- Home
- Thaireform
- สารคดีเชิงข่าว
- เปิดตัวหมาเฝ้าบ้านรุ่น 1 เสริมเขี้ยวเล็บ เกาะติด 'คอร์รัปชั่น' ทั่วไทย
เปิดตัวหมาเฝ้าบ้านรุ่น 1 เสริมเขี้ยวเล็บ เกาะติด 'คอร์รัปชั่น' ทั่วไทย
ในยุคสมัยที่ประเทศถูกครอบงำไปด้วย "ทุจริต-คอร์รัปชั่น" เราแทบจะหมดความหวัง เมื่อผู้คนทุกระดับ ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัยยังจมอยู่กับวังวนนี้อย่างไม่มีทีท่าว่าจะสามารถหลุดพ้น...
ภาคเอกชน เป็นหน่วยแรกๆ ของสังคมที่ลุกขึ้นก่อนใครเพื่อน รวมตัวกันกว่า 40 องค์กร ประกาศตัวชัดตั้ง 'ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น' วางบทบาททั้งการป้องกัน ปลูกฝัง และร่วมมือกับภาครัฐและเพื่อสร้างอาสาสมัครเครือข่ายจากภาคประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาเปิดโครงการ หมาเฝ้าบ้าน (Watch Dog) โดยมุ่งหวังให้เกิดจิตอาสาภาคประชาชนทั่วประเทศที่จะมีส่วนร่วมในการจับตา-หาเบาะแสของความไม่ชอบมาพากล เริ่มต้นในระดับท้องถิ่นก่อน
โดยปีนี้มุ่งไปที่การตรวจสอบการใช้งบประมาณฟื้นฟูน้ำท่วมระยะสั้นของรัฐบาล
แต่ก่อนจะปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้านได้ บุคคลนั้นๆ จะต้องผ่านการอบรมอาสาสมัคร หมาเฝ้าบ้าน เสียก่อน รอบแรกผ่านไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2555 ณ หอการค้าไทย น่าปลื้มใจ ในวันนั้นแน่นขนัดไปด้วยอาสาสมัครภาคประชาชนกว่า 200 คนจากทั่วประเทศ หลากสาขาอาชีพ ซึ่งการอบรมมุ่งเน้นไปที่หลักกฎหมาย การตรวจสอบข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ และการรายงานที่มีความน่าเชื่อถือ
บวกกับสอนเทคนิควิธีการให้ข้อมูล การแจ้งเบาะแส และการตรวจสอบการใช้งบประมาณในภาครัฐ โดยตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตัวแทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่เห็นความสำคัญ มาร่วมเป็นวิทยากรบรรยาย
หลังจากนั้น ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ไม่ลดละ ขับเคลื่อนกิจกรรมต่อ จับมือกับสถาบันอิศรา จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หมาเฝ้าบ้าน (Watch dog Workshop) ขึ้น ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จ.พระนครศรีอยุธยา
การอบรมเน้นติดเขี้ยวเล็บให้กับเหล่าหมาเฝ้าบ้าน ด้วยการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ทั้ง เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ และเว็บบล็อก เพื่อเฝ้าระวังกระบวนการทุจริตคอร์รัปชั่นผ่านโซเชียลมีเดีย และสื่อออนไลน์
อีกทั้งได้เรียนรู้ความหมายของข่าว องค์ประกอบ คุณค่าข่าว เจาะลึกการคิดค้นหาประเด็นข่าว เทคนิคการทำข่าวสืบสวนสอบสวน ขั้นตอนการล้วงให้ลึกถึงข้อมูล การเฝ้าระวัง จับตา สิ่งผิดสังเกตุ และความไม่ชอบมาพากลของกลโกงต่างๆ
เมื่อขบวนรถตู้พาอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงสถานที่เข้าอบรม กระบวนการอบรมที่เข้มข้นก็เริ่มต้นขึ้น....
เหล่าจิตอาสา ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้ไปเจอ "ของจริง" มีการแบ่งกลุ่ม เพื่อวางแผน และลงพื้นที่เก็บข้อมูล ภาพถ่าย สัมภาษณ์และผลิตข่าว เกี่ยวกับการตรวจสอบงบและโครงการฟื้นฟูน้ำท่วมของรัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ ชุมชนบริเวณ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนกลับมาแลกเปลี่ยนข้อมูล และขบคิดหาประเด็นเพื่อนำเสนอบนสื่อออนไลน์
"ดวงเดือน สหเวชชภัณฑ์" หนึ่งในผู้เข้าอบรม อาชีพหลักเป็นผู้อำนวยการด้านปฏิบัติการของสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ บอกหลังจากได้ลงพื้นที่จริง เธอพบว่า สิ่งที่อาสาสมัครสามารถทำได้คือการ "เปิดประเด็น" ด้วยภาพ และข้อมูลที่มาจากพื้นที่ และสิ่งใกล้ตัว
ไม่ก็เป็นปัญหาส่วนรวม เช่น ถนนหน้าบ้าน หรือพื้นที่ภายในชุมชน เพราะเธอเชื่อว่า สามารถหาแนวร่วมได้ง่าย เปลี่ยนแปลงได้มากกว่าปัญหาใหญ่ๆ ระดับประเทศ ซึ่งเป็นมิติที่ลึก จะต้องอาศัยประสบการณ์อย่างที่นักข่าวมืออาชีพทำ
"งานที่ทำเป็นการส่งเสริมการมีจริยธรรม ซึ่งเป็นคนละมิติกับภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นที่ต่อต้านการทุจริต แต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ต้องการให้สังคมเดินหน้าไปในทิศทางที่โปร่งใส" เธอเล่าถึงขอบข่ายหน้าที่การงาน พร้อมกับคาดหวังการเข้ามาร่วมในโครงการหมาเฝ้าบ้าน ก่อนหน้านี้ว่า เธอจะได้เรียนรู้วิธีการคิดของผู้อื่น และได้ความรู้ในการนำเสนอการข้อมูลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเมื่อผ่านการอบรมแค่ระยะเวลาสั้นๆ ดวงเดือน บอกว่า ไม่ผิดหวัง ช่วยได้มากในแง่การปรับโครงสร้างทางความคิดในการนำเสนอ ไม่ใช่แค่คิดอะไรก็นำเสนอไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่พิจารณาก่อน
"การทำงานของอาสาสมัครที่ผ่านการอบรม เป็นเพียงการเปิดประเด็นให้สังคมรับรู้และขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันขุดต่อ เพื่อให้เรื่องเหล่านั้นมีความคืบหน้าไปได้และนำไปสู่การแก้ไข
แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่การสร้างจิตสำนึกในครอบครัว ที่จะทำให้คนๆ หนึ่งสามารถยืนอยู่ได้ในสังคมอย่าง "ไม่แกว่ง" เพราะโครงสร้างในสังคมทุกวันนี้มีความเคยชินในสังคมเก่ากับการได้ "ตามน้ำ" เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องแก้ง่าย การสร้างจิตสำนึกจึงสำคัญไม่แพ้กัน"
ขณะที่นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น บอกว่า ในอนาคตจะจัดสรรผู้อบรมไปตามพื้นที่และความชำนาญงาน เพื่อสังเกตการณ์ เก็บข้อมูลและเบาะแสการทุจริตคอร์รัปชั่นทั่วประเทศไทย โดยมีกลุ่มผู้ชำนาญการพิเศษเข้าไปร่วมด้วย
"การอบรมเชิงปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เหมือนเป็นการฝึกฝนจิตอาสาจากภาคประชาชน ให้ได้อบรมเชิงลึกมุ่งเน้นการใช้โซเชียล มีเดีย และการรายงานข้อมูลเชิงสืบสวน การที่มีอาสาสมัครชุดแรกสนใจมาร่วมอบรมกว่า 20 คน จากผู้เข้าอบรมทั้งหมด 32 คน และมาจากหลากหลายอาชีพ ทั้งข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ นักศึกษา วิศวกร พนักงานเอกชนและผู้รับเหมา ถือว่า เขาเหล่านี้ เป็นผู้ที่มีความสนใจในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างแท้จริง ผมจึงเชื่อว่าจะสามารถกระจายการทำงานและเป็นหูเป็นตาให้ได้มากขึ้น"
ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน โดยภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน นอกเหนือจากต้องการให้อาสาสมัครที่เข้ามาอบรมกลับไปเป็นผู้รายงานสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
โครงการนี้ ยังต้องการสร้างภาวะผู้นำให้เกิดขึ้นแก่ผู้เข้าอบรม เพื่อที่จะนำกลับไปแล้วขยายเครือข่าย จาก 30 คน เป็น 300 คน หรือ 3,000 คน ในที่สุด เกิดหมาเฝ้าบ้าน สายพันธุ์กัดไม่ปล่อย เต็มพื้นที่ประเทศไทย
ผอ.ศูนย์ภาคีเครือข่ายฯ บอกด้วยว่า หากมีการประเมินผลการอบรม เขาคงให้คะแนน "เกินร้อย" เพราะอาสาสมัครภาคประชาชนมีความเต็มใจเข้ามาร่วม มีความตั้งใจ กระตือรือร้นอย่างเต็มที่ที่จะเรียนรู้ ทั้งตั้งคำถามและตั้งใจทำงาน นับเป็นเรื่องน่าดีใจที่ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นและโครงการหมาเฝ้าบ้านได้คนคุณภาพเข้ามาเป็นอาสาสมัคร
อย่างไรก็ตาม โครงการหมาเฝ้าบ้านยังคงต้องการการพัฒนาและเปิดรับฝึกอบรมอาสาสมัครรุ่นต่อๆ ไป อย่างแน่นอน โดยมุ่งหวังให้เกิดการกระจายเครือข่ายไปทั่วทุกภูมิภาค ทั้งนี้ จะมอบหมายให้ผู้ที่ผ่านการอบรมรุ่นที่ 1 ได้เริ่มทำงานเก็บภาพและข้อมูลในพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงจะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่พบว่ามีอยู่ค่อนข้างมาก
"หากมีเครือข่ายอาสาสมัครต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นเพิ่มมากขึ้นและขยายครอบคลุมไปยังพื้นที่ต่างๆ จะถือเป็น "ยาดี" ที่จะหยุดยั้งโรคทุจริตคอร์รัปชั่น อันเป็นต้นเหตุหลายๆ เรื่องที่เป็นภัยของสังคมไทยขณะนี้ได้" ผอ.ศูนย์ภาคีเครือข่ายฯ บอกตอนท้าย
ขอบคุณภาพประกอบจาก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน