- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- “ไพบูลย์” แนะรัฐเร่งกระจายอำนาจส่งคืนภารกิจปกครองตนเองสู่ท้องถิ่น
“ไพบูลย์” แนะรัฐเร่งกระจายอำนาจส่งคืนภารกิจปกครองตนเองสู่ท้องถิ่น
หลัง 10 ปีการกระจายอำนาจไม่พบรูปธรรม ย้ำปฏิรูปประเทศ คือปฏิรูปตัวเองโดยเฉพาะชุมชน พอช. จัดเวทีระดมความเห็นภาคปชช.-ชุมชนท้องถิ่น เตรียมสรุปข้อเสนอภาคปชช.ต่อการปฏิรูปประเทศ ยื่น “หมอประเวศ” พรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.ย.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) จัดสัมมนา “ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองสู่การปฏิรูปประเทศไทย” ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ย. ณ โรงแรมรามากาเด้นท์ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ เพื่อระดมความคิดเห็นจากตัวแทนผู้นำชุมชนและประชาชนที่มีบทบาทต่อการพัฒนาท้องถิ่นทั่วประเทศกว่า 1,000 คนร่วมจัดทำข้อเสนอภาคประชาชนต่อการปฏิรูปประเทศไทย มอบแก่ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.)ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) โดยมีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนเพื่อการปฏิรูป ภายใต้คสป. เป็นประธานเปิดการสัมมนา
จากนั้นนายไพบูลย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “จินตภาพใหม่ ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง” โดยระบุว่า การปฏิรูปประเทศไทยต้องเริ่มจากตนเองก่อน โดยเฉพาะที่ตัวชุมชนท้องถิ่น สร้างจินตภาพใหม่ในการให้ชุมชนท้องถิ่นได้มีการจัดการดูแลพื้นที่ด้วยตนเอง แม้ว่าจะเป็นเรื่องใหม่แต่ทุกคนต้องร่วมลงมือทำให้เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงเพื่อการปฏิรูปประเทศ
"ขณะนี้การทำงานของขบวนชุมชนที่ผ่านมา 30 ปี เปรียบเสมือนขึ้นภูเขามาครึ่งทางแล้ว ดังนั้นอีก 10 ปีข้างหน้าคือเป้าหมายที่จะต้องไปให้ถึง การจัดการตนเองของชุมชนนั้นควรให้ความสำคัญ ทั้งการสร้างสัมมาชีพในพื้นที่ พัฒนาอาชีพ พัฒนาสุขภาวะ ระบบสาธารณสุขที่ดี พัฒนาการศึกษาและสร้างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในชุมชนทุกรูปแบบ ที่สำคัญต้องให้ความสำคัญกับการปกครองตนเองของคนในชุมชน ซึ่งคือ การจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่น หรืออัตประชาภิบาลด้วย เป็นการอภิวัตน์วัฒนาการการยกระดับการพัฒนาชุมชนให้ดียิ่งขึ้นๆ"
อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงหลักการขับเคลื่อนงานพัฒนาจัดการตนเองของชุมชนนั้น 1. การทำงานของชุมชนต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมและมีตัวชี้วัดผลที่เป็นรูปธรรม ต้องมีคุณภาพรอบด้าน ทั้งประเด็น บุคลากร คน เงินทุนสนับสนุน ฯลฯ 2.รวมพลังสร้างสรรค์จากภายในชุมชน ทั้งคน ความร่วมมือจากหน่วยงานสถานศึกษา อปท. 3.รวมพลังสร้างสรรค์จากภายนอก คือ ขยายผลจากภายในชุมชน สร้างภาคีเครือข่าย 4.สร้างการศึกษา วิจัย ค้นคว้าพลังด้านวิชาการประกอบกับการทำงานของชุมชน และ 5.สร้างเสริมเครือข่ายร่วมกันให้มากและกระจายตัว เน้นสร้างเครือข่ายเรียนรู้ ปฏิบัติการร่วมกัน และเสริมคุณภาพร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ถ้าชุมชนทำได้ก็ไม่ต้องพึ่งรัฐบาล
นายไพบูลย์ กล่าวถึงข้อเสนอต่อการปฏิรูปประเทศ โดยอยากให้มีการนำร่องจังหวัดจัดการตนเองโดยท้องถิ่น ตั้งแต่ระดับเทศบาล ระดับตำบลให้สามารถจัดการกันเองได้ให้เกิดผลอย่างจริงจัง ซึ่งหวังว่า คณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 2 ชุด สามารถจะทำให้เกิดขึ้นได้ รวมทั้งอยากให้นักการเมืองและข้าราชการทุกคนยึดความดีและใช้ความสามารถในการทำงาน เลิกโกง เลิกทะเลาะกันในการปฏิบัติงาน
“ฝากถึงฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ ขอให้ส่งคืนภารกิจในการปกครองตนเองของชุมชนท้องถิ่นอย่างรอบด้านกลับคืนสู่ฐานท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นด้วย”
ทั้งนี้ การสัมมนาในช่วงเช้ามีการนำเสนอรูปธรรมความสำเร็จของขบวนงานชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง ใน 6 พื้นที่ตัวอย่างทั่วประเทศ ได้แก่ การจัดการตนเองของชุมชนบ้านขาม อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ ที่มีความเข้มแข็งเรื่องการจัดการทุนและกองทุนภายในชุมชนร่วมกัน , ชุมชนบ้านคูหาใต้ อ.รัตนภูมิ จ.สงขลา โดดเด่นเรื่องการจัดสภาองค์กรชุมชน ภายใต้ชื่อ “สภา108” ในการพัฒนาตำบล, ชุมชนริมคลองบางบัว เขตบางเขน กรุงเทพ, ชุมชนบ้านหาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี , ชุมชนตำบลดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และชุมชน อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่