- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ทีเคปาร์ค ต่อยอดสร้าง ‘ห้องสมุดมีชีวิต’ เพิ่มในส่วนภูมิภาค
ทีเคปาร์ค ต่อยอดสร้าง ‘ห้องสมุดมีชีวิต’ เพิ่มในส่วนภูมิภาค
เล็งขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังโรงเรียนดีประจำตำบลอีก 182 แห่ง ด้าน ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ระบุการจัดการเรื่องแหล่งเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำให้กระจายออกไป ไม่กระจุกตัว เพื่อคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์
วันที่ 21 มกราคม สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) สังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี จัดงาน 6th Anniversary TK park Learning Society, Ready to continue “ร่วมขับเคลื่อนการเรียนรู้ สู่สังคมไทย” ณ อุทยานการเรียนรู้ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ กล่าวว่า ในปี 2554 นี้ ทาง สอร. มีโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่พร้อมจะขับเคลื่อนต่อยอดการพัฒนาความรู้สู่สังคมต่อไป อาทิ โครงการความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานต่อยอดความสำเร็จจากโครงการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตต้นแบบในโรงเรียน โดยจัดทำโครงการจุดประกายการเรียนรู้ในโรงเรียน เพื่อพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตในโรงเรียนเพิ่มขึ้นอีก 50 แห่ง และขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังโรงเรียนดีประจำตำบลอีกอย่างน้อย 182 แห่ง รวมทั้งการส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ในท้องถิ่นในภูมิภาคอื่นๆ เช่นเดียวกับที่เคยสร้างอุทยานการเรียนรู้ภูมิภาคแห่งแรกของประเทศไทย ขึ้นที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 เพื่อเป็นแม่ข่ายทางปัญญาให้กับพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป
ดร.ทัศนัย กล่าวถึงการจัดกิจกรรมต่อยอดแนวคิดจิตอาสา ด้วยการจัดโครงการ “วีรกรรมสร้างเด็กไทยให้เป็นนักอ่าน” โดยจัดเสวนาและอบรมเชิงปฏิบัติการบนพื้นฐานการทำกิจกรรมแบบจิตอาสา เพื่อกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกสาธารณะ รวมทั้งโครงการจัดประชุมวิชาการประจำปี 2554 (Thailand Reading Symposium 2011) เพื่อเป็นการยกระดับการจัดงานสัมมนาวิชาการ สานต่อการผลักดันเชิงนโยบายการอ่านของประเทศ
จากนั้น ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานคณะกรรมการบริหาร สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ปาฐกถา ในหัวข้อ “แหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์สังคมไทย” ว่า การจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้คนส่วนใหญ่ หรือทั้งหมดมีความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้นการจัดการเรื่องแหล่งเรียนรู้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่จะต้องทำให้กระจายออกไป ซึ่งมีปัจจัย 4 ตัวที่สังคมไทยต้องการ และยังขาดอยู่ คือ 1.กรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในสิ่งที่เป็นกายภาพ เช่นที่ดิน อาคาร ปัญญา รวมทั้งความเป็นเจ้าของในตัวตนของเราเอง 2. ระบบการทำงานที่มีเหตุมีผล ไม่อิงหลักโหราศาสตร์ 3. มีตลาดเงินและตลาดทุนที่สามารถนำให้เกิดการออมและการลงทุนได้ และ 4.ระบบการขนส่ง การติดต่อสื่อสารและการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
“ทั้งหมดเป็นเรื่องโครงสร้างระยะยาวที่จำเป็นต้องมี ซึ่งภาครัฐจะต้องเข้ามาลงทุนในเรื่องเหล่านี้ รวมทั้งเป็นผู้นำให้เกิดขึ้น โดยมีเอกชนมาร่วมด้วย จึงจะนำมาสู่ความเจริญแบบกระจาย ไม่กระจุกตัวอยู่แต่ในเมือง เพื่อคนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์ รวมถึงมีแหล่งเรียนรู้ที่ทั่วถึง”