อภิสิทธิ์ยันปีหน้าเร่งแก้ปัญหามาบตาพุดให้เสร็จสมบูรณ์ 100%

นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหามาบตาพุด ย้ำคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด พร้อมเร่งแก้ปัญหาขยะ ผังเมือง มลพิษ การบังคับใช้กฎหมาย

วันที่ 20 พฤศจิกายน  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดระยอง เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง และรับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนในด้านต่าง ๆ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียง ให้การต้อนรับ

นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ระยองถือเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้มูลค่าสูงสุดให้กับประเทศ เมื่อปี 2551 มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด 672,104 ล้านบาท เป็นจังหวัดที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด จากเมื่อปี 2524 โครงสร้างเศรษฐกิจที่มีความสมดุลใน 3 ด้าน ทั้งด้านการเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว และเมื่อรัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ อีสเทิร์นซีบอร์ด ถือเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทย มีผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศเกือบ 8 เท่า แต่โครงสร้างเศรษฐกิจ เป็นเศรษฐกิจขาเดียวที่พึ่งพิงอุตสาหกรรม ซึ่งใน 2554 จะมีการเดินหน้าในส่วนของคณะกรรมการเติมเต็ม และการวางผังเมืองบนแนวคิดให้ชุมชน ภาคการเกษตร ภาคการท่องเที่ยว และบริการสามารถอยู่กับภาคอุตสาหกรรมได้อย่างสมดุลและยั่งยืน”

จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการต่างๆ ที่ได้มีการนำเสนอเพื่อที่จะดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน รัฐบาลจะเร่งผลักดันให้ประสบผลสำเร็จเกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว การเดินทางมาลงพื้นที่ถือว่าเป็นการยืนยันว่า รัฐบาลได้ใส่ใจต่อปัญหาของพี่น้องประชาชน และเดินหน้าแก้ไขปัญหา ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหามาบตาพุดเป็นปัญหาที่สะสมมาเป็นระยะเวลายาวนาน ปรากฏขึ้นต่อคนไทยทั้งประเทศเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการประกอบการ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจนทำให้เกิดข้อเรียกร้องต่างๆ มากมายจากภาคประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มี 4 เรื่อง ที่เป็นเรื่องเร่งด่วนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน คือ 1.ปัญหาเรื่องขยะ แม้ว่ารัฐบาลจะอนุมัติเรื่องของโครงการ แต่ในทางปฏิบัติยังมีปัญหาอยู่ในการดำเนินการตามแนวทางตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น ซึ่งกำลังเร่งแก้ไขปัญหา อุปสรรคต่อการดำเนินการให้เร็วที่สุด 2.ปัญหาเรื่องของการมองภาพรวมในระยะยาว คือ ปัญหาของผังเมือง 3.การป้องกันและแก้ไขปัญหาจากอุตสาหกรรมและมลพิษที่มีต่อพี่น้องประชาชน จะดูตามสถานการณ์ หรือโครงการอย่างเดียวไม่พอ ต้องพิจารณาในภาพรวมถึงความสามารถของพื้นที่ในการรองรับอุตสาหกรรมบางประเภท และ 4.ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายซึ่งเป็นปัญหาที่เรื้อรังของสังคมไทย

“อะไรที่ยังไม่ 100 % จะเติมเต็มให้เป็น 100 % ให้ได้ในต้นปีหน้า นี่คือสิ่งที่รัฐบาลเดินหน้าผลักดันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน”

ต่อมา นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังชุมชนวัดมาบตาพุด อำเภอเมือง เพื่อเป็นประธานพิธีปล่อยน้ำประปาให้กับประชาชนในชุมชน จำนวน 33 ชุมชน 49,000 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบด้านคุณภาพชีวิตจากอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง โดยได้รับงบประมาณในการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำประปาบริการแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างเพียงพอและทั่วถึง ใช้งบประมาณจำนวน 134 ล้านบาท

สำหรับชุมชนอื่นๆ ที่เหลือ ทางการประปาส่วนภูมิภาคจะเร่งดำเนินการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2554 โดยนายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดก๊อกน้ำให้กับนางพจนา ประเสริฐ ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 1 ชุมชนวัดมาบตาพุด และได้ร่วมดื่มน้ำประปาที่สะอาด คุณภาพมาตร ฐานน้ำดื่มองค์การอนามัยโลก เพื่อแสดงให้ประชาชนมั่นใจว่าจะสามารถใช้น้ำประปาไว้อุปโภค บริโภคได้

หลังจากนั้นเดินทางไปยังศูนย์อาชีวเวชศาสตร์ และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม จังหวัดระยอง เพื่อเป็นประธานพิธีมอบรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่จำนวน 2 คัน ตามโครงการพัฒนาศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาลมาบตาพุดให้เป็นโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านอาชีวเวชศาสตร์ ขนาด 200 เตียง และโครงการตรวจสุขภาพและเฝ้าระวังของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดุแลรักษาประชาชนในพื้นที่

และเดินทางต่อไปยังพื้นที่เตรียมการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ วิทยาเขตระยอง ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นโครงการที่ประชาชนชาวระยองได้ร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้น ให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในพื้นที่จังหวัดระยอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมพื้นที่ โดยในปีการศึกษา 2554 จะเปิดให้มีการสอนเป็นปีแรก คาดว่าจะรับนักศึกษาประมาณ 300 คน ในหลักสูตรระดับปริญญาตรี 4 ปี ได้แก่ หลักสูตรเทคโนโลยีวิศวกรรมแม่พิมพ์และการออกแบบ หลักสูตรเทคโนโลยีวิศวกรรมโพลิเมอร์ หลักสูตรเทคโนโลยีวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และการควบคุมหลักสูตรวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม และหลักสูตรระดับปริญญาโท ในสาขาวิชาการการจัดการอุตสาหกรรม

สำหรับการจัดการศึกษาที่วิทยาเขตระยอง ได้รับความร่วมมือกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในพื้นที่ มุ่งเน้นการจัดการศึกษาแบบสหกิจศึกษา ที่เรียนภาคทฤษฎีในชั้นเรียนแล้วไปฝึกปฏิบัติเทคโนโลยีขั้นสูงในโรงงานอุตสาหกรรมอีก 6 เดือน สำเร็จการศึกษาเป็นวิศวกรปฏิบัติ นักเทคโนโลยี และนักวิทยาศาสตร์ที่มีทักษะ และความสามารถในวิชาชีพเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม