- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ปลัดอบต.แหลมฟ้าผ่า เรียกร้องคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้เป็นของชุมชน
ปลัดอบต.แหลมฟ้าผ่า เรียกร้องคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้เป็นของชุมชน
‘เครือข่ายรักอ่าวไทยตอนบน’ 7 จว. ยื่นข้อเสนอถึง “สาทิตย์” ขอให้ยกเลิกกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ-ขอคืนกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดินให้เป็นของชุมชน หวังดูแลทรัพยากรกันเอง ขู่หลังวิกฤติน้ำท่วมคลี่คลายแก้ปัญหาล่าช้า อาจต้องชุมนุมแสดงพลัง
พันจ่าโทอุดร บุญช่วยแล้ว ปลัดอบต.แหลมฟ้าผ่า จ.สมุทรปราการ กล่าวกับศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทย ถึงกรณีการยื่นข้อเสนอไปยังนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอยกเลิกกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ และขอคืนกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดินให้เป็นของชุมชนว่า ขณะนี้กลุ่มอนุรักษ์ในนาม ‘เครือข่ายรักอ่าวไทยตอนบน’ ซึ่งประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร (เขตบางขุนเทียน) สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี ได้ทำเรื่องนี้ไปแล้ว
“ที่ดินพันกว่าไร่ที่มีปัญหาแต่เดิมเป็นของชาวบ้านในพื้นที่ แต่ปัจจุบันที่ดินหน้าทะเลถูกกัดเซาะไปประมาณกิโลเมตรกว่า มีนายทุนเข้ามาเพื่อจะยึดครองพื้นที่หน้าทะเลทั้งหมด จากที่ดินกรรมสิทธิ์ของเขามีอยู่เพียง 2-3 ร้อยไร่ ไม่ว่าจะด้วยวิธีขอซื้อกรรมสิทธิ์แบบถูกๆ หรือการแอบอ้างกรรมสิทธิ์ก็ตาม จึงยังมีข้อถกเถียงที่ค้างคาอยู่ว่า ที่ดินส่วนนั้นยังเป็นกรรมสิทธิ์เจ้าของเดิมอยู่หรือไม่”
สำหรับการยื่นข้อเสนอขอยกเลิกกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ และขอคืนกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดินให้เป็นของชุมชน นั้น ปลัดอบต.แหลมฟ้าผ่า กล่าวว่า เพื่อให้มีการสำรวจและยกเลิกกรรมสิทธิ์ที่ถูกน้ำกัดเซาะไปแล้ว และขอคืนกรรมสิทธิ์ให้เป็นของชุมชนได้คุ้มครอง ดูแลทรัพยากรกันเอง และไม่ต้องรอกฎหมายจากกรมประมง-กรมทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่ยังไม่คลอด
“การยื่นข้อร้องเรียนของทางกลุ่มในครั้งนี้ คาดหวังให้อบต.แหลมฟ้าผ่า เป็นการจุดประกายให้ชุมชนชายทะเลลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไปนานที่สุด และสร้างระเบียบการ หรือข้อกฎหมาย เพื่อเป็นบรรทัดฐานอันดีให้แก่ชุมชนชายทะเลในท้องถิ่นอื่นๆ อีกด้วย”
พันจ่าโทอุดร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ที่ยังไม่มีใครพูดถึงเลย จึงยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาเป็นแกนหลักเพื่อดำเนินการ และเมื่อส่วนกลางได้รับทราบปัญหาแล้วก็คาดหวังว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการมาแก้ไขโดยเร่งด่วน ส่วนหน่วยงานที่จะเข้ามารองรับให้กับกลุ่มอนุรักษ์คาดว่ากระทรวงทรัพยากรฯ จะเป็นกระทรวงหลัก ส่วนหน่วยงานปฏิบัติการจะเป็นกรมทรัพยากรธรรมชาติและชายฝั่ง และกรมประมง ที่ดูแลเรื่องปราบปรามทางประมง
“ทางกลุ่มอนุรักษ์ ได้ยื่นข้อร้องเรียนต่อ นายสาทิตย์ ไปเมื่อเดือนที่แล้วก่อนจะเกิดวิกฤตน้ำท่วม โดยได้ชี้แจงกับทางกลุ่มว่า ประเด็นนี้เป็นประเด็นใหญ่เกินว่าจะรับผิดชอบเองได้ จึงต้องเสนอไปให้นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบ เพราะหากเรื่องนี้แก้ไม่จบ และนายทุนได้ยึดครองที่ดินไป ก็จะเป็นบรรทัดฐานให้กับทั่วประเทศเลียนแบบได้ ซึ่งจะส่งผลต่อประมงพื้นบ้านที่ถูกน้ำกัดเซาะกว่า 600 กิโลเมตร ทั่วประเทศไทยให้ไม่สามารถทำมาหากินในพื้นที่ได้”พันจ่าโทอุดร กล่าว และว่า ส่วนแนวทางการแก้ไขจะเป็นอย่างไรต่อไป คงต้องรอฟังจากนายสาทิตย์ ภายหลังการนำเสนอต่อนายกฯ แล้ว แต่ทางกลุ่มไม่ทราบว่าข้อร้องเรียนจะถึงมือของคณะกรรมการปฏิรูป ชุดไหนด้วยหรือไม่
พันจ่าโทอุดร กล่าวถึงความจำเป็นต้องมีเรื่องปราบปรามเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะการเข้ามาทำลายของกลุ่มนายทุน ขณะนี้กลุ่มอนุรักษ์ยังไม่มีอำนาจในการดูแล-ปราบปราม หากจะหวังพึ่งเจ้าหน้าที่จากกรมประมง หรือทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ก็มีจำนวนไม่พอเพียงต่อการดูแล ดังนั้นการแต่งตั้งกลุ่มอนุรักษ์ ให้มีอำนาจในการปราบปรามควบคู่กับกำนันผู้ใหญ่บ้านจะช่วยให้การทำงานดีมากขึ้น
“การทำงานของกลุ่มอนุรักษ์ ทุกวันนี้เรียกได้ว่าทำกันด้วยใจ ไม่มีใครสนับสนุน ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น และมีการเข้าเวรนอนเฝ้าทั้งวัน ทั้งคืน ป้องกันการลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย และการลักลอบคราดหอยแครงจากกลุ่มนายทุนนอกพื้นที่ เรียกได้ว่า ทำงานมากกว่าพวกข้าราชการด้วยซ้ำ เพียงแต่ไม่มีทั้งเงินเดือนและสวัสดิการ แต่หากมีกฎหมายรองรับ อบต. หรือหน่วยงานอื่นๆ ก็จะแบ่งงบประมาณมาสนับสนุนได้ ทั้งยังให้มีสวัสดิการเมื่อเจ็บไข้ไม่สบายอีกด้วย”
ขณะที่แนวทางในการขับเคลื่อนของกลุ่มอนุรักษ์ต่อจากนี้ ปลัดอบต.แหลมฟ้าผ่า กล่าวว่า ทราบดีขณะนี้ทางส่วนกลางกำลังเร่งช่วยเหลือ และแก้ไขวิกฤตการณ์น้ำท่วมใหญ่อยู่ จึงยังไม่ได้เร่งรัดในการติดตามผลมากนัก โดยจะรอให้ส่วนกลางแก้ไขวิกฤตการณ์ที่เร่งด่วนกว่าก่อน ทางกลุ่มจึงจะดำเนินการขับเคลื่อนต่อไป ส่วนนโยบายต่อไปของทางกลุ่มคือมุ่งเผยแพร่ให้สาธารณชน และหน่วยงานที่รับผิดชอบได้รับทราบ หากขั้นตอนดำเนินการทางกฎหมายเป็นไปอย่างล่าช้า ทางกลุ่มก็อาจต้องใช้วิธีแสดงพลัง อย่าง ‘การชุมนุม’ เข้ามาร่วมด้วย