- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- สธ.จับสัญญานเตือนภัยการระบาดโรคเอดส์ในไทยระลอก 2
สธ.จับสัญญานเตือนภัยการระบาดโรคเอดส์ในไทยระลอก 2
คาดปี 2553 นี้ จะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่กว่าหมื่นคน กว่า80% ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ปลัดสธ.เผยตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปีนี้ รวม 26 ปี ไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ทะลุล้าน เกินครึ่งเสียชีวิตแล้ว
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายสิริพงษ์ กลั่นศิริ หัวหน้ากองประจำการรถไฟ ร่วมกันแถลงข่าว การจัดงานรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์เนื่องในวันวาเลนไทน์ ประจำปี 2553 เพื่อสร้างกระแสความตื่นตัวในสังคม โดยเฉพาะเยาวชน ให้ตระหนักว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์เป็นปัญหาใกล้ตัว และทุกคนมีโอกาสติดเชื้อดังกล่าวได้ หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้ชีวิตของกลุ่มเยาวชนน่าห่วงมาก มีแนวโน้มติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจและสังคม เทคโนโลยี ทัศนคติของสังคม สิ่งแวดล้อม กระแสวัตถุนิยม และค่านิยมที่โน้มเอียงไปทางตะวันตกมากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสื่อต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย โดยเฉพาะสื่อลามกหลากหลายรูปแบบ ก่อให้เกิดปัญหาการมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อย การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย จะนำไปสู่วงจรการขายบริการทางเพศง่ายขึ้น รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามมา รวมทั้งการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า แม้ว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะมีอัตราการติดเชื้อลดลงมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2537-2544 ซึ่งมีอัตราป่วยเหลือเพียงแสนละ 23 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นแสนละ 30 คน ในปี 2551 ส่วนใหญ่เป็นโรคหนองใน รองลงมาคือ โรคหนองในเทียม และซิฟิลิส ทั้งนี้โรคหนองในที่พบในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ในปี 2551 เพิ่มสูงกว่าปี 2545 ถึง 3 เท่าตัว คือจาก ร้อยละ 5 ในปี 2545 เป็น ร้อยละ 15 กลุ่มอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและน่าเป็นห่วง ได้แก่ กลุ่มอายุ 15-24 ปี โดยเยาวชนมีอัตราป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แสนละ 59 คน สถานการณ์เช่นนี้แสดงถึงการไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากผลการเฝ้าระวังทางพฤติกรรมในกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในปี 2551 พบว่ามีอัตราการใช้ถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 27 อัตราป่วยที่เพิ่มขึ้นของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะโรคหนองในจะเป็นตัวบ่งชี้การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ เนื่องจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้น หากไม่เร่งป้องกันแก้ไข เป็นสัญญาณนำไปสู่การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในไทยระลอก 2 ซึ่งมีข้อมูลการศึกษาพบว่าผู้ที่ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีสูงกว่าคนทั่วไปประมาณ 3-9 เท่า โดยคาดว่า ในปี 2553 นี้ จะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 10,853 คน กว่าร้อยละ 80 ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปีนี้ รวม 26 ปี คาดว่าไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ 1,138,020 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 641,633 คน