- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- จุรินทร์ ชู ‘3 เสาหลัก 3 ดี 4ใหม่’ ปฏิรูปการศึกษารอบ2
จุรินทร์ ชู ‘3 เสาหลัก 3 ดี 4ใหม่’ ปฏิรูปการศึกษารอบ2
รมว.ศธ.วางเป้าอีก10ปีจะมีครูรุ่นใหม่ทั้งเก่ง-คนดีเสริมวงการครูมากขึ้น ขณะที่อธิการบดีม.รังสิต เผยเร่งสร้างครูพันธุ์ใหม่ลดการขาดแคลน
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.52 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ได้มีการจัดประชุมวิชาการเรื่อง ครูกับการปฎิรูปการศึกษารอบสอง(ทศวรรษที่สองพ.ศ.2552-2561) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “เป้าหมายการพัฒนาครูในการปฏิรูปการศึกษารอบสอง” มีผู้บริหาร คณะครูจากโรงเรียนเครือข่ายแนะแนว นักศึกษาของมหาวิทยาลัยรังสิต และครู บุคลากรทางการศึกษาจากโรงเรียนต่างๆรวมทั้งผู้สนใจเข้าร่วม
รมว.ศธ.กล่าวว่า เป้าหมายของการปฏิรูปการศึกษารอบสอง คือ จะทำอย่างไรให้คนไทยทุกเพศ ทุกระดับ ทุกอาชีพ ได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ทั้งการเรียนรู้ในระบบและการศึกษานอกระบบ และเมื่อจบการศึกษาแล้วต้องได้รับโอกาสในการเรียนรู้ตามอัธยาศัยเพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต ตนมองว่า จะเป็นทิศทางที่ชัดเจนในการปฏิรูปการศึกษารอบสอง หลังจากที่การปฏิรูปการศึกษารอบแรกได้เน้นการศึกษาในระบบและการศึกษานอกระบบ ซึ่งยังไม่เพียงพอ
สำหรับกรอบของการปฏิรูปการศึกษารอบสองนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า หัวใจหลักมี 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่ 3 เสาหลัก, 3ดี และ 4 ใหม่ โดย 3 เสาหลัก คือ เน้นเรื่องคุณภาพ การขยายโอกาส และการมีส่วนร่วม สำหรับ 3 ดี คือ 1.Democracy การปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.Decency รณรงค์ให้ผู้เรียนทุกระบบทุกระดับต่อต้านการทุจริต และการซื้อเสียงขายเสียง เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและภาคภูมิใจในความเป็นไทย 3.Drug ห่างไกลยาเสพติด
“สำหรับ 4 ใหม่ คือ 1.คนไทยยุคใหม่ภายใน10ปีจะต้องมีความเก่ง ดี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยสามารถก้าวไกลไปสู่สากล 2.ครูยุคใหม่ 3.แหล่งเรียนรู้และสถานศึกษายุคใหม่ และ4.ระบบบริหารจัดการแบบใหม่ ที่เน้นการกระจายอำนาจการมีส่วนร่วมเน้นธรรมาภิบาล”
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือมีคุณภาพไม่ได้ถ้าขาดครูที่มีคุณภาพ ดังนั้นการพัฒนาระบบการศึกษาของไทยจะต้องพัฒนาครูผู้สอนเป็นอันดับแรก
“ทางกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายที่จะเพิ่มศักยภาพของครู และเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับครูโดยแบ่งเป็นโครงการต่างๆ บางโครงการดำเนินการแล้ว และบางโครงการกำลังดำเนินการ เช่น โครงการอบรมครูจำนวน 5 แสนคนจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2553 โครงการครูพันธุ์ใหม่ จะทำในช่วง10ปี นับจากปี 2553-2563 จะเอาครูรุ่นใหม่ที่เป็นคนเก่งคนดีเข้ามาเสริมวงการครูมากขึ้น และโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด เปิดโอกาสครูที่จะเปลี่ยนงานใหม่ และเปิดโอกาสให้ครูรุ่นใหม่ได้เข้ามาทดแทนรุ่นเก่า ส่วนในอนาคตที่จะทำต่อไป คือ ทำสถาบันอบรมพัฒนาครูขึ้นมา และสร้างสถาบันครุศึกษาแห่งชาติ ทำหน้าที่กำหนดกรอบมาตรฐานในการอบรมพัฒนาครู”รมว.ศธ.กล่าว
เช่นเดียวกับดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงการพัฒนาครูว่า บุคคลที่มีบทบาทในการสร้างปัญญาให้แก่นักเรียน นักศึกษา คือครู อาจารย์ หากจะพัฒนาคุณภาพการศึกษาของไทยสิ่งแรกที่ควรจะพัฒนาคือการพัฒนาครู เนื่องจากหากไม่พัฒนาครูอาจารย์ให้มีคุณภาพแล้ว ครู อาจารย์จะไปพัฒนาการศึกษา พัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพไม่ได้
“จากการวิจัยของรศ.วิทยากร เชียงกูล คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต พบว่าประเทศไทยมีปัญหาขาดครู อาจารย์ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ด้านคุณภาพถือว่าเป็นปัญหาสำคัญมาก คนเก่งๆสนใจในการเป็นครูอาจารย์ลดลง โดยเฉพาะในวิชาภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย เพราะมีงานอื่นที่ดีกว่าเงินเดือนสูงกว่า จึงทำให้ขาดแรงจูงใจในการเป็นครู”อธิการบดี ม.รังสิต กล่าว
ดร.อาทิตย์ กล่าวด้วยว่า มหาวิทยาลัยรังสิตได้เล็งเห็นปัญหาการขาดแคลนครูตั้งแต่ปี 2547 จึงมีโครงการสร้างครูพันธุ์ใหม่ขึ้นมา สำหรับองค์ประกอบของครูพันธุ์ใหม่นี้ ประกอบด้วย 1.ต้องเป็นคนเก่งระดับหัวกะทิ ได้เกียรตินิยมในสาขาวิชาต่างๆ เพื่อมาศึกษาต่อในหลักสูตรของครูอีก 2 ปี 2.สร้างแรงจูงใจให้คนเก่งมาเรียน ต้องได้เงินเดือนสูงกว่าวิชาชีพอื่น 3.ครูต้องมีโอกาสก้าวหน้า เป็นครูเชี่ยวชาญในสิ่งที่ตนสอนตลอดชีวิต 4.ครูต้องไม่บังคับให้เกษียณแค่อายุ 60 ปีเท่านั้น 5.เงินเดือนต้องไปได้โดยไม่ตัน 6.ให้โอกาสในการส่งเสริมเพื่อเพิ่มวิทยฐานะในพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง