- Home
- Thaireform
- สารคดีเชิงข่าว
- พ.ร.ฎ. อภัยโทษ ‘ซ้ำเติม’ วิกฤติประเทศ !
พ.ร.ฎ. อภัยโทษ ‘ซ้ำเติม’ วิกฤติประเทศ !
ท่ามกลางปัญหาน้ำท่วมยังหนักอก ระดับน้ำสูงถึงคอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส รัฐบาลยังหาเหตุขัดแย้งด้วยการจะออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) อภัยโทษ อย่างมีเลศนัย ทั้งยังทำเหมือนมีอะไรที่พิสดาร ที่แตกต่างจากการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษที่ผ่านๆมา
โดยผู้รับหน้าเสื่อทำเรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมายืนยันหนักแน่นผ่านสื่อแล้วว่า ไม่มีลับลมคมใน ไม่มีอะไรปกปิด ครม.ทำตามกฎหมายและไม่เฉพาะเจาะจงช่วยผู้หนึ่งผู้ใด ไม่ต่างจากนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ระบุชัดถึงกรณี ครม.ได้เสนอ พ.ร.ฎ.อภัยโทษ โดยตัดเงื่อนไขเรื่องคดียาเสพติด และคดีทุจริตคอร์รัปชันทิ้งไปว่า เงื่อนไขทั้ง 2 ข้อเป็นการออกเพิ่มเติมในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะมองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เติมได้ เขาก็มีสิทธิตัดทิ้งได้ ในทำนอง “คุณเติมฉันไม่ว่า แต่ฉันตัดอย่ามาโวย”
จะว่าไปแล้ว บัญชีพิจารณาความผิดแนบท้ายพ.ร.ฎ. เขียนกันมาตั้งแต่ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยเฉพาะหากมีการตัดความผิดเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชันออกไปจริง ก็เท่ากับรัฐบาลผิดคำพูด ทำอะไรที่ไปขัดนโยบายรัฐบาลยิ่งลักษณ์เอง ที่บอกจะป้องกันและปราบปราม การทุจริตเด็ดขาด
ปมร้อนๆ การออกพ.ร.ฎ. อภัยโทษ จริงอยู่ แม้จะทำได้ แต่ก็ต้องดูถึงความเหมาะสม และดูด้วยว่า ผิดหลักนิติธรรมที่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ฐานะแกนนำกลุ่มสยามสามัคคี บอกว่า การเสนอ พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ด้วยนำนักโทษที่ได้รับประโยชน์ 26,000 คนเป็นตัวประกันนั้น เป็นการกระทบกระเทือนต่อเบื้องพระยุคลบาท อีกทั้งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง
ไม่เท่านั้น การถวายคำแนะนำหลักเกณฑ์พระราชทานอภัยโทษได้ตัดมาตรา 4 และมาตราที่เกี่ยวข้องที่ต้องพระราชทานอภัยโทษให้ผู้ถูกตัดสินและสำนึกด้วยการไปรับโทษก่อน เพื่อให้ครอบคลุมผู้ที่ต้องคำพิพากษาแต่หลบหนีไม่เข้ารับโทษ ให้เข้าหลักเกณฑ์รับพระราชทานอภัยโทษ นั้น ยังไปขัดกับหลักการอภัยโทษ
ที่สำคัญ ยังเป็นการใช้อำนาจฝ่ายบริหาร เข้าไปก้าวก่ายอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ จนท้ายที่สุดสร้างความขัดแย้งในสังคมขึ้นมาอีกครั้ง
ในมุมของผู้ที่คลุกคลีอยู่กับคุก-ตะรางมาเกือบ 30 ปี “ทวี ชูทรัพย์” อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะที่เคยเป็นผู้เสนอพ.ร.ฎ.อภัยโทษโดยตรง มาแล้วถึง 8 ฉบับ ก็ลุ้นมากกับการพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้เช่นกัน
เขายืนยันว่า คนติดคุกติดตะราง เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล การจะมายกโทษจำคุก ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 55 เป็นอำนาจศาล เอามาออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษ ไม่ได้!!
โดยเฉพาะในหลักการ คนที่ไม่เคยติดคุก หรือเข้าคุก ก็จะไม่มีหลักฐาน ระเบียนประวัติต้นฉบับอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ เพื่อนำมายืนยันต่อศาลว่า เป็นนักโทษที่เข้าเกณฑ์รับอภัยโทษ และหากไม่มีระเบียนประวัติ แม้จะมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์อภัยโทษ อาทิ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือนักโทษอายุ 60 ปีขึ้นไป ก็ไม่สามารถปล่อยตัวได้
ส่วนประเด็นพ.ร.ฎ.อภัยโทษ ฉบับนี้ถูกกล่าวหาว่า 'ล็อกสเป็ก' โดยเขียนเติมเข้าไปให้กับคนอายุเกิน 60 ปีไปแล้ว, ต้องโทษจำคุกต่ำกว่า 3 ปี และจะติดคุกหรือไม่เคยติดคุกมาก่อนก็ได้ นั้น เจ้าพ่อคุกตัวจริง บอกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็อย่าเอาด้วยเลย !!
“อย่าปล่อยนกบนฟ้า อย่าปล่อยปลาในมหาสมุทร เพราะนกบนฟ้าบินไปบินมา ขณะที่ปลาในน้ำก็ว่ายไปว่ายมา เป็นอิสระอยู่แล้ว อยู่ที่ไหนก็ได้ การที่ไม่ได้มาติดคุกติดตะราง จะให้ปล่อยตัว ก็ไม่รู้เอาอะไรไปปล่อย” อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุ และสนับสนุนแนวคิดของ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.พรรครักษ์สันติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ขอให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับโทษ ก่อนขอพระราชทานอภัยโทษ
ทั้งนี้ ตามโบราณราชประเพณีเรื่องการพระราชทานอภัยโทษควรต้องมีผู้รับผิดชอบแทนพระองค์ เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 261 ทวิ หมายถึง รัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการถวายคำแนะนำ
และเมื่อตราเป็นพระราชกฤษฎีกาแล้ว นายกฯต้องเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ฉะนั้น นายกฯยิ่งลักษณ์ ในฐานะ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ให้ประกาศใช้ พ.ร.ฎ. อันเป็นผลให้ “ทักษิณ” ได้รับพระราชทานอภัยโทษด้วย ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ประเด็นนี้ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ถามหาความรับผิดชอบจากรัฐบาลด้วย โดยขอให้นายกฯ 'ยิ่งลักษณ์' น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ นำพ.ร.ฎ.อภัยโทษ เข้าครม.ด้วยตนเอง เพื่อขออนุมัติ
ก่อนจะเสนอให้รัฐบาล 'แตก' พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ออกเป็น 2 ร่าง
1.ฉบับไม่มีเส้น เป็นร่างปกติสำหรับคนที่ยอมรับอำนาจตุลาการ ประพฤติดีประพฤติชอบ ที่ไม่ตัดหลักเกณฑ์นักโทษคดีทุจริต เพื่อให้นักโทษ 2.6 หมื่นคนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
และ 2. ฉบับเด็กเส้น สำหรับผู้ที่ต้องคำพิพากษา เป็นคดีไม่สำคัญ อายุ 60 ปี โทษไม่ถึง 3 ปี ออกจากกัน
ท้้งหมดทั้งมวล ก็เพื่อความบริสุทธิ์ใจ