“รสนา”ตั้งกระทู้นอกสภา ฝาก 3 คำถาม ทวงกรอบความชัดเจน “ธรรมาภิบาล” จากนายกฯ

หลังนายกฯ อภิสิทธิ์ ประกาศกลางสภา ช่วงอภิปรายร่างงบฯ ระบุจะเรียกคืนโบนัส 50% จากขรก.ระดับสูงที่เข้าไปนั่งเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ

จากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในการอภิปรายร่างงบประมาณประจำปี 2554 ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยช่วงหนึ่งระบุถึงเรื่องธรรมาภิบาลในระบบราชการได้เริ่มต้นแล้ว พร้อมยกกรณีข้าราชการที่ไปนั่งอยู่ตามคณะกรรมการ (บอร์ด) รัฐวิสาหกิจต่างๆ โบนัสที่ได้รับจะให้ส่งคืนรัฐครึ่งหนึ่ง นั้น

นางสาวรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เปิดเผยกับศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทย ว่า เพื่อความชัดเจนในระดับปฏิบัติการ จึงขอตั้งคำถามถึงนายกรัฐมนตรีใน 3 ประเด็น

นางสาวรสนา กล่าวว่า ประเด็นแรก คือ กรณีการนำเงินโบนัส 50% ของข้าราชการระดับสูง และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในธุรกิจกิจการต่างๆ กลับคืนสู่หลวงนั้น ทำไมนายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจแบบนั้น และทำไมไม่ห้ามหรือเรียกคืนทั้งหมด เนื่องจากข้าราชการที่เข้าไปเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจต่างๆ นั้นมาโดยดำรงตำแหน่งทางราชการ ซึ่งไม่ควรได้รับทั้งโบนัสและเบี้ยประชุมจากองค์กรนั้นๆ เสียด้วยซ้ำ แต่ละปีได้รับผลประโยชน์เป็นหลักล้านบาท ผิดมาตรฐานของการรับผลตอบแทนโดยธรรมจรรยาตามมาตรา 100 และมาตรา 103 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เรื่องนี้ไม่เคยมีใครนำกฎหมายเหล่านี้มาบังคับใช้

“ส่วนกรณีที่ 2 การจะขึ้นราคาแก๊สแอลพีจี พบข้อมูลว่า ขณะนี้กำลังการผลิตแก๊สแอลพีจีในประเทศเพียงพอต่อความต้องการใช้ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมมีความต้องการใช้มากกว่าจึงควรนำเข้าโดยแบกรับภาระค่า ใช้จ่ายเองด้วย ไม่ใช่นำเงินจากกองทุนน้ำมันที่เป็นเงินของประชาชนไปจ่ายแทนแบบที่ทำอยู่ขณะ นี้ และอยากถามว่าจะหยุดนำเงินจากกองทุนน้ำมันจ่ายแทนเมื่อใด”

ประเด็น ที่สาม ส.ว.กทม. กล่าวว่า ภาครัฐจะมีมาตรการไม่ให้ปลัดกระทรวงต่างๆ เข้าไปนั่งเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ นั้นจะเริ่มต้นได้เมื่อใดในทางปฏิบัติ พร้อมกับจะมีแนวทางกำกับดูแลที่ชัดเจนอย่างไรบ้าง

“สิ่ง ที่นายกฯ ได้พูดในสภาฯ เป็นคำมั่นสัญญาเอาไว้อย่างน้อย 3 ข้อ จะมีปฏิบัติการเมื่อใด อยากให้ออกมาแถลงให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะเวลานี้มีการนำเงินจากกองทุนน้ำมันไปชดเชยการนำเข้าแก๊สแอลพีจีทุกปี ไม่ต่ำกว่าปีละ 5-8 พัน ล้านบาท ส่วนนี้เป็นเงินของประชาชน ถึงนากยฯ พูดจะไม่ขึ้นราคาแก๊สแอลพีจี เพราะผลิตพอใช้ในประเทศ ส่วนใครที่ต้องการใช้เพิ่มก็ให้นำเข้าแล้วจ่ายเอง ยังเป็นแค่คำพูด แต่ในทางปฏิบัติก็ยังมีการนำเงินจากกองทุนน้ำมันไปชดเชย” ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าว และว่า เรื่องธรรมาภิบาลควรมีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนด้วย