- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ป.ป.ช.พร้อมจัดประชุมนานาชาติว่าด้วยการต่อต้านทุจริตโลก
ป.ป.ช.พร้อมจัดประชุมนานาชาติว่าด้วยการต่อต้านทุจริตโลก
10-13 พ.ย. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “คืนความเชื่อมั่น : ทั่วโลกโปร่งใสกู้ภัยทุจริต” ประธาน ป.ป.ช.เชื่อช่วยเปิดโอกาสเรียนรู้ประสบการณ์ นำใช้แก้ไขการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมนานาชาติว่าด้วยการต่อต้านทุจริต ครั้งที่ 14 (International Anti-corruption Conference : IACC) ระหว่างวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2553 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นการจัดประชุมในระดับโลกเพื่อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับปัญหาการคอรัปชั่น และแนวทางการแก้ปัญหาคอรัปชั่นในแต่ละประเทศ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,500 คน จาก 135 ประเทศ ประกอบด้วยภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน เอ็นจีโอ และภาคประชาสังคม ที่จะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการต่อต้านการทุจริต ตลอดจนนำเสนอแนวทางการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ
“ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญกับสถานการณ์การทุจริตระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล นานาชาติจึงพยายามผนึกกำลังต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นมาโดยตลอด และได้เข้าร่วมเป็นรัฐภาคีในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ.2003 (United Nation Convention against Corruption – UNCAC ,2003 ) ซึ่งถือเป็นอนุสัญญาต่อต้านการทุจริตฉบับแรกในระดับนานาชาติที่มีผลครอบคลุมประเทศต่างๆทั่วโลก”
ด้านศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรอบการประชุมในครั้งนี้ว่า มุ่งเน้น 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1.โลกมีสันติภาพและความมั่นคงมากขึ้น 2.ส่งเสริมความโปร่งใสและความสำนึกรับผิดชอบในตลาดค้าทรัพยากรธรรมชาติและตลาดพลังงาน 3.รับมือกับความท้าทายด้านธรรมาภิบาลที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และ4.เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความร่วมมือในระดับโลกเพื่อให้โลกธุรกิจมีจิตธรรมาภิบาล
“สำหรับไฮไลท์ในที่ประชุมครั้งนี้ คือ Leadership Forum ที่จะเป็นการประชุมระดับผู้นำประเทศจากทุกภูมิภาคทั่วโลก เพื่อร่วมกันระดมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาคอรัปชั่นและความโปร่งใส โดยจะกระตุ้นให้ผู้นำระดับประเทศเกิดความกระตือรือร้นในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และสร้างความโปร่งใสในการดำเนินการทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการประชุมจะมีการทำสัตยาบันด้วย เพื่อรับรองว่าผู้นำประเทศจะนำแนวทางที่ได้จากการประชุมไปกำหนดนโยบายเพื่อปฏิบัติต่อไปในเชิงรูปธรรม”
ศ.ดร.ภักดี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมี ACA Plenary หรือ Anti-Corruption Plenary เพื่อระดมสมองระหว่างหน่วยงานที่ดำเนินการต่อต้านการคอรัปชั่นในแต่ละประเทศถึงแนวทางและมาตรการในด้านความปลอดภัยแก่บุคลากรที่ดำเนินงาน รวมทั้งแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรค ประสิทธิภาพการทำงาน และร่วมกำหนดแนวทางการแก้ไข เพื่อให้หน่วยงานที่ดำเนินงานกาต่อต้านการคอรัปชั่นสามารถนำไปใช้ในการกำหนดแผนปฏิบัติการ และดำเนินการตรวจสอบความโปร่งใส และการทุจริตได้อย่างอิสระ โดย เชิญผู้นำของ Anti-Corruption Agency จากประเทศต่างๆเข้าร่วม อาทิ อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ สโลวาเนีย และประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ผู้แทนจากประเทศไทยและสื่อมวลชนเข้าร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนในมุมมองที่หลากหลาย พร้อมทั้งจะจัดให้มีการ เวิร์คชอป โดยแบ่งเป็น 10 กลุ่มย่อย ในแต่ละหัวข้อหลัก
“ส่วนการจัดแสดงกรณีศึกษาของประเทศไทยนั้น จะมีการนำเสนอเรื่องการสร้างความโปร่งใสในประเทศไทย และการต่อต้านการทุจริต การนำเสนอในส่วนของยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่น และวิธีการใหม่เพื่อแก้ปัญหาการทุจริต เช่น การใช้ Preventive investigation สำหรับบางเรื่องที่ไม่ต้องรอการชี้มูล และการพยายามสร้างคุณธรรม จริยธรรมขึ้นมาภายในตัวบุคคล จากจิตวิญญาณภายในสู่พฤติกรรมภายนอกโดยในช่วงท้ายของงานจะมีการประกาศข้อสรุปจากการประชุมที่จัดขึ้น เพื่อร่วมเป็นข้อมติในที่ประชุมร่วมกัน”
สำหรับความพร้อมในการเตรียมการจัดงานครั้งนี้ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้ประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทาง ป.ป.ช. ได้ให้ความสำคัญในประเด็น ด้านความปลอดภัยของคณะผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุม โดยประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ,รถตำรวจที่ดูแลคณะผู้แทนที่สำคัญในแต่ละประเทศ,จัดบริการรถรับ-ส่ง และเตรียมวาระการประชุมและเอกสารต่างๆ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ขององค์กร เพื่อความโปร่งใสนานาชาติ และองค์กรเพื่อความโปร่งใส ประเทศไทย เพื่อให้ได้แนวทางการนำเสนอตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ป.ป.ช.จะมีการจัดแสดงนิทรรศการการต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย เพื่อใช้เผยแพร่ยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและการประยุกต์ใช้ยุทธศาสตร์ชาติฯของภาคีเครือข่ายในทุกภาคส่วนของสังคม ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาล และบรรษัทภิบาลขององค์กร ชุมชน เครือข่ายทุกภาคส่วนของสังคมไทย เพื่อนเสนอแนวทางเลือกใหม่ในการรณรงค์ต่อต้านการทุจริต รวมทั้งเพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการพัฒนาส่งเสริมความโปร่งใส และการต่อต้านการทุจริต อันส่งผลต่อการยกระดับดัชนีความโปร่งใสของประเทศไทย โดยจะจัดขึ้นบริเวณโซนซีชั้นบน และเอเทรี่ยม โดยมีพื้นที่รวมประมาณ 4,000 ตารางเมตร ซึ่งแบ่งพื้นที่เป็น 10 โซน ได้แก่ นิทรรศการ ป.ป.ช. กับยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ,นิทรรศการ Thailand Changes ,นิทรรศการเครือข่ายเมืองคนดีภาครัฐ ,นิทรรศการการเมืองคนดีภาคธุรกิจเอกชน ,นิทรรศการเครือข่ายเมืองคนดีภาคประชาสังคม นิทรรศการเครือข่ายภาคสื่อมวลชน, นิทรรศการฟื้นฟูประเทศไทย, นิทรรศการการเมืองเด็กคนดี(The Future by Kids), นิทรรศการ Spiritual Anti-Corruption : The New Challenge และยังมีเวที ลานกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย