- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- เศรษฐกิจ การเงิน การคลัง
- ‘วิทยากร เชียงกูล’ ชงโละระบบมือใครยาว สาวได้สาวเอา เน้นแข่งขันตลาดเป็นธรรม
‘วิทยากร เชียงกูล’ ชงโละระบบมือใครยาว สาวได้สาวเอา เน้นแข่งขันตลาดเป็นธรรม
นักวิชาการนิด้า หวังอนาคตขยายหลักประกันเอื้อแรงงานนอกระบบ 30 ล้านคน บ่นอุบเสียดาย! รัฐดองกองทุนการออมฯ 'รศ.นวลน้อย' จี้ตั้งองค์กรอิสระเพื่อผู้บริโภค หลังล่าช้า 17 ปี ใช้ถ่วงดุลกม.เเข่งขันทางการค้า 'วิทยากร เชียงกูล' เเนะเขียน รธน.เน้นตลาดเเข่งขันเป็นธรรม
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) จัดสัมมนา ‘แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม’ ณ สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ชั้น 16 อาคารซอฟต์แวร์ ปาร์ค จ.นนทบุรี
ศ.ดร.ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐหลายอย่างได้ดำเนินการอยู่แล้ว เช่น นโยบายการศึกษาฟรี 12 ปี หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นต้น แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญต่อไป คือ การพัฒนาหลักประกันทางสังคม เพื่อความมั่นคงในชีวิต ด้วยการผลักดันระบบบำนาญแห่งชาติ
ทั้งนี้ ไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะสถาบันครอบครัวมีขนาดเล็กลง ลูกหลานไม่ได้อยู่ด้วยกัน ดังนั้นต้องหาวิธีขยายหลักประกันให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ 30 ล้านคน ที่ยังไม่เข้าถึงระบบ ซึ่งน่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ดำเนินการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ตั้งแต่ปี 2554
ส่วนการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นนั้น นักวิชาการ นิด้า ระบุว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญต้องขับเคลื่อน เพราะเรากระจายอำนาจมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ มิหนำซ้ำยังมีแนวคิดกลับมารวมศูนย์อำนาจอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดี ฉะนั้นประชาชนต้องเรียกร้องให้มีการบริหารจัดการแบบกระจายอำนาจต่อไป
ด้านรศ.ดร.วิทยากร เชียงกูล คณบดีกิตติคุณ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า การดำเนินแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐได้ผลต้องขับเคลื่อนควบคู่กับสิทธิเสรีภาพ เพราะปัญหาของการร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา มักเขียนสวย แต่บังคับใช้ไม่ได้ ฉะนั้นต้องมาคิดว่า ทำอย่างไรให้กฎหมายถูกบังคับได้ โดยกำหนดให้ชัดเจนต้องดำเนินนโยบายภายใน 1-2 ปี หากเขียนกว้าง ๆ จะไม่มีความหมาย เสมือนเป็นแผนนโยบายมากกว่า
“สิทธิประชาชนที่ควรจะได้รับ คือ สิทธิทางเศรษฐกิจ ต้องสร้างความเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต แต่เวลานี้ยังมีความเหลื่อมล้ำเรื่องดังกล่าวอยู่ ฉะนั้นต้องกระจายทรัพย์สินที่สร้างโอกาสงานอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่แจกรายได้เพิ่ม” นักวิชาการ ม.รังสิต กล่าว และว่านโยบายการตลาดแบบเสรีก็ไม่ใช่ระบบเสรีแท้จริง ทว่า มือใครยาว สาวได้สาวเอา ถือเป็นคำหลอกลวง จึงเสนอให้เขียนในรัฐธรรมนูญเน้นการตลาดอย่างเป็นธรรม เพื่อพ่อค้ารายย่อยจะสามารถดำรงชีพอยู่ได้
ขณะที่นายศรีสุวรรณ ควรขจร คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) กล่าวว่า รัฐสร้างระบบคมนาคมเป็นใยแมงมุม จึงต้องเพิ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้มีคนไม่กี่คนที่จะเขียนขึ้นมา หากอำนาจรัฐถูกใช้ไม่ดีจะกดดันให้เกิดการต่อต้านในระดับท้องถิ่น ฉะนั้นต้องกระจายอำนาจ โดยเฉพาะกรณีการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ก็ไม่อาจหวังหน่วยงานภาครัฐเป็นองค์กรนำหันเหทิศทางการพัฒนาสู่โหมดความยั่งยืนได้
แม้กระทั่งรัฐบาลปัจจุบันก็ไม่เห็นว่าจะหันเหไปสู่ทิศทางการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนได้ ฉะนั้นความหวังจึงอยู่ที่ท้องถิ่นที่มีสิ่งประจักษ์ว่าองค์กรเหล่านั้นมีขีดความสามารถจะดูแล และไม่ถูกบั่นทอนกำลังจากวิธีการบริหารประเทศของรัฐบาล จึงต้องทำให้อำนาจส่วนกลางถูกจำกัดลง และเพิ่มอำนาจส่วนท้องถิ่น
“สิทธิชุมชนต้องเขียนให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และไม่อยู่ในสถานะระดับล่าง เมื่อปรากฏชัดเจนแล้ว เชื่อว่าความตื่นตัวทางการเมืองของท้องถิ่นจะสำแดงฤทธิ์ และจะจัดสมดุลใหม่ให้มีอำนาจตัดสินใจ” ผู้แทน กป.อพช. กล่าว
ด้านรศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า นโยบายเศรษฐกิจต้องเสรีและเป็นธรรม เพื่อถ่วงดุลในระบบ แต่รัฐไทยกลับปล่อยให้มีการแข่งขันแบบเสรีไม่จริง ซึ่งที่ผ่านมามีงานศึกษาวิจัยหลายชิ้นระบุระบบเศรษฐกิจไทยเป็นแบบผูกขาด โดยมีสาเหตุการออกกฎกติกาของรัฐเอื้อให้มีการแข่งขันน้อยลง ถึงแม้จะมีกฎหมายส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าก็ตาม ทว่ากลับไม่มีประสิทธิภาพ จึงต้องทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นอิสระจากระบบราชการ เพื่อการลงโทษกลุ่มธุรกิจที่กระทำผิด เพราะที่ผ่านมาไม่เคยพบบริษัทใดถูกลงโทษเลย
ทั้งนี้ ในต่างประเทศจะมีการถ่วงดุลกันระหว่างกฎหมายส่งเสริมการแข่งขันทางการค้ากับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อป้องกันการกีดกันกลุ่มธุรกิจรายเล็กแข่งขันในตลาด เเต่ไทยละเลยการจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคนานถึง 17 ปี เพราะรัฐไม่ต้องการให้เกิดขึ้น โดยอ้างว่ามีอำนาจหน้าที่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานราชการ ฉะนั้นหากไทยยังไม่มีกลไกในการถ่วงดุล การพัฒนาเศรษฐกิจภาคประชาชนจะเกิดขึ้นไม่ได้ .
ภาพประกอบ:phd777.blogspot.com