- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ยื่นเงื่อนไขธุรกิจเมดดิคอลฮับเดินหน้า ต้องไม่กระทบบริการผู้ป่วยไทย
ยื่นเงื่อนไขธุรกิจเมดดิคอลฮับเดินหน้า ต้องไม่กระทบบริการผู้ป่วยไทย
รมว.สธ.เล็งมอบอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ไปศึกษาแนวทางการสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ เช่น การแก้ไขกฎระเบียบ การออกกฎหมายใหม่ หรือการปรับปรุงกฎระเบียบให้เหมาะสม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมผู้ประกอบการสปา นวดแผนไทย และโรงพยาบาลเอกชน วันนี้ (3 พ.ค.) ว่า วันนี้เป็นการระดมความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน ในการช่วยผลักดันนโยบาย Medical Hub หรือการที่ประเทศไทยจะเดินทางไปสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพแห่งภูมิภาค ซึ่งมีภาคเอกชนจากทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยให้ความคิดเห็น รวมทั้งเล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมาประสบปัญหาอะไรบ้าง ความต้องการที่จะให้กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลสนับสนุนประเด็นใดบ้าง เพื่อให้นโยบายประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้ให้นโยบายไว้ชัดเจนแล้วว่า ในการที่จะเดินหน้าไปสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพแห่งภูมิภาคนั้น เน้นยุทธศาสตร์ 4 ด้าน ได้แก่ 1. การรักษาพยาบาล โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือไม่ให้มีผลกระทบต่อคนไข้ที่เป็นคนไทย 2. ธุรกิจส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งไทยมีศักยภาพเป็นที่ยอมรับทั่วโลก เช่น สปา นวดแผนไทย 3. การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่จะดึงชาวต่างประเทศมารักษาพยาบาลในไทย และ 4.การสนับสนุนสมุนไพรไทยและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย เนื่องจากสมุนไพรมีคุณภาพและศักยภาพที่จะสนับสนุนให้เข้าไปในตลาดเครื่องสำอาง ตลาดยาและอาหารเสริมสุขภาพ
“เมื่อได้รับฟังความคิดเห็นและปัญหาทั้งหมดแล้ว จะมอบหมายให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งเป็นเจ้าภาพ ไปศึกษาแนวทางการสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ เช่น การแก้ไขกฎระเบียบ การออกกฎหมายใหม่ หรือการปรับปรุงกฎระเบียบให้เหมาะสม มั่นใจว่าจะได้แผนดำเนินงานที่ชัดเจนขึ้น”
ด้านนายแพทย์นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ พ.ศ. 2553 -2557 ตั้งเป้านำเม็ดเงินเข้าประเทศ 4 แสนกว่าล้านบาท บริการจะเน้นที่ 4 ด้านได้แก่ การรักษาพยาบาล 281,945 ล้านบาท ด้านส่งเสริมสุขภาพ 78,225 ล้านบาท การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 684 ล้านบาท และสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 42,736 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนธุรกิจสุขภาพให้สามารถแข่งขันในตลาดโลก สร้างรายได้เข้าประเทศ และไม่กระทบต่อระบบบริการสุขภาพหลักของประเทศ โดยจัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบบริหารยุทธศาสตร์ พัฒนาปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อภาคธุรกิจยิ่งขึ้น เป็นต้น
สำหรับบริการสุขภาพที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ จะมุ่งเน้นที่การพัฒนาคุณภาพบริการ สร้างเอกลักษณ์การบริการให้โดดเด่น อาทิ บริการด้านการรักษาพยาบาล ประกอบด้วย ศูนย์บริการทันตกรรม ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง บริการส่งเสริมสุขภาพ เช่น สปา นวดไทย เพื่อสุขภาพ ระดับห้าดาว การบริการผู้สูงอายุระยะยาว ส่วนผลิตภัณฑ์สมุนไพรจะพัฒนาให้ผ่านมาตรฐานสากล ทั้งโรงงานผลิตและตัวผลิตภัณฑ์ รวมทั้งมีศูนย์จัดจำหน่ายที่มีมาตรฐาน