- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- นพ.ประเวศเปรียบประเทศไทย "เครื่องหลุด" เร่งประกอบเครื่อง ปฏิรูประบบ -โครงสร้าง
นพ.ประเวศเปรียบประเทศไทย "เครื่องหลุด" เร่งประกอบเครื่อง ปฏิรูประบบ -โครงสร้าง
สช.จัดสมัชชาเฉพาะประเด็นว่าด้วยการปฏิรูปประเทศไทย ร่วมฝ่าวิกฤตความไม่เป็นธรรม นำสู่สังคมสุขภาวะ ก่อนแสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน ด้านประธาน คสป.เปิดรากฐานของความไม่ธรรม 8 โครงสร้าง ที่กักขังคนไทยไว้แน่นหนา พร้อมแนะหยุด-ทำความเข้าใจ ผนึกพลังออกจากเข่งร่วมกัน
วันนี้ 25 พฤศจิกายน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ จัดการประชุมสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศไทย "ร่วมฝ่าวิกฤตความไม่เป็นธรรม นำสู่สังคมสุขภาวะ" ณ โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ กรุงเทพมหานคร โดยศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ปาฐกถานำ เรื่อง จากปฏิรูประบบสุขภาพสู่การปฏิรูปประเทศไทย
นพ.ประเวศ กล่าวว่า ปฏิรูประบบสุขภาพสู่การปฏิรูปประเทศไทยนั้นเป็นเรื่องใหญ่และเป็นความตั้งใจของคนไทยที่มองเรื่องระบบสุขภาพทั้งระบบ เพราะระบบสุขภาพ เป็นเรื่องของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง ซึ่งหากทำแบบแยกส่วนจะไปไม่รอด และไม่สามารถสร้างสุขภาวะของคนทั้งมวลได้ คนไทยจึงรวมตัวขับเคลื่อนเรื่องนี้มากว่า 20 ปี
สำหรับการปฏิรูปประเทศไทยนั้น ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวว่า จากนี้ไปเป็นเรื่องของการสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ที่ผ่านมาประเทศขาดความเป็นธรรมทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย การใช้ทรัพยากรต่างๆ จนนำไปสู่การอยู่ร่วมกันแบบปกติไม่ได้ ซึ่งรากฐานของความไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องของโครงสร้างมีอยู่ 8 เรื่อง คือ 1.โครงสร้างทางจิตสำนึก ที่คนไทยการเกิดในสังคมไม่เป็นธรรม จึงคุ้นเคยและไม่รู้สึกตัว 2.โครงสร้างสังคมทางดิ่ง 3. โครงสร้างทางอำนาจรัฐที่รวมศูนย์ ที่ต้องปฏิรูปการบริหารประเทศ เปลี่ยนจาก "กรม" มาเป็นเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง 4. โครงสร้างทางกฎหมาย 5.โครงสร้างการใช้ทรัพยากรไม่เป็นธรรม จนนำไปสู่ความระส่ำระสาย แตกสามัคคี หากไม่ทำอะไรจะนำไปสู่มิคสัญญี 6.โครงสร้างทางเศรษฐกิจ 7. โครงสร้างทางการศึกษา และ 8.โครงสร้างทางการสื่อสาร ซึ่งใครมีอำนาจก็ใช้สนองอำนาจของตนเอง ทั้งๆที่การสื่อสารเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้คนไทยรู้ความจริงโดยทั่วถึง ระบบการสื่อสารจะมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการปฏิรูป
“8 โครงสร้างดังกล่าวได้ กักขังคนไทยไว้อย่างแน่นหนามาก ดังนั้นต้องหยุดและทำความเข้าใจโครงสร้าง รวมพลังออกจากเข่งร่วมกัน” นพ.ประเวศ กล่าว และว่า การสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ จึงต้องปฏิรูประบบ –โครงสร้าง ให้ประชาชนเป็นผู้ปฏิรูป
ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวถึงการเสริมพลังอำนาจที่ 3 คือ พลังสังคม ติดอาวุธทางปัญญา สันติวิธี และมีการสื่อสารถึงกันหมด โดยเฉพาะเครื่องมือในการการปฏิรูปประเทศ คือ พลังสังคม ต้องเกิดจากการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำทุกองค์กรในทุกเรื่อง ทุกพื้นที่ จนเกิดสังคมใหม่ ที่เป็นสังคมทางราบ เรียกว่า “สมัชชาประชา-รัฐ” เป็นความร่วมมือระหว่างประชาชนกับรัฐ ซึ่งเชื่อมโยงรวมกันเป็นสมัชชาที่มีพลังทางนโยบายสู่การปฏิบัติจริง ถือว่า เป็นกลไกทางนโยบายของภาคประชาชน
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยขณะนี้ เป็นประเทศเครื่องหลุด ปฏิรูปครั้งนี้ต้องประกอบเครื่องใหม่ โดยมีเรื่องที่ควรปฏิรูป คือ 1. ปฏิรูปการกระจายอำนาจ 2.ปฏิรูปการจัดสรรทรัพยากรให้เป็นธรรม 3.ปฏิรูปภาษี เพื่อไปปฏิรูประบบสวัสดิการสังคม 4.ปฏิรูปเครือข่ายเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน เพิ่มอำนาจเชิงสถาบัน 5.ปฏิรูประบบความยุติธรรม ทั้งการนิรโทษกรรมประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม สร้างระบบยุติธรรมชุมชน ปฏิรูปกฎหมายเพื่อคนจน ปฏิรูประบบความยุติธรรมทั้งหมด และ 6.ปฏิรูปจังหวัด กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นจัดการตนเอง มีการรวมตัวเป็นภาคีพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการ
ทั้งนี้ ในการประชุมสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ว่าด้วยการปฏิรูป ฯ มีการนำเสนอสาระสำคัญของการร่างข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โดย ศ.ดร.สุริชัย หวันแก้ว หัวหน้าทีมพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย และนางกรรณิการ์ บันเทิงจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ จากนั้น มีการประชุมกลุ่มย่อย 7 กลุ่ม เพื่อพิจารณาร่างเอกสารหลัก/ร่างมติ เรื่อง ฝ่าวิกฤตความไม่เป็นธรรม นำสังคมสู่สุขภาวะ ซึ่งจะมีการแสดงเจตนารมณ์ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยในช่วงเย็น