- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- อีก 7 วัน "อานันท์" เล็งเปิดยุทธศาสตร์สร้างสังคมที่เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ
อีก 7 วัน "อานันท์" เล็งเปิดยุทธศาสตร์สร้างสังคมที่เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ
ประธาน คปร. เผยหลังประชุมกำหนดกรอบการทำงาน คาดภายใน 7 วันจะนำเสนอออกมาเป็นยุทธศาสตร์ เชื่อเป็นจุดที่จะช่วยปลดล็อกความเหลื่อมล้ำ-สร้างความยุติธรรมให้กับสังคม ขณะที่เวทีรับฟังความคิดเห็น เลื่อนจัดไปเดือน ต.ค.
วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่บ้านพิษณุโลก ถนนพิษณุโลก คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) ชุดที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ประชุมคณะกรรมการใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง จากนั้นนายอานันท์ เปิดแถลงข่าว โดยระบุว่า ขณะนี้ได้พูดคุยกรอบการทำงานเสร็จแล้วทุกประเด็น จากมุมมองต่างๆ 5 มุมมอง ซึ่งคาดว่า ภายใน 7 วันจะสามารถนำเสนอออกมาเป็นยุทธศาสตร์ที่จะเป็นวิธีการนำไปสู่การสร้างสังคมที่เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ
"ขณะนี้มีประเด็นต่างๆ อยู่ในใจ แต่ยังต้องนำมาจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง เวลาพูดถึงเรื่อง การสร้างความยุติธรรม หรือเหลื่อมล้ำ อาจพูดได้หลายอย่างว่า สร้างความยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ,ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างความยุติธรรม หรือทำทั้งยุติธรรมและเหลื่อมล้ำไปพร้อมกัน ฉะนั้น ทั้ง 3 รูปแบบ ก็เหมือนกัน เพียงเป็นเป็นขั้นตอนหรือการกระทำ ขณะที่วิธีคิดก็ต้องคิดไปถึงรากเหง้าของต้นเหตุแท้จริงด้วย”
นายอานันท์ กล่าวถึงการทำงานอาจจะจับประเด็นหลายเรื่อง เช่น การศึกษา ที่ดิน อำนาจต่อรอง แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ร่มใหญ่ๆ 1 คัน เพื่อไปหาสาเหตุว่า ต้นเหตุ คืออะไร จะอธิบายหรือแผ่ขยายได้อย่างไร แต่ทุกเรื่องต้องแก้ไขตามประเด็นต่างๆ เพื่อนำไปสู่จุดเดียว แต่ไม่ใช่เรื่องความเหลื่อมล้ำ หรือความยุติธรรม แต่ต้องเป็นจุดที่จะช่วยปลดล็อก ซึ่งหากปลดล็อกได้ ความเหลื่อมล้ำและการสร้างความยุติธรรมจะได้รับการแก้ไขในที่สุด
ประธาน คปร. กล่าวถึงการจัดเวทีปฏิรูปว่า จะปรับเปลี่ยนจากวันที่ 26 กันยายน 2553 เป็นวันที่ 17 ตุลาคม 2553 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันนั้นจะไม่ใช่เป็นวันของคณะกรรมการปฏิรูป แต่จะเป็นวันของภาคประชาชนทั้งหมด คณะกรรมการเป็นเพียงผู้จัดเวที จะอยู่ข้างหลัง เป็นเพียงผู้ฟัง ตัวละครใหญ่ คือ ประชาชน จากกลุ่มองค์กรต่างๆที่เข้าถึงได้ไม่มากพอ และจะสื่อสารกับสื่อโดยตรง มีข้อเสนอเป็นกิจลักษณะ เป็นการพบปะของสื่อกับภาคประชาชน ที่เริ่มสานเสวนาโดยตรง รวมทั้งจะมีการถ่ายทอดผ่านทีวีด้วย
ด้าน ดร.เดชรัต สุขกำเนิด เลขานุการ คปร.กล่าวถึงประเด็นหลักที่จะใช้เป็นกรอบการทำงาน คือ การกระจายอำนาจที่ไม่ใช่เพียงขยายลงสู่ท้องถิ่น แต่หมายถึงการแบ่งหรือจัดสรรอำนาจที่เป็นของรัฐส่วนกลางหรือส่วนท้องถิ่นใหม่ไปเป็นของประชาชนหรือภาคประชาสังคมให้มากขึ้น เพื่อเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมในด้านต่างๆ รวมถึง 14 ประเด็นที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้
“ต่อไปจะไม่พูดลอยๆ เช่น ถ้าพูดถึงประเด็นที่ดินทรัพยากรและการศึกษาก็จะพูดผ่านกรอบของกระจายอำนาจและจัดสรรอำนาจ ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์การทำงานของทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน ระบบงบประมาณการคลัง การศึกษา ยกตัวอย่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ที่ผ่านมาประชาชนมีส่วนร่วมน้อยมาก ทั้งขาขึ้น ขาลง ไม่เคยติดตามว่า เหมาะสมคุ้มค่าหรือไม่ต่อไป ต่อไปอาจต้องมีกระบวนการปลดล็อคในจุดที่ยังติดค้าง”