- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- “จุรินทร์” แจงโอนสิทธิครอบครัวผู้ประกันตน 5.8 ล้านคนไปอยู่ สปส.
“จุรินทร์” แจงโอนสิทธิครอบครัวผู้ประกันตน 5.8 ล้านคนไปอยู่ สปส.
ยันเป็นนโยบายรัฐบาล ได้สิทธิเพิ่มกว่าเดิมทั้งการรักษา คลุมไปถึงทุพพลภาพ-เสียชีวิต แม้กระทบงบฯ สธ. จากเดิมรัฐบาลจัดสรรงบให้ สปสช. ต่อไปต้องโอนงบไปให้ สปส.ดำเนินการ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าววันนี้ (12 พ.ค.) ถึงการโอนสิทธิครอบครัวผู้ประกันตน จากโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไปอยู่ในระบบประกันสังคมว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศไว้เบื้องต้นว่า จะมีการขยายสิทธิผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม นอกจากผู้ใช้แรงงานแล้วก็จะขยายไปถึงคู่สมรสและบุตรด้วย ซึ่งเป็นขั้นตอนการปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ขณะนี้การขยายสิทธิประกันสังคมไปยังคู่สมรสและบุตรผู้ประกันตนได้ ก็ต้องแก้กฎหมายประกันสังคม ที่ได้ผ่านกระบวนการเกือบจะเสร็จแล้วโดยเฉพาะในขั้นตอนของกฤษฎีกา ก็จะกลับเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังจากนั้นจะไปสภาผู้แทนราษฎร เมื่อกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก็จะมีผลบังคับใช้ในอีก 120 วัน ตามร่างฯเดิมที่ได้กำหนดไว้
“ครอบครัวของผู้ประกันตนที่เปลี่ยนจากสิทธิไปอยู่ในระบบประกันสังคม จะได้รับสิทธิเพิ่มเติม นอกจากการรักษาพยาบาลแล้ว ยังได้ครอบคลุมไปถึงทุพพลภาพและเสียชีวิตด้วย” รมว.สธ.กล่าว และว่า ส่วนความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันนั้นเป็นความเห็นระหว่างหน่วยงาน แต่ว่าในภาคนโยบายถือว่าคณะรัฐมนตรีมีมติแล้ว และมีความคิดเห็นสอดคล้องต้องกัน ต้องดำเนินการไปตามนั้น ส่วนที่จะกระทบกับกระทรวงสาธารณสุขบ้างก็คือ เรื่องงบประมาณ ซึ่งเดิมรัฐบาลจัดสรรงบให้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แต่ต่อไปก็จะโอนงบไปให้สำนักงานประกันสังคมไปดำเนินการ ซึ่งขณะนี้จำนวนครอบครัวผู้ประกันตนมีประมาณ 5.8 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (11 พ.ค.) ในการประชุมคณะรัฐมนตรี มีการพิจารณา เรื่อง ความเห็นและข้อเสนอต่อนโยบาย เรื่อง การขยายสิทธิประกันสังคมแก่คู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตน โดยคณะรัฐมนตรีรับทราบความเห็นและข้อเสนอต่อนโยบาย เรื่อง การขยายสิทธิประกันสังคมแก่คู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตน ของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามที่ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. ให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนนโยบายการขยายความคุ้มครองประกันสังคมแก่คู่สมรสและบุคคลของผู้ประกันตน 2. ให้สำนักงานประกันสังคมขยายความคุ้มครองสิทธิประกันด้านสังคมที่ไม่ใช่กรณีเจ็บป่วยให้แก่กลุ่มที่ยังไม่ได้รับความคุ้มครอง 3. ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับผิดชอบดูแลบริหารจัดการหลักประกันสุขภาพและสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลของคู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตนเช่นเดิม รวมทั้งควรพิจารณาขยายไปยังผู้ประกันตนทั้งหมดด้วย