่อนอีกคนในซอยที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ามีคนร้าย 4 คนขี่รถจักรยายนต์ 2 คันตามประกบ และใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มจนนายมุสตาฟาเสียชีวิต และนายรุสดีได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อล้างแค้น ให้กับ นายมะแอ อภิบาลแบ แกนนำกลุ่มติดอาวุธคนสำคัญที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงวิสามัญฆาตกรรม เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
ช่วงค่ำวันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงถล่มจุดตรวจของทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ขณะกำลังตั้งด่านสกัดที่บริเวณสามแยกหน้าโรงเรียนบ้านบือเระ หมู่ 2 บ้านบือเระ 2 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส กระสุนตกบริเวณหลังคาโรงเรียนบ้านบือเระ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน
ยิงรายวันยังเพียบที่ระแงะ-สะบ้าย้อย
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 7 มิ.ย.เวลา 08.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนอาก้าซุ่มยิงชาวบ้านบริเวณริมถนนทางเข้าสวน ยางพาราบ้านฮูลู หมู่ 3 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ นางสอเด๊าะ สะมะแอ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 บ้านสาเม๊าะ หมู่ 8 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.ระแงะ ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะต้องการยิง นายซาฟาดี ตือระแยนา ซึ่งกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปสวนยางพารา แต่จังหวะที่คนร้ายลั่นไก นางสอเดาะได้ขี่รถอีกคันหนึ่งสวนทางมาเพื่อกลับบ้าน ทำให้กระสุนพลาดไปถูกนางสอเดาะ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการลอบยิง
เวลา 18.35 น.วันเดียวกัน คนร้ายจำนวน 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายแยดี เลาะสุหลง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/4 บ้านวังโอะ หมู่ 3 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะนายแยดีกำลังยืนอยู่บริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่บ้านของตนเอง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิงเช่นกัน
ค้นยะลา 5 จุดกวาดล้างแหล่งซุกน้ำมันเถื่อน-สินค้าหนีภาษี
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เปิดปฏิบัติการเชิงรุกหลายพื้นที่ด้วยกัน เริ่มจากช่วงเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 11 มิ.ย.หน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้นำกำลังทหารหลัก ทหารพราน ตำรวจ สภ.เมืองยะลา และตำรวจตระเวนชายแดน เข้าตรวจค้นแหล่งต้องสงสัยเกี่ยวพันกับการค้าน้ำมันเถื่อนและสินค้าเถื่อน พร้อมจับกุมบุคคลต้องสงสัยและยึดของกลางได้จำนวนมาก ประกอบด้วย
1) สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนนสุขยางค์ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา สามารถยึดโทรศัพท์มือถือได้ 5 เครื่อง และอาวุธปืนพก 2 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน
2) โกดังไม่มีเลขที่ในชุมชนหลังมัรกัส หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นลูกจ้างทำงานในโกดังเก็บบุหรี่ จำนวน 3 คน คือ นายอับดุลเลาะ มีมะ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 บ้านกอตอตือร๊ะ หมู่ 1 ต.กอตอตือร๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา นายอิบรอเฮ็ม ยาโงะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 บ้านบายอ หมู่ 1 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา และ นายมูรนัน แปอะ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 บ้านนิบงบารู หมู่ 7 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เอกสารเกี่ยวกับรัฐปัตตานี กระสุนปืน และบุหรี่หนีภาษีจำนวน 21,000 คอตตอน (หีบ)
3) โกดังไม่มีเลขที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้เคียง สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งทำงานเป็นลูกจ้าง จำนวน 3 คน ได้แก่ นายอิรฟาน อาลีมามะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 บ้านเจาะบันนัง หมู่ 9 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา นายมะกอซี กูเตะ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/2 บ้านจาเราะบองอ หมู่ 5 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และ นายอาฮาหมัด มาแจ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147/1 บ้านศาลาสอง หมู่ 4 ต.สะดาวา อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทั้งหมดเกี่ยวพันกับการค้าน้ำมันเถื่อน พร้อมยึดของกลางรถกระบะ 5 คัน และน้ำมันเถื่อนรวม 10,000 ลิตร
4) บ้านเลขที่ 56/17 ชุมชนหลังมัรกัส หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ยึดบัญชีเงินฝากธนาคารได้ 2 เล่ม สมุดบันทึก และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
5) บ้านเลขที่ 57 ชุมชนหลังมัรกัส หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเงินสด 194,200 บาท
เอ็กซเรย์บ้านต้องสงสัย 4 หลังที่บาเจาะเจอปืน-ชุดพราง
วันพฤหัสบดีที่ 9 มิ.ย.เวลา 06.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 นำกำลังเข้าลาดตระเวนพิสูจน์ทราบพื้นที่บ้านบูเกะดาแล (บ้านย่อยของบ้านบูเกะสูดอ) หมู่ 2 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส พบบ้านต้องสงสัยจำนวน 4 หลัง จึงเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น สามารถยึดยุทโธปกรณ์ได้เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย
1) บ้านเลขที่ 40 บ้านบูเกะสูดอ พบลำกล้องปืนลูกซองยาวสภาพเก่า จำนวน 1 อัน พร้อมเปลลายพราง เข็มทิศ ด้ามปืนอัดลม และปืนแก๊ปจำนวน 1 กระบอก
2) บ้านเลขที่ 91/2 บ้านบูเกะสูดอ พบชุดฝึกพราง 1 ตัว ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ปืนพกขนาด .38 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก และเครื่องกระสุน รวมทั้งวิทยุสื่อสารและโทรศัพท์มือถือ
3) บ้านเลขที่ 91/1 บ้านบูเกะสูดอ พบเสื้อและกางเกงลายพราง เสื้อนาวิกโยธิน สนับมือ สายไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และลูกแก้ว 1 กระปุก
ส่วน บ้านหลังที่ 4 ที่เข้าตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดส่งตรวจหาหลักฐานทางนิติวิทยา ศาสตร์
บุกยึดรถเถื่อน 31 คันสกัดคาร์บอมบ์
วันเดียวกัน ที่หน้าอาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ถนนสุขยางค์ อ.เมืองยะลา พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการ ศชต.ได้เปิดแถลงข่าวการตรวจยึดรถยนต์เถื่อนและรถยนต์ผิดกฎหมาย ตามนโยบายของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ที่ให้เพิ่มมาตรการป้องกันรถผิดกฎหมายที่อาจเกี่ยวข้องกับการนำไปก่อเหตุ ความไม่สงบในพื้นที่ และจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์รถจักรยานยนต์ (ศปจร.ศชต.) ขึ้น
ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติสามารถระดมกวาดล้างจับกุมรถยนต์ผิดกฎหมายในห้วงเดือน มี.ค.-ถึง มิ.ย.2554 ได้ทั้งสิ้น 31 คัน แบ่งเป็นรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหรือติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมจำนวน 3 คัน รถนำเข้าจากประเทศมาเลเซียโดยไม่ถูกต้อง (หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร) จำนวน 23 คัน รถโจรกรรมมาจากที่อื่น 2 คันและรถยนต์หลบหนีไฟแนนซ์ 3 คัน โดยจับกุมในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองยะลา สภ.เบตง จ.ยะลา สภ.อัยเยอร์เวง (อ.เบตง) สภ.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา สภ.เมืองปัตตานี และ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี มูลค่ารถกว่า 50 ล้านบาท
พล.ต.ต.เดชณรงค์ กล่าวว่า รถที่นำมาประกอบระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีที่มา 3 ทางด้วยกัน คือ 1.รถที่ลักมา 2.รถที่หนีไฟแนนซ์ หรือรถที่เช่าซื้อแล้วเปลี่ยนมือมาเรื่อยๆ และ 3.รถที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งทาง ศชต.ได้จัดกำลังติดตามค้นหารถในลักษณะดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว พบว่ามีการปลอมแปลงทั้งแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลขตัวถัง และเปลี่ยนสีรถ เพื่อส่งให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนำไปก่อเหตุระเบิดในพื้นที่ต่างๆ ฉะนั้นจึงอยากฝากเตือนประชาชนที่มีเจตนาสุจริตว่า อย่าซื้อรถหนีไฟแนนซ์ รถจำนำ หรือรถที่ไม่มั่นใจว่ามีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง เพราะอาจมีความผิดตามกฎหมาย หากสงสัยให้สอบถามเจ้าหน้าที่รัฐ หรือโทรสอบถาม ศปจร.ศชต. ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 073-203690 และ 073-220200
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เจ้าหน้าที่ลำเลียงผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถ อส. และ ชรบ.บันนังสตา ในพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เหตุเกิดเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 9 มิ.ย.
2 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นั่งรถโชเล่ย์ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียงในเขตเมืองยะลา
3 รถเถื่อนบางส่วนที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ยึดได้ โดยเชื่อว่าจะสามารถสกัดไม่ให้คนร้ายนำไปทำคาร์บอมบ์