- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- การสร้างสำนึกร่วมของชุมชน
- มอ.เผยผลวิจัย 'หาดใหญ่โมเดล' หัวใจคือระบบบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม
มอ.เผยผลวิจัย 'หาดใหญ่โมเดล' หัวใจคือระบบบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม
น้ำท่วมเราสามารถพยากรณ์และเตือนภัยได้ วช.ขนงานวิจัยรองรับภัยพิบัติโชว์ มีทั้งเว็บเฝ้าระวัง เตือนภัย ตรวจสภาพอากาศในระบบ 3 มิติ แบบ realtime แบบจำลองคาดคะเนปริมาณฝนตก
วันที่ 28 สิงหาคม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดงาน "การนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ 2555" หรือ "ไทยแลนด์ รีเสิร์ช เอ็กซ์โป 2012 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย โดยห้องสัมมนาย่อย ในหัวข้อ "น้ำท่วมเราสามารถพยากรณ์และเตือนภัยได้" รศ.ดร.ธนิต เฉลิมยานนท์ หัวหน้าศูนย์วิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำเสนอผลงานวิจัย เรื่อง "ระบบเตือนภัยน้ำท่วมหาดใหญ่" การศึกษาน้ำท่วมกรณีหาดใหญ่โมเดล
รศ.ดร.ธนิต กล่าวว่า หัวใจของระบบเตือนภัยน้ำท่วมหาดใหญ่อยู่ที่การบริหารจัดการ ผนวกกับข้อมูล ความรู้ และเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้รูปแบบการทำงานเชิงบูรณาการจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน และเครือข่ายประชาชนต่าง ๆ โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นตัวประสานเชื่อมโยงการทำงาน ใช้วิชาการนำ
รศ.ดร.ธนิต อธิบายการบริหารจัดการดังกล่าวให้เห็นภาพชัด โดยยกกรณีนำท่วมหาดใหญ่เมื่อต้นปี 2555 ที่ผ่านมาว่า หาดใหญ่เป็นพื้นที่ปลายน้ำของลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา มีสภาพเป็นแอ่งกระทะรองรับน้ำ เกิดน้ำท่วมบ่อยเฉลี่ย 10-12 ปีจะท่วมใหญ่หนึ่งครั้ง ในปัจจุบันมีการตัั้ง คณะอนุกรรมการประเมินสถานการณ์น้ำ จังหวัดสงขลา 2554 ขึ้น เพื่อทำหน้าที่ประเมินสถานการณ์และแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วม โดยจะต้องประกาศเตือนประชาชนล่วงหน้า 9-10 ชั่วโมงหากประเมินได้ว่าน้ำจะท่วมหาดใหญ่แน่
" เมื่อฝนที่ตกหนักซึ่งเป็นผลจากร่องความกดอากาศต่ำหรือพายุต่าง ๆ เจ้าหน้าที่กรมชลประทานจะต้องเฝ้าระวังดูระดับน้ำที่จุดวัดระดับน้ำบางศาลา จุดนี้เป็นจุดที่สำคัญที่สุด ถ้าระดับน้ำถึง 8 เมตรเมื่อไหร่ กรมชลฯต้องแจ้งคณะอนุกรรมการประเมินสถานการณ์น้ำฯทันที เพื่อคณะอนุกรรมการฯจะได้ตั้ง War Room เฝ้าระวัง ขณะเดียวกัน ด้านสถานีวิทยุทั้งจังหวัดก็จะแปรมาเป็นวิทยุเตือนภัย เพราะจากประสบการณ์ ถ้าน้ำที่จุดวัดระดับน้ำนี้ถึง 9 เมตรเมื่อไหร่ น้ำท่วมหาดใหญ่แน่ และปัจจุบันได้ติดตั้งกล้อง CCTV ที่จุดบางศาลา เพื่อเช็คระดับน้ำได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขจัดข่าวลือเรื่องระดับน้ำได้อย่างเด็ดขาด"
รศ.ดร.ธนิต กล่าวถึงขั้นตอนต่อว่า จากนั้นประธานอนุกรรมการฯจะเรียกประชุม และลงความเห็นเพื่อแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเตือนธงเหลือง หรือธงแดง ตามความรุนแรงของสถานการณ์น้ำ หรือมีความเห็นควรประกาศลดธงเมื่อสถานการณ์น้ำคลี่คลาย ซึ่งการทำงานในขั้นตอนนี้ต้องอาศัยเงื่อนไขจากหลายฝ่ายเข้ามาประกอบ เช่น ความสามารถในการสูบน้ำออกของกรมชลประทาน เป็นต้น
"จากเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่เมื่อต้นปี 2555 สามารถประกาศเตือนภัยให้ประชาชนอพยพและขนย้ายทรัพย์สินไปไว้ที่ปลอดภัยได้ก่อนน้ำท่วมจริง 9 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการทำงานเชิงบูรณาการทุกภาคส่วนของหาดใหญ่โมเดล"
ระบบสารสนเทศเฝ้าระวังภัย
ด้าน ดร.สมพร ช่วยอารีย์ ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นำเสนอผลการวิจัย "ระบบสารสนเทศเพื่อการสนับสนุนการเฝ้าระวังภัยธรรมชาติแบบมีส่วนร่วม (PBWatch.net)" ที่เรียกความสนใจจากผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เป็นอย่างมาก
โดย PBWatch หรือ "เครือข่ายเฝ้าระวังภัยพิบัติลุ่มน้ำปัตตานี" เป็นโครงการสร้างระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการเฝ้าระวังภัยพิบัติอย่างมีส่วนร่วม มีระบบข้อมูลบริการทางอินเทอร์เน็ตผ่าน www.pbwatch.net เพื่อให้ชาวบ้านและเครือข่ายอาสาสมัครในพื้นที่สามารถติดตามเฝ้าระวังภัยและประเมินสถานการณ์อากาศได้ โดยข้อมูลจะเชื่อมโยงจากกับข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน เป็นต้น
ดร.สมพร ได้สาธิตการเข้าใช้บริการข้อมูลจาก pbwatch.net ที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจโดยการสามารถดูแผนที่สภาพอากาศ เช่น พายุ มรสุม ทิศทางกระแสลม เพื่อพยากรณ์และรายงานอากาศภาคใต้ในแบบ 3 มิติ สามารถตรวจสภาพพื้นที่ฝนตกล่าสุดในระดับอำเภอ ภาพดาวเทียมแสดงการเคลื่อนที่ของตัวเมฆ 24 ชั่วโมง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ระบบดังกล่าวสามารถรายงานได้แบบ real time ตรวจสอบความถูกต้องได้ จากข้อมูลติดต่อเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยที่อยู่ในพื้นที่
นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังบริการข้อมูลเชื่อมโยงอื่นอีกเช่น ปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำในแม่น้ำ ข้อมูลระดับน้ำทะเล ข้อมูลแผ่นดินไหว ภาพเรดาร์ตรวจอากาศ เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากการนำเสนอผลงานวิจัยที่เกียวกับภัยพิบัติ เช่น ระบบเตือนภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ โดย รศ.ดร.ธนิต เฉลิมยานนท์, ระบบสารสนเทศเพื่อการสนับสนุนการเฝ้าระวังภัยธรรมชาติแบบมีส่วนร่วม (PBWatch.net) โดย ดร.สมพร ช่วยอารีย์แล้ว
โซนนิทรรศการงานวิจัยรองรับภัยพิบัติ มีการจัดแสดง ชุดอาหารยังชีพสำหรับผู้ประสบภัย (ข้าวผัดบรรจุถุงทนร้อน) โดย ผศ.ดร.เสาวคนธ์ วัฒนจันทร์,การประมาณค่าหยาดน้ำฟ้าจากดาวเทียม การพยากรณ์อากาศความละเอียดสูงสำหรับประเทศไทย สาเหตุของวิกฤติแม่โขงแห้ง 2553 และมหาอุทุกภัย 2554 โดย ผศ.ดร.ชินวัชร์ สุรัสวดี
การเปิดเว็บไซต์ Thaicrisis.org รายงานสถานการณ์น้ำท่วม ของรศ.ดร.ไพศาล สันติธรรมนนท์ จากจุฬาฯ ,การจัดการน้ำโดยระบบสารสนเทศเชิงพื้นที่ โดยดร.สุจริต คูนธนกุลวงศ์ จากจุฬาฯ,การใช้แบบจำลอง Couple model คาดคะเนปริมาณฝนตกในประเทศไทย โดยรศ.ดร.อุษา ฮัมฟรี่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และใช้โปรแกรมสำเร็จรูปร่วมกับภูมิปัญญาพื้นบ้านเตือนภัยน้ำป่าและแผ่นดินถล่ม โดยดร.พงษ์ศักดิ์ วิทวัสชุติกุล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นต้น