- Home
- Thaireform
- สารคดีเชิงข่าว
- ชุมชนตึกแดง ‘โมเดล’ การศึกษาของเด็กในสลัม
ชุมชนตึกแดง ‘โมเดล’ การศึกษาของเด็กในสลัม
คำถามหนึ่งที่ผู้ใหญ่มักถามเด็กๆ อยู่เสมอคือ โตขึ้นอยากเป็นอะไร...?
ครู หมอ นักบิน ทหาร...คำตอบยอดฮิต ที่เป็นความฝัน ความหวังของใครหลายคน
แต่ทว่า ในยุคปัจจุบันที่การศึกษาไม่มีความเท่าเทียม ไม่เป็นธรรม อาจบีบคั้นให้เด็กบางคนถึงทางตัน ด้วยเพราะข้อจำกัดของชีวิต ที่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองมากพอ สำหรับลงทุนด้านการศึกษา โดยเฉพาะเด็ก เยาวชนด้อยโอกาสในชุมชนแออัด หรือ ‘สลัม’ ที่มีจำนวนถึง 1,900 แห่งทั่วกรุงเทพ!!
“ครูปู่” หรือ ธีระรัตน์ ชูอำนาจ แกนนำอาสาสมัครกลุ่ม ซ.โซ่อาสา วัย 78 ปี เข้าใจวิถีชีวิตของเด็กในสลัมเป็นอย่างดี 12 ปีแห่งการอาสาสอนหนังสือให้กับเด็กทั้งที่ชุมชนตรอกสาเก ริมคลองหลอด, ใต้สะพานอรุณอัมรินทร์, สวนลุมพินี และชุมชนตึกแดง บางซื่อ
“เดิมที่นี่มีแต่ลานโล่งๆ กับเต็นท์เก่าๆ หนึ่งหลัง” ครูปู่ชี้ไปที่บริเวณใต้ต้นโพธิ์ ก่อนเริ่มต้นบทสนทนา ด้วยการหยิบยกชุมชนตึกแดง เป็นกรณีศึกษา
เขาย้อนกลับไปเล่าตั้งแต่เริ่มแรกที่ได้เข้ามาสอน "เมื่อผมคิดว่า จะพัฒนาเด็กให้เจริญงอกงาม ก็น่าจะมีสถานที่ อุปกรณ์การเรียนการสอน โต๊ะ เก้าอี้ให้เด็กๆ นั่งเรียนสบายๆ ดังนั้น ทางกลุ่ม ซ.โซ่ และชาวชุมชนตึกแดงจึงระดมทุนคนละเล็กคนละน้อย แบ่งส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟฟ้า อีกส่วนก็ได้รับเงินสนับสนุนจากผู้มีน้ำใจมาสร้างหลังคาคุ้มแดดคุ้มฝน นอกจากนี้ยังมีหลายหน่วยงานสมทบอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม"
ปัจจุบันชุมชนตึกแดง เรียกได้ว่า มีความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรียนการสอนสมบูรณ์ ไม่ตกหล่นทั้งด้านไอที หรือแหล่งความรู้อย่าง ‘ห้องสมุด’ แต่สิ่งที่ขาดแคลน “ครูปู่” บอกว่า กลับเป็น ‘ครู’ โดยเฉพาะครูด้านศิลปะ ดนตรี ส่วนด้านวิชาการ ไม่ว่าจะคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ปัญหา เพราะมีครูอาสาสมัครมากพอแล้ว
ส่วนปัญหาของเด็กสลัมจากที่ ครูปู่ได้สัมผัสมา คงหนีไม่พ้นเรื่องเด็กยากจน ติดยาเสพติด รวมทั้งแม่วัยรุ่น ขณะที่เด็กบางคนไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะไม่มีแม้กระทั่งค่ารถ ค่าเดินทาง นี่ยังไม่นับรวมกับกลุ่มที่ไม่มีค่าเล่าเรียน ซึ่งชัดเจนว่า ทางกลุ่ม ซ.โซ่อาสา และคณะกรรมการชุมชนต้องเข้าไปช่วยเหลือ โดยได้หารือกันแล้ว และเตรียมมอบทุนค่ารถให้เด็กกลุ่มดังกล่าว ในช่วงเปิดเทอมการศึกษาปี 2554 นี้
สำหรับแนวทางการเรียนการสอนที่ ‘ครูปู่’ นำมาใช้ก็ไม่มีเคล็ดลับอะไรมากมาย ยึดแค่หลัก ‘จริยธรรมสอดไส้ความรู้’ เนื่องจากเขามองว่า แก่นของการศึกษา ไม่ได้อยู่ที่เรียนเก่ง แต่ขอให้เด็กเป็นคนดี รับผิดชอบตนเองได้เท่านั้นพอ และด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว ทำให้ทุกวันนี้ เด็กที่ตึกแดงร้อยละ 80 ได้ร่ำเรียนหนังสือ ถึงขั้นอ่านออก เขียนได้ แถมบางรายยังพูดภาษาอังกฤษได้ดีอีกด้วย
เพียงแค่นั้น ก็ยังไม่ทำให้ ครูปู่ รู้สึกพอใจ ด้วยเพราะโอกาสทางการศึกษาดังกล่าว ยังจำกัดอยู่ในวงแคบๆ ไม่สามารถขยายให้ครอบคลุมทุกชุมชนแออัดทั่วกรุงเทพฯ ได้ เนื่องจากติดขัด ขาด "อาสาสมัคร" ที่จะเข้ามาทำงานด้านนี้
“ชุมชนแออัดทั่วกรุงเทพฯมี 1,900 แห่ง คิดคร่าวๆ แต่ละแห่งต้องใช้ครูอาสา 20 คน เท่ากับว่า กลุ่ม ซ.โซ่อาสา ต้องมีแนวร่วมถึง 38,000 คนต่อให้ผมตาย ก็ยังดูเลือนราง” ชายวัย 78 ปี คิดคำนวณให้ดูอย่างหมดความหวัง ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ โดยเขาเชื่อว่า หากประเทศไทยเริ่มต้นสร้างวัฒนธรรมอาสาตั้งแต่วันนี้ อนาคตความฝันอาจมีวันเป็นจริงขึ้นมา ไม่วันใดก็หนึ่ง...
อาสาสอนหนังสือ 'ยาดี' แก้ปัญหาสังคม
1 ในสมาชิกชุมชนตึกแดงอย่าง "เด็กหญิงวรรณวิชู หาญจิตร" หรือ น้องมิล วัย12 ปี ถ่ายทอดเรื่องราวการเรียนที่ห้องเรียนใหญ่ของชุมชน หรือที่รู้จักดีในนาม ‘ลานโพธิ์’ ว่า บรรยากาศการเรียนการสอนเป็นไปอย่างสนุกสนาน
“ครูปู่จะเข้ามาสอนการบ้าน ในช่วงเย็นของวันอังคารและพฤหัสบดี ข้อไหนที่สงสัย หรือตีโจทย์ไม่ออก ครูปู่ก็ใจเย็นช่วยสอน”
ส่วนในวันเสาร์ ห้องเรียน ณ ลานโพธิ์แห่งนี้ จะเปิดสอนตั้งแต่ 9 โมงเช้า ไปสิ้นสุดเมื่อถึงเวลาเที่ยงวัน โดยการเรียนในวันหยุดนั้น นอกจากเด็กจะได้ความรู้แล้ว ยังได้ทำกิจกรรมใหม่ๆ ตลอดเวลา โดยครูอาสาที่เข้ามาสอนจะผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนกันไป ช่วงหนึ่งเด็กอาจได้เรียนเพ้นท์สีเสื้อ วาดภาพ ขึ้นอยู่กับว่า ครูอาสาจะหอบหิ้วความรู้ด้านใดมาฝาก อย่างเช่นขณะนี้ที่เรากำลังพูดคุยอยู่ น้องมิล กำลังเรียนด้านการแสดง
ด้วยเพราะห้องเรียนแห่งนี้มีกิจกรรมหลากหลาย จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นเด็กประมาณ 70-150 คน รวมตัวกันมาที่นี่ในทุกๆ วันเสาร์ เรียนบ้าง เล่นบ้างตามประสา
“ก่อนหน้านี้หนูอ่านหนังสือไม่ออก แม้จะเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 แล้ว ตอนนั้นจำได้ว่า เรียนไม่ทันเพื่อน แถมยังรู้สึกไม่มั่นใจอีกด้วย”” มิล สะท้อนปัญหาของเธอและเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน พร้อมกับบอกว่า ทุกวันนี้หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เพราะได้ครูปู่ ครูอาสาเข้ามาช่วยสอนเสริม
ชุมชนตึกแดง ‘โมเดล’ การศึกษาของเด็กสลัม
นับตั้งแต่ปี 2550 ที่ครูปู่เข้ามาสอนหนังสือ กระทั่งปัจจุบันชัดเจนว่า ชุมชนตึกแดง ที่เคยมีปัญหาเรื่องยาเสพติด เด็กอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
“อรุณศรี อินทร์อยู่” รองประธานคณะกรรมชุมชนตึกแดง ยืนยัน ก่อนจะเล่าให้ฟังว่า โอกาสในการเรียน ช่วยพลิกชีวิตของเด็กจำนวนมาก จากที่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าว เจอกันเมื่อไหร่เป็นต้องตีกัน กลายเป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะ สนใจเล่าเรียนหนังสือมากขึ้น
ฉะนั้น เมื่อชาวบ้านได้เห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น ก็เริ่มให้ความสำคัญและอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาเด็ก ชุมชนตึกแดง จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อทำงานด้านการศึกษาของชุมชนร่วมกับกลุ่ม ซ.โซ่ของครูปู่ โดยคณะกรรมการจะมีหน้าที่ตั้งแต่บริหารจัดการทิศทางการศึกษาของชุมชน กระทั่งกวาดพื้น จัดเตรียมสถานที่ ทำอาหารเลี้ยงเด็ก
เรียกว่า ดูแลทุกสิ่งอย่าง โดยใช้หลักว่า ใครว่างก็มาช่วยกันคนละไม้ละมือ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม
เธอเล่าต่อไปว่า ทุกวันนี้สถานการณ์ของชุมชน เรียกว่า อยู่ในระดับน่าภูมิใจ เพราะเมื่อไปประชุมร่วมกับชุมชนอื่น มักจะได้ยินได้ฟังว่า ชุมชนตึกแดงนั้นดี มีครูอาสามาช่วยสอนหนังสือ หลายชุมชนอยากเอาอย่างบ้าง แต่ไม่มีผู้นำที่เอาจริงเอาจังอย่างครูปู่ ทำให้ที่ผ่านมาชุมชนอื่น ทำได้แค่เพียงโครงการ หรือกิจกรรมที่มีลักษณะประเดี๋ยวประด๋าว ไม่นานก็ล้มหายไป
สัญญาณที่ดูจะชัดเจน และน่ายินดี ก็คือ ชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเอกชน ภาคอาสาสมัคร ต่างขยับเข้ามามีส่วนร่วมด้านการศึกษามากขึ้น ในทางตรงกันข้าม บทบาทของรัฐบาลที่เข้ามาช่วยเหลือกลับไม่เพียงพอ ไม่ทั่วถึง อย่างนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ก็ยังเป็นที่น่าสงสัยว่า เรียนฟรีจริงหรือไม่ เมื่อต้องเสียค่าใช้จ่ายจิปาถะจำนวนมาก
ฉะนั้น คำถามคือ รัฐบาลจะทำอย่างไรให้เด็กในชุมชนแออัด ที่พ่อแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำ ได้มีชีวิตและการศึกษาที่ดีพอ....