- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ไม่มีเส้นทางลัด “นรนิติ เศรษฐบุตร” ยันสอนเรื่องประชาธิปไตยต้องใช้เวลา
ไม่มีเส้นทางลัด “นรนิติ เศรษฐบุตร” ยันสอนเรื่องประชาธิปไตยต้องใช้เวลา
มธบ. ร่วมกับสมาคมครูสังคมศึกษาฯ จัดประชุมวิชาการถก “ บทบาทของครูสังคมศึกษา กับการสร้างพลเมืองดีของชาติ” นายกฯ อภิสิทธิ์ ทิ้งประเด็นข้อสงสัยเกิดอะไรขึ้นในสังคมไทย พบเห็นคนโกง คนชั่ว คนเลว จำนวนไม่น้อยเป็นผู้ที่จบการศึกษาสูงๆ
วันนี้ (23 ส.ค.) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) ร่วมกับสมาคมครูสังคมศึกษาแห่งประเทศไทย จัดการประชุมวิชาการในหัวข้อ “บทบาทของครูสังคมศึกษา กับการสร้างพลเมืองดีของชาติ” ณ ห้องประชุมไสว สุทธิพิทักษ์ ชั้น 7 อาคาร ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อนุสรณ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เพื่อระดมความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องในแวดวงการศึกษา ในการสร้างพลเมืองดีของชาติ และบทบาทของครูสังคมศึกษาในการสร้างพลเมืองดี รวมทั้งร่วมกันหาแนวทางดำเนินงานปฏิรูปการศึกษาที่เหมาะสม
โอกาสนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมบรรยายพิเศษเรื่อง “แนวทางการสร้างพลเมืองดีของชาติ” ตอนหนึ่งถึงบทบาทของการศึกษา สถาบันการศึกษา ครู อาจารย์ ด้านสังคมศึกษา ว่า จะมีส่วนสำคัญในการสร้างพลเมืองดีของชาติ เพราะที่ผ่านมาสังคมไทยมีความก้าวหน้าไปมาก มีความเจริญทางด้านวัตถุ ประชาชนจบการศึกษาในระดับสูง แต่สังคมวัฒนธรรมกลับเสื่อมโทรม คนโกง คนชั่ว คนเลวที่พบเห็นในสังคมจำนวนไม่น้อยเป็นผู้ที่จบการศึกษาสูง ไม่ได้ขาดการศึกษา ซึ่งเป็นตัวที่สะท้อนให้เห็นว่า คงต้องมาทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบการศึกษา ทั้ง ๆ ที่มีเวลาในการที่จะกล่อมเกลาหล่อหลอมเพื่อสร้างคนเป็นเวลายาวนานมาก แต่กลับไม่สามารถที่จะปลูกฝังค่านิยมเหล่านี้ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหามีอยู่ 3 ประเด็น คือ 1.การให้ความสำคัญกับวิชาสังคมศึกษา โดยเฉพาะ วิชาประวัติศาสตร์ เพื่อที่จะทำให้เด็กและเยาวชนมีความภาคภูมิใจในรากฐานของตนเอง มีความรักชาติ รักสังคม และรักส่วนรวม ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการที่จะเป็นพลเมืองที่ดี 2. การปลูกฝังค่านิยม ทักษะ และความมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมการออกไปเรียนรู้และเชื่อมโยงกับโลกภายนอกมากขึ้น เช่น การเรียนรู้จากปราชญ์ชาวบ้าน การทำกิจกรรมโดยเข้าไปสัมผัสกับชุมชน และ 3 .การทำให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันเกี่ยวกับเรื่องของการใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
จัดการศึกษาตลอดชีวิตหนุนสร้างพลเมืองที่ดีของชาติ
จากนั้น มีการอภิปรายเรื่อง “ครูสังคมศึกษากับการสร้างพลเมืองดีของชาติ” วิทยากรประกอบด้วย รศ.นรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสถาน ดร.อุทัย ดุลยเกษม อธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร นายเกียรติชัย พงษ์พานิช ที่ปรึกษา บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มธบ. นายกสมาคมครูสังคมศึกษาแห่งประเทศไทย
นายเกียรติชัย กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมประชาธรรมมากขึ้นทุกขณะ คือ เป็นสังคมเปิด มีความยุติธรรม มีความแตกต่าง แข่งขันกันได้ มีลักษณะประชาธิปไตย มีการกระจายอำนาจออกไป ที่สำคัญต้องมีการตรวจสอบได้ ทั้งหมดต้องมีธรรมาภิบาล เรื่องนี้ครูสังคมศึกษาต้องสอนและสร้างพลเมืองขึ้นมา
ขณะที่การสอนของครูสังคมศึกษาในโรงเรียนนั้น นายเกียรติชัย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงและซับซ้อนของสังคม ทำให้ลำพังครูสังคมศึกษา ก็ยังไม่พอในการจะสร้างพลเมืองที่ดีของชาติ จำเป็นต้องอาศัยการจัดการศึกษาตลอดชีวิตด้วย เพราะเด็กนักเรียน ประกอบด้วยภูมิหลังที่แตกต่างกัน ทั้งด้านวัฒนธรรม ศาสนา เชื้อชาติ ภูมิหลังทางเศรษฐกิจ และแตกต่างกันในลักษณะประชากร มีทั้งเด็กยากจน เร่ร่อน และเด็กพิการ ครูจึงต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือเข้าถึง ภูมิหลังของนักเรียน มีประสบการณ์พอสมควร อีกทั้งครูยังมีภูมิหลังที่แตกต่างกันอีก การเรียนการสอนเพื่อผลิตพลเมืองดีของชาติจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ได้สอนกันตามตำราเท่านั้น
“การสอนหรือสร้างความเป็นประชาธิปไตย ครูสังคมศึกษาต้องจัดชั้นเรียนให้มีลักษณะเป็นประชาธิปไตย ให้นักเรียนได้มีส่วนร่วม การเรียนการสอนเปิดกว้าง และกระตุ้นเร้าให้เด็กสอบถาม โต้แย้ง แสดงความคิดเห็นอย่างสันติ สร้างสรรค์”
ราชบัณฑิตยันสอนเรื่องประชาธิปไตยต้องใช้เวลา
ขณะที่ รศ.นรนิติ กล่าวถึงกระบวนการสอนเรื่องประชาธิปไตย ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ พ.ศ.2475 แต่เราสอนต่อต้านประชาธิปไตยตลอดมาโดยไม่เปลี่ยนแปลง ครูประถม ครูมัธยม ครูมหาวิทยาลัย ต้องรับผิดชอบคนละครึ่ง ขณะที่รัฐบาล และนักการเมืองที่มาจากประชาธิปไตย ต้องส่งเสริมการผลิตหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตยออกมาจำนวนมากๆ ทำให้อ่านง่าย จูงใจให้อ่านด้วย
“พลเมืองประชาธิปไตย ต้องซื่อสัตย์ สุจริต มีจิตอาสา เป็นประชาธิปไตย การสอนเรื่องประชาธิปไตยต้องใช้เวลา กว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ ไม่มีทางลัด บรรพชนที่เป็นครูคนหนึ่งบอกว่า กล้วยไม้มีดอกช้าฉันใด การศึกษาย่อมเป็นไปฉันนั้น”ประธานสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสถาน กล่าว และว่า วันนี้รูปแบบและวิธีการการเรียนการสอนต้องเปลี่ยน ซึ่งครูจะมีบทบาทตรงนี้ ส่วนครูนอกระบบ เช่น วิทยุ ทีวี รัฐต้องใช้สื่อ ในการอบรมส่งเสริมเรื่องประชาธิปไตย
เปรียบสังคมไทยเปลี่ยนจากต้นไทรเป็นต้นยูคาลิปตัสแล้ว
ส่วนดร.อุทัย กล่าวถึงการเรียนการสอนให้เกิดผลลัพธ์ที่ปรารถนา คือการเป็นพลเมืองดีของชาติได้นั้น เนื้อหาในรายวิชา เช่น วิชาประวัติศาสตร์ จุดมุ่งหมายหลักคือการสร้างมุมมองประวัติศาสตร์ให้กับผู้เรียน แต่ปัญหาทุกวันนี้ สอนเพียงการรับรู้ ให้จำ ไม่ได้เรียนรู้หรือเกิดทัศนะเชิงประวัติศาสตร์ เราจึงไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หรือการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ เรียนเรื่องกายภาพ ไม่ได้เรียนเรื่องวิกฤติการณ์ ที่เกิดขึ้นของโลก หรือของประเทศเราเอง รวมทั้งวิชาศีลธรรม สอนเรื่องความศรัทธามากกว่าให้เกิดปัญญา ซึ่งวิธีการเรียนการสอนต้องมุ่งให้เกิดการเรียนรู้ มิใช่ไปหยุดที่การรับรู้ โดยเฉพาะบรรยากาศและโครงสร้างในโรงเรียนต้องเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ได้ สุดท้ายครูสอนต้องประพฤติเป็นตัวแบบให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วย
“กระแสโลกาภิวัตน์สร้างคุณค่าใหม่ ๆ ที่ไม่เป็นคุณต่อการสร้างพลเมืองดีของชาติ เช่น คุณค่าความเร็วนิยม value of speed ทุกวันนี้เราทนไม่ได้กับความช้า ความเป็นประชาธิปไตยต้องมีกระบวนการการมีส่วนร่วม ต้องทำประชาพิจารณ์ ช้า แต่เราต้องการการฟันธง อยากรวยเร็วมาโดยวิธีไหนไม่สำคัญ อยากขึ้นสู่ตำแหน่งเร็ว เรียนให้จบเร็ว สอนให้จบเร็ว ฯลฯ ” อธิการบดี ม.ศิลปากร กล่าว และว่า สังคมไทยแต่เดิมเป็นต้นไทร ต้นไทรใหญ่มีใบปกคลุมผืนดิน ให้ชื่นช่ำ ต้นไม้เล็กโคนต้นได้รับร่มเงา ลูกไทรนกกาได้มาอาศัยกิน กิ่งไทรได้เป็นที่เกาะจับของต้นกาฝาก แต่ทุกวันนี้สังคมไทยได้เปลี่ยนมาเป็นต้นยูคาลิปตัส ทุกคน ทุกต้น พยายามดูดเอาน้ำและปุ๋ยจากใต้ดิน เพื่อให้ตัวเองสูงเสียดฟ้า หน่วยงานต่างๆ ครู โรงเรียน ภาควิชาในมหาวิทยาลัย เป็นต้นยูคาลิปตัส รวมทั้ง คนไทยซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า และตกอยู่กับการให้ความสำคัญกับสัญลักษณ์มากกว่าสาระ
สุดท้าย ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าวว่า ขณะที่โลกกำลังเปลี่ยน โลกไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด โลกอนาคตต่างคนต่างอยู่มากขึ้น ความทันสมัยจะไม่เหมือนเดิม ทำให้คนรุ่นใหม่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง คิดไม่เหมือนและคิดแตกต่าง หมายความว่า ระบบคิดและวิธีคิดจะมีความหลากหลาย ดังนั้นกระบวนการศึกษาต้องให้เด็กมีความเป็นตัวของตัวเอง มีลักษณะเฉพาะขึ้น แม้แต่เรื่องประชาธิปไตยจะมีการพูดถึงประชาธิปไตยในรูปแบบใหม่ ๆ การมีส่วนร่วมของประชาชน แนวทางนี้กำลังเกิดขึ้น ดังนั้น การศึกษาต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย