- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- คสป.หนุนให้สิทธิทางกม.เสริมพลัง คนหลุดพ้น"ความยากจน"
คสป.หนุนให้สิทธิทางกม.เสริมพลัง คนหลุดพ้น"ความยากจน"
เล็งจัดสมัชชาเสริมสร้างศักยภาพด้านกฎหมายให้คนจน ก่อนผลักดันออกมาเป็นนโยบาย "นพ.ประเวศ วะสี" เปรียบปฏิรูปกฎหมายเพื่อคนจน เหมือนการปลดปล่อยผู้คนออกจากคุกที่มองไม่เห็น สร้างสังคมที่มีอนุภาพเสมอกัน ทั้งทางอำนาจรัฐ อำนาจเงิน และอำนาจสังคม
วันที่ 3 ธันวาคม มีการประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการเสริมสร้างสิทธิทางกฎหมายของคนยากจน (Legal Empowerment Partnership Project Board) ครั้งที่ 2/2553 ณ ห้องดวงกมล โรงแรมสยามซิตี้ กรุงเทพฯ เพื่อหารือถึงข้อสรุปและข้อเสนอแนะสำหรับการเสริมสร้างสิทธิทางกฎหมายให้กับคนยากจน โดยมีศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป เป็นประธานการประชุม
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า ปัญหาคนจนเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศ คือ คนจน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน ฯลฯ แต่กลับพบว่า ขาดทั้งด้านคุณภาพชีวิตและความมั่นคง จนส่งผลให้ประเทศมีความลำบาก ยิ่งพัฒนาก็ยิ่งทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนคนรวยเพิ่มขึ้น โดยช่องว่างเหล่านั้นนำมาสู่ปัญหาอาชญากรรม โสเภณี ความแตกแยกทางการเมือง ฯลฯ
“คนจนไม่ได้มีเครื่องมือเชิงสถาบัน ต่างกับภาครัฐและภาคธุรกิจที่มีสถาบันมากมาย อาทิ สถาบันทางการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฯลฯ ฉะนั้น จึงจำเป็นต้องสร้างสถาบันให้แก่คนจน นั่นก็คือ การปฏิรูปกฎหมายเพื่อคนจน หรือ Legal Empowerment ประกอบด้วย 4 เรื่องใหญ่ คือ 1.การเข้าถึงความยุติธรรมทางกฎหมาย 2.ทรัพยากร เช่น เรื่องที่ดิน โดยเฉพาะการนิรโทษกรรมผู้คนที่ต้องรับโทษจากบุกรุกที่ดินของตนเอง 3.แรงงาน จากเดิมที่ให้ความสำคัญกับค่า ‘เงิน’ มากกว่า ‘คน’ จะมีการพัฒนาภายใต้แนวคิด ‘คุณค่าแรงงาน’ โดยการมองผู้ใช้แรงงานเป็นทุนและหุ้นส่วนมากขึ้น 4.การประกอบการ”
ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวถึงความเหลื่อมล้ำในสิทธิทางกฎหมาย สำคัญมากกว่าตัวเงิน เพราะการให้สิทธิทางกฎหมายเป็นพลังขับเคลื่อนให้คนหลุดพ้นจากความยากจน ซึ่งการเสริมสร้างสิทธิทางกฎหมายเปรียบเสมือนเป็นการปลดปล่อยผู้คนออกจากคุก เนื่องจากผู้คนจำนวนมากถูกจองจำโดยไม่รู้ตัว จากคุกที่มองไม่เห็น (Invisible prison) อาจจะด้วยกฎระเบียบ ขนบธรรมเนียม ประเพณีหรือสิ่งใดก็ตาม จนฝังอยู่ในคนทุกยุคทุกสมัย
“เมื่อเขารู้และเข้าใจกฎหมายว่าเป็นเช่นไร และจะทำอย่างไรให้ถูกกฎหมาย ก็จะเกิดเป็นการเสริมสร้างพลังอำนาจ กลายเป็น ‘สังคมสมานุภาพ’ ซึ่งหมายถึงสังคมที่มีอนุภาพเสมอกัน ทั้งทางอำนาจรัฐ อำนาจเงิน และอำนาจสังคม”
ส่วนจะการขับเคลื่อน Legal Empowerment ต่อไปอย่างไรนั้น ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า จะมีการจัดสมัชชาเรื่องการเสริมสร้างศักยภาพทางด้านกฎหมายให้คนจน โดยจะมีตัวแทนชาวบ้าน ผู้นำชุมชน สื่อมวลชนและนักการเมืองร่วมหารือ เพื่อให้ตกผลึกออกมาเป็นนโยบาย