- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ลาดกระบังเร่งสูบน้ำในคลอง ผช.ผอ.เขต เผยหากท่วมชุมชนริมคลองอ่วมสุด
ลาดกระบังเร่งสูบน้ำในคลอง ผช.ผอ.เขต เผยหากท่วมชุมชนริมคลองอ่วมสุด
ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง ชี้ในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิ เสริมคันดินสูง 3.50 เมตร เชื่อคลองรอบๆ เร่งพร่องน้ำ รองรับไว้แล้ว
นายเชาวฤทธิ์ ทรงนวรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร กล่าวกับศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทยว่า ขณะนี้ทางเขตพยายามประสานทางกรมชลประทานให้เปิดเครื่องสูบน้ำไปทางฝั่งคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และอีกส่วนหนึ่งสำนักการระบายเปิดประตูระบายน้ำวัดลาดกระบัง และประตูระบายน้ำกระทุ่มเสือป่า เพื่อออกไปยังคลองพระโขนง โดยขณะนี้ทางลาดกระบังกำลังพร่องน้ำ โดยทางเขตจะพยายามพร่องน้ำในคลองให้มากที่สุดเพื่อรองรับน้ำเหนืออย่างเต็มที่ โดยในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิมีมาตรการ สร้างคันกั้นน้ำที่เป็นคันดินสูง 3.50 เมตร ซึ่งคลองรอบสุวรรณภูมิ มีความพยายามพร่องน้ำให้ได้มากที่สุด
ผู้ช่วยนายกเขตลาดกระบัง กล่าาวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเรือนของประชาชนบริเวณใกล้เคียงนั้น ยังไม่ทราบแน่ว่าปริมาณน้ำที่จะลงมาจะมีปริมาณเท่าใด แต่ก็จะพยายามพร่องน้ำให้มากที่สุดไว้รองรับ โดยในเขตลาดกระบังนั้นคลองประเวศน์เป็นคลองสายหลัก ซึ่งหากน้ำล้นออกคลองก็จะส่งผลให้ท่วมได้ เพราะไม่มีคันคลองที่ลาดกระบัง
"ขณะนี้ปริมาณก็ลดลงเรื่อยๆ จากการเปิดประตูระบายน้ำ และจากการสูบน้ำจากกรมชลประทานที่ช่วงคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต" นายเชาวฤทธิ์ กล่าว และว่า เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนตก มีน้ำท่วมขังในถนนสายอ่อนนุช-ลาดกระบัง, หลวงแพ่ง และถนนเจ้าคุณทหาร โดยช่วงนั้นปริมาณน้ำมาก พอเปิดประตูระบายน้ำและใช้เครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกทางคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต น้ำก็จะไหลออกไปคลองด่าน
นอกจากนี้ นายเชาวฤทธิ์ กล่าวอีกว่า พื้นที่ในเขตลาดกระบังที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายมากที่สุด ส่วนใหญ่ผลกระทบจะอยู่บริเวณริมคลอง อาทิ คลองประเวศน์บุรีรมย์ คลองทับยาว คลองลำปลาทิว ซึ่งน้ำจะระบายมาจากคลอง 13 ซึ่งมี 3 เส้นทางของน้ำที่จะไหลมา คลองนครเนื่องเขตออกทางด้านบางปะกง และคลองแสนแสบก็จะลงประตูน้ำพระโขนงเพื่อเข้าอุโมงค์ยักษ์
“ในส่วนของนิคมฯ ลาดกระบัง มีจำนวนโรงงาน 224 แห่ง นั้น ได้มีการเตรียมรับมือโดยทำคันดินสูงประมาณ 3.2 เมตร ยาว 17 กิโลเมตร รอบนิคมอุตสาหกรรมฯ โดยมีทหารประมาณ 500 นาย มาช่วยเหลือในการสร้างคันดิน”
ขณะที่ พนักงานฝ่ายปกครองเขตลาดกระบัง กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิ แม้มีการทำคันกั้นน้ำ แต่น้ำจะไม่ไหลไปทางอื่น เนื่องจากได้เตรียมการสูบน้ำลงคลองบริเวณรอบๆ สนามบิน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้ ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าในสนามบินเช่นกัน
"ลาดกระบังเป็นพื้นที่สุดท้ายก่อนลงทะเล ดังนั้น ปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง ด้วยน้ำกว่าจะไหลมาถึงลาดกระบังได้นั้น คลองสามวา หนองจอก และมีนบุรี ต้องเต็มก่อน อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2554 หลังจากที่มีการเปิดประตูระบายน้ำแล้ว น้ำในคลองต่างๆ มีปริมาณลดลง 80 เซนติเมตร"