- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ยิงครูสอนศาสนาดับอีก ชี้หวัง"ตอกลิ่ม"-ทหารปรับแผน รปภ.
ยิงครูสอนศาสนาดับอีก ชี้หวัง"ตอกลิ่ม"-ทหารปรับแผน รปภ.
ใต้เดือดรายวัน คนร้ายควงเอ็ม 16 ยิงครูสอนศาสนาเสียชีวิตคาบ้านที่หนองจิกขณะอาบน้ำเตรียมละหมาดตอนเช้ามืด หลังเพิ่งสังหารครูพุทธเพียง 1 วัน เชื่อเป็นแผนตอกลิ่มศาสนา สร้างความหวาดระแวง กอ.รมน.ภาค 4 เต้นปรับแผนรักษาความปลอดภัย ใช้การตรวจการณ์ทางอากาศผสานชาวบ้านช่วยเป็นหูเป็นตา ขณะที่ยิงรายวันยังเพียบ สองผัวเมีย-อดีต ชรบ.สังเวย
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 05.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 4 ส.ค.2554 ร.ต.ท.รณชัย วิมลสมบัติ ร้อยเวร สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณหลังบ้านเลขที่ 77/5 หมู่ 3 บ้านต้นไผ่ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกยิงคือ นายอัลอัซมี เจ๊ะมะ อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของบ้าน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าที่ลำตัวและศีรษะ โดยนายอัลอัซมีเป็นครูสอนศาสนาโรงเรียนประทีปวิทยา อ.หนองจิก
จากการสอบปากคำภรรยาของนายอัลอัซมี ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอัลอัซมี กำลังอาบน้ำละหมาดบริเวณหลังบ้านซึ่งติดกับป่ายางพารา จังหวะนั้นคนร้ายซึ่งดักซุ่มอยู่ในมุมมืดได้เดินออกมา ในมือถือปืนเอ็ม 16 และได้พูดข่มขู่ภรรยาของนายอัลอัซมีให้เข้าไปในบ้านและปิดประตู จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เมื่อเปิดประตูดูก็พบสามีฟุนหน้าลงกับพื้นไปแล้ว จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทัน สามีสิ้นใจระหว่างทาง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ชี้ยิงครูพุทธ-มุสลิมตั้งใจตอกลิ่มศาสนา
เหตุการณ์สังหารนายอัลอัสมิง ซึ่งเป็นครูสอนศาสนาโรงเรียนประทีปวิทยา เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์คนร้ายลอบยิง นายนภดล ศศิมณฑล อายุ 51 ปี ครูไทยพุทธจากโรงเรียนบ้านตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี เสียชีวิตเพียง 1 วัน ทำให้มีหลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ถึงเจตนาของคนร้าย
นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 กล่าวว่า การก่อเหตุทำร้ายครูรายวัน ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของครูในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความพยายามในการจุดชนวนความหวาดผวาและหวาดระแวงให้กับกลุ่มครู ด้วยการสร้างสถานการณ์ยิงครูที่เป็นไทยพุทธและมุสลิมในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน
“ในความรู้สึกของครู ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม เรามีหน้าที่รับผิดชอบเหมือนกัน คือสอนหนังสือและให้ความรู้เด็ก ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้วงการศึกษาชายแดนภาคใต้ต้องเสียบุคลากรสำคัญไปถึง 2 รายในช่วงเวลาเพียง 2 วัน แต่กลุ่มผู้ไม่หวังดีกลับนำความสูญเสียเช่นนี้มาเป็นเครื่องมือในการสร้างความหวาดระแวงให้กับคนในแวดวงการศึกษาด้วยกัน จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก และอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด" นายสุรศักดิ์ ระบุ
โรงเรียนครูนภดลหยุดสอนถึงจันทร์หน้า
ขณะที่ นางพรนิดา ทองชุม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ กล่าวว่า ได้ประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราวจนถึงสุดสัปดาห์นี้ และจะเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 8 ส.ค. เพราะทุกคนยังเสียขวัญ ทั้งยังเพื่อเปิดโอกาสให้คณะครู ผู้ปกครอง และนักเรียนไปร่วมพิธีศพครูนภดลเป็นครั้งสุดท้าย
"ครูนภดลเป็นคนดีมาก ใจดี เป็นที่รักของเด็กๆ ในโรงเรียน เนื่องจากทุกๆ วันเวลาขี่รถไปสอนหนังสือ มักจะแวะรับเด็กนักเรียนที่ต้องเดินไปโรงเรียนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วยเสมอ เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำให้ทุกคนตกใจ เสียใจ และเสียขวัญ ทั้งๆ ที่ครูมีเพียงดินสอกับปากกาเป็นอาวุธทางปัญญาให้กับเยาวชน แต่กลับถูกทำร้ายถึงชีวิต" นางพรนิดา กล่าว
กอ.รมน.เครียดสั่งปรับแผน รปภ.ครูใต้
วันเดียวกัน ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 1 อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้เดินทางเข้าพบ นายมานพ บุญทวิโรจน์ รองประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหารือถึงเหตุการณ์คนร้ายลอบสังหารครู และการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน
พล.ต.อัคร กล่าวว่า จะต้องไปพูดคุยกับครู รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ ว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร รวมทั้งครูมีความต้องการอะไรบ้าง หลังจากนี้จะจับมือกับสมาพันธ์ครูเพื่อป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยมาตรการหลักๆ มี 3 อย่าง คือ 1.การตรวจการณ์ทางอากาศ 2.การขอความร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยเป็นหูเป็นตา และ 3.ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันดูแล เพื่อปิดจุดอ่อนทั้งหมด
ด้านนายมานพ กล่าวว่า เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร ซึ่งที่ผ่านมา กอ.รมน.ก็เรียกประชุมทุกเดือน แม่ทัพภาคที่ 4 ก็ความตั้งใจ แต่การทำงานก็ต้องมีจุดอ่อนบ้างเป็นธรรมดา จึงไม่ขอตำหนิอะไร แต่ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์ร้ายแบบนี้เกิดขึ้นอีก
สองสามีภรรยา-อดีต ชรบ.สังเวยอีก 3 ศพ
ตลอดวันพฤหัสบดีที่ 4 ส.ค. ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอีกหลายเหตุการณ์ เริ่มจากเวลา 07.17 น. คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ประกบยิง มะหามะสือมาย เจะแต อายุ 38 ปี กับ นางมาซีรา มะเด็ง อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิต เหตุเกิดขณะทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้าน หมู่ 3 บ้านปายอ ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เพื่อไปกรีดยางพารา โดยนายมะหามะสือมายเป็นคนขับ และนางมาซีราเป็นคนซ้อน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
เวลา 11.45 น. คนร้ายจำนวน 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายดอรอแม เพชรเชิงเขา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/5 หมู่ 2 ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้าน หมู่ 5 บ้านสะโตร์ ต.อาซ่อง เพื่อไปทำธุระ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพราะผู้ตายเคยเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ของหมู่ 2 ต.อาซ่อง
เวลา 16.15 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิง นายหามะ เปาะจิ อายุ 46 ปี เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 120/1 หมู่ 4 ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านของนายหามะเอง จากนั้นเวลา 16.45 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายทรงเกียรติ กุลบุตร อายุ 28 ปี อาชีพนายพราน ขณะขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างกลับจากหาของป่ากับเพื่อน เมื่อถึงบริเวณสะพานบ้านค่าย หมู่ 6 ต.ปูโละปูโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้ถูกคนร้ายซุ่มยิงได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่
-------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : บ้านของ นายอัลอัซมี เจ๊ะมะ ใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ครูสอนศาสนาที่ถูกยิงเสียชีวิตรายล่าสุด (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังหนิ)
ขอบคุณ : ข้อมูลข่าวบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น