- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- หารือข้อยุติร่าง พรบ.การส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ฯ
หารือข้อยุติร่าง พรบ.การส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ฯ
รมว.ศธ. เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือ ข้อยุติร่าง พ.ร.บ.การส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน เล็งเก็บภาษีสรรพสามิต ที่เป็นรายได้โดยตรงให้สถาบัน
เมื่อเร็วๆ นี้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประชุมหารือกับคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายแพทย์สุภกร บัวสาย ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงาน ก.พ. ก.พ.ร. กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ฯลฯ เกี่ยวกับข้อยุติร่าง พ.ร.บ.การส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน
รมว.ศธ. กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อหาข้อยุติเรื่องร่าง พ.ร.บ.การส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ขอให้กระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และส่งให้คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ซึ่งมีข้อสรุป ดังนี้
1.บทบาทและภารกิจของ สสค. ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตาม พ.ร.บ.นี้ ที่ประชุมเห็นว่า ยังมีความซับซ้อนกับหน่วยงานที่มีลักษณะเดียวกันอยู่แล้ว การจัดตั้ง สสค.เป็นเจตนารมณ์พิเศษที่จะสร้างกลไกการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้เพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ดังนั้น บทบาทและภารกิจของ สสค.จึงเป็นบทบาทพิเศษที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งได้มีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง และให้มีการจัดตั้งหน่วยงานนี้รองรับอยู่แล้ว
2.การสนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้ง สสค. ได้มีการหารือถึงมาตราที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการใช้ระบบ Earmarked Taxation ซึ่งเป็นระบบที่ใช้วิธีการเก็บภาษีสรรพสามิต ที่เป็นรายได้โดยตรงให้กับสถาบัน และมีข้อสังเกตว่า จะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจัดเก็บงบประมาณในระบบนี้ ตลอดจนการกำหนดเพดานในการจัดเก็บ โดยที่ประชุมเห็นว่าควรมีการกำหนดอัตราการจัดเก็บขั้นสูงสุด ซึ่งจะมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง
รมว.ศธ. กล่าวสรุปว่า จากผลการหารือในครั้งนี้ พบว่ามีแนวทางที่สามารถผลักดันกฎหมายฉบับนี้ให้เดินหน้าไปได้ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อจะได้ดำเนินการยกร่าง พ.ร.บ.การส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน สำหรับการเพิ่มมาตราที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ในการจัดเก็บภาษี หรือ การจัดเก็บในอัตราขั้นสูง ก็จะให้คณะทำงานไปศึกษาในรายละเอียด
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะในการจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน ซึ่งเป็นหลักการที่จะต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เกิดความชัดเจน ขณะเดียวกันกระทรวงศึกษาธิการก็จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบในหลักการต่อไป.