- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ดร.เพิ่มศักดิ์ หวังปี 54 คดีที่ดินจะได้รับการแก้ไขให้คลี่คลาย
ดร.เพิ่มศักดิ์ หวังปี 54 คดีที่ดินจะได้รับการแก้ไขให้คลี่คลาย
ระบุ 3 ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในรอบปีที่ผ่านมา คือ คดีที่ดิน ชาวบ้านถูกจับข้อหาบุกรุกที่ดินรัฐ ภัยน้ำท่วม สร้างความเสียหายต่อพื้นที่เกษตร กว่า8 ล้านไร่ และหนี้สินเกษตรกร
ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ กรรมการปฏิรูป(คปร.) กล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในรอบปีที่ผ่านมา เกิดจาก 3 เรื่องใหญ่ เรื่องแรกคือคดีที่ดิน ที่ชาวบ้านถูกจับข้อหาบุกรุกที่ดินรัฐ ทั้งที่อยู่อาศัยทำกินมาก่อนประกาศเขตป่าสงวนป่าอนุรักษ์ ถูกตัดสินจำคุกแล้ว 500 ราย และอยู่ระหว่างคดีอีกเป็นหมื่นราย ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ได้รับการปล่อยตัว 18 รายเรื่องนี้สะท้อนว่ากระบวนการยุติกรรมไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน
"เรื่องที่สอง คือภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายให้พื้นที่การเกษตรกกว่า 8 ล้านไร่ นับว่าเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดของเกษตรกร บางคนไม่ได้รับค่าชดเชยตามเกณฑ์ เพราะท่วมไม่หมดแต่เหลือที่ทำกินเล็กน้อย ผลผลิตก็ลดลง หนำซ้ำราคาข้าวยังตก ขายข้าวไม่ได้ โรงสีบางแห่งไม่รับซื้อ บางแห่งกดราคา ทำให้ต้องเป็นหนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัว"
กรรมการปฏิรูป กล่าวถึงเรื่องที่สาม คือหนี้สิน ปี 2553 กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรแทบจะไม่คืบหน้าเลย เพราะรัฐบาลใช้วิธีการให้ธนาคารและสถาบันการเงินไปจัดการหนี้สินเกษตรกรเองโดยไม่ผ่านกองทุนฯ แทนที่จะตัดต้นครึ่งหนึ่งยกดอกทั้งหมดตามเงื่อนไข ทำให้เกษตรกรเป็นล้านๆ ครอบครัวต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย โดยเรื่องเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไขเฉพาะหน้าคือ ปัญหาราคาข้าวหลังประสบภัยพิบัติ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่เกวียนละ 6,300 บาท ได้เงินส่วนต่างราคาประเมิน 1,000 บาท รวมแล้ว 7,000 กว่าบาท สมมุติมีที่นา 20 ไร่ แต่พื้นที่ทำนาได้จริงเหลือน้อย ทำและขายได้ 5 เกวียน เท่ากับปีหนึ่งได้ 30,000 กว่าบาท ตกเดือนละ 2,000 บาท ชาวนาจึงอยู่ไม่รอด
“อยากให้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้มาตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวตามหลักการของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ที่รับซื้อในราคานำตลาดในจังหวัดที่ประสบปัญหา เช่น จ.ปราจีนบุรี ที่ต้องการให้ช่วยเหลือข้าวอีกประมาณ 2 หมื่นตันโดยด่วน”
ดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าวด้วยว่า มีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่น่ายินดี ได้แก่ 1.การคลอด“พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)สภาเกษตรกรแห่งชาติ” เป็นกฎหมายที่สนับสนุนการรวมกลุ่มเกษตกรเพื่อผลักดันข้อเสนอนโยบาย แผนปฏิบัติการต่างๆในการพัฒนาภาคเกษตรกรรม 2.การออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยโฉนดชุมชน ซึ่งแม้ปัจจุบันยังติดปัญหาในทางปฏิบัติที่เป็นอุปสรรคระหว่างชาวบ้านในพื้นที่กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ก็สะท้อนว่ามีกลไกอันเป็นช่องทางที่ดี
“ปี 2553 มีคดีเกษตรกรเยอะขึ้นมาก หวังว่าปี 2554 เรื่องที่ดินจะได้รับการคลี่คลายแก้ไขเด็ดขาด ส่วนมิติอื่นๆมีความไม่เป็นธรรมของเกษตรกรที่ตกอยู่ในระบบพันธสัญญา รัฐควรลงมาแก้ปัญหา รวมทั้งควบคุมการใช้สารเคมีเกษตรซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร” ดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าว