- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- รัฐบาลวางแนวทางแก้ปัญหาแรงงานนอกระบบ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
รัฐบาลวางแนวทางแก้ปัญหาแรงงานนอกระบบ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
นายกรัฐมนตรีระบุรัฐบาลกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาแรงงานนอกระบบ รวมทั้งลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ทั้งเรื่องไข่ ไก่ หมู ก๊าซหุงต้ม
วันที่ 3 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะทำงานแรงงานนอกระบบและเศรษฐกิจนอกระบบ เข้าพบ ว่า ในส่วนการพิจารณาเรื่องค่าครองชีพนั้น ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้จะไปที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ ที่ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติการกันของคณะทำงาน ซึ่งการประชุมในวันนี้เป็นการเสนอข้อมูลเบื้องต้น ยังไม่ได้ข้อสรุปทั้งหมด
“มีการคุยกันตั้งแต่ วินมอเตอร์ไซด์ แท็กซี่ หาบเร่-แผงลอยก็จะเพิ่มจุดผ่อนผัน คนทำงานกลางคืน คนที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม และในเรื่องค่าครองชีพก็คุยตั้งแต่เรื่องไข่ ไก่ หมู น้ำมัน LPG ค่าไฟฟ้า” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนวิธีการเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายสำหรับวินมอเตอร์ไซด์และแท็กซี่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังมีรายละเอียดที่ต้องทำอีกมาก แต่ส่วนของวินมอเตอร์ไซด์ต้องเริ่มต้นจากปัญหาที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสามารถเข้ามาจดทะเบียนได้ หาบเร่จะเพิ่มจุดผ่อนผันและปรับการทำงานให้ดี และเปิดทางเลือกเรื่องประกันสังคม ถ้าหากการสมทบเงินตามมาตรา 40 ของประกันสังคมที่ครอบคลุมสิทธิทั้งหมดราคาสูงเกินไป ก็อยากให้เปิดทางเลือกว่าให้สมทบเงินน้อยกว่านั้น แต่ไม่เอาสิทธิบางตัว เช่น เรื่องชราภาพ และให้ใช้สิทธิชราภาพผ่านกองทุนเงินออม ซึ่งในวันที่ 7 ธันวาคม จะไปตรวจเยี่ยม แต่จะปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 17 ธันวาคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีระบุเจาะจงถึงกลุ่มหาบเร่แผงลอยในเรื่องของจุดผ่อนผันอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ว่า จุดผ่อนผันนั้นมีตัวเลขอยู่ กำลังไปไล่ดูอีกครั้ง ซึ่งน่าจะมีมากกว่า 2,000 จุดกำลังตรวจสอบรายชื่อ แต่ที่ตนให้นโยบายเพิ่มคือเริ่มมีการศึกษาจากกทม.ก่อน แต่จะมีการศึกษาทั่วประเทศไม่ใช่แค่กทม. ทั้งนี้บางเรื่องหากได้ข้อสรุปในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ก็ทำได้เลย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับ ไก่ ไข่ หมู จะได้เป็นครั้งแรกที่เราวิเคราะห์โครงสร้างของต้นทุนมาได้ ว่าปัญหาที่มีความรู้สึกว่า แพง ยู่ที่ไหน และมีอะไรที่เราทำได้บ้าง รวมถึงที่ผ่านมากลไกที่เรามีอยู่ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เช่น กฎหมายแข่งขันทางการค้า เพราะฉะนั้นข้อเสนอตรงนี้จะเข้ามา และจะให้ไปดูเรื่องค่าครองชีพที่เป็นระบบ เพราะที่ผ่านมาเราจะมีมาตรการเฉพาะหน้าเท่านั้น
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้เสนอหลักคิดว่า ต่อไปนี้ก๊าซธรรมชาติเป็นของคนไทย ดังนั้นก๊าซครัวเรือนจะต้องขายคนไทยได้ในราคาที่เราเห็นว่าเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องอิงกับตลาด และข้อมูลที่เสนอมาก็ยังยืนยันอยู่ว่าถ้าเราบริหารให้ดี เราสามารถตรึงราคาก๊าซหุงต้มสำหรับครัวเรือนได้ โดยสามารถลดการอุดหนุนจากรัฐได้ด้วย และจะนำประโยชน์จากการอุดหนุนดังกล่าวไปลดราคาน้ำมัน
“เราจะแยกว่าก๊าซที่เรานำมาใช้ชาวบ้านใช้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และก๊าซที่ใช้ในทางการผลิตก็ให้จ่ายในราคาตลาด ถ้าทำอย่างนี้ก็จะสามารถได้ตามเป้าหมายคือก๊าซสำหรับประชาชนจะสามารถตรึงราคาได้โดยรัฐไม่ต้องเสียเงินภาษีอากร หรือเงินกองทุนน้ำมันเข้าไปอุดหนุน ก็เข้าไปลดราคาน้ำมันได้ ส่วนภาคขนส่งกำลังดูตัวเลขอยู่ แต่คิดว่าน่าจะอยู่ที่ภาคครัวเรือนได้ และความจริงก๊าซ LPG เราตรึงอยู่ ที่ผ่านมาจะมีแรงกดดันจากหน่วยงานตลอดว่าจะต้องปล่อย แต่วันนี้เราได้ข้อสรุปคือ ไม่มีความจำเป็น ตรึงได้ และลดภาระของรัฐบาลและประชาชนที่ใช้น้ำมันได้ด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว