- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ยุบ อ.อ.ป.โอนไปกรมป่าไม้ ดร.เพิ่มศักดิ์ เชื่อเจอปัญหาไม่ต่างกัน
ยุบ อ.อ.ป.โอนไปกรมป่าไม้ ดร.เพิ่มศักดิ์ เชื่อเจอปัญหาไม่ต่างกัน
กรรมการ ปฏิรูปชี้ให้หาแนวทางหลุดพ้นกม.กรมป่าไม้ ระบุหาก อ.อ.ป.ยุติบทบาทลง การจัดการที่ดินจะแบ่งเป็น 2 เงื่อนไข คือ ที่ดินที่ชาวบ้านอยู่ก่อนประกาศเขตพื้นที่ ก็ให้มีสิทธิในการจัดการพื้นที่ได้เลย ส่วนพื้นที่ติดปัญหา แนะดำเนินการออกโฉนดชุมชนรองรับ
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ กลุ่มชาวบ้านผู้เดือดร้อนจากปัญหาที่ดินทำกินที่อยู่อาศัยและคนจนทั่วประเทศ ในนาม “ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม” อัน ประกอบด้วย เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.), เครือข่ายสลัม 4 ภาค, สมัชชาคนจน (กลุ่มเขื่อนปากมูล) และเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คป.สม.) ได้ปักหลักชุมนุมที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเป็นวันที่ 3 เพื่อให้รัฐบาลเร่งเจรจาและหาแนวทางการแก้ไขปัญหา
โดยเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) จัดเสวนา “บทบาทองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) กับบริบทสังคมไทยปัจจุบัน” โดยมี ดร.เพิ่ม ศักดิ์ มกราภิรมย์ นักวิชาการด้านนิเวศวิทยา ในฐานะกรรมการปฏิรูป นายไพโรจน์ พลเพชร ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) นางสาวพรพนา ก๊วยเจริญ มูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ และนางสุนี ไชยรส อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมทั้งมีการนำเสนอบทเรียนการต่อสู้จากในพื้นที่ โดยตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีข้อพิพาทกับ อ.อ.ป.ในกรณีสวนป่าคอนสาร จ.ชัยภูมิ กรณีสวนป่าหนองเยาะ จ.สุรินทร์ และกรณีสวนป่าพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
นางอรนุช ผลภิญโญ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน กล่าวถึงการจัดเวทีครั้งนี้ว่า นอกจากเป็นการให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจแก่พี่น้องในที่ชุมนุม ยังมีความต้องการที่จะสื่อสารให้สังคมรู้ว่าบทบาทของ อ.อ.ป.ไม่มีประโยชน์ต่อสังคม เนื่องจากไม่สามารถทำเงินรายได้ให้แก่ประเทศชาติ และต้องใช้เงินปีละถึง 1,200 ล้านบาทในการโอบอุ้ม อ.อ.ป.ที่ไม่ก่อให้เกิดผลกำไร อีกทั้งยังสร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในกรณีความขัดแย้งเรื่องที่ดินทำ กิน ดังนั้นจึงสมควรที่สังคมจะรับรู้ข้อมูลเหล่านี้ ส่วน อ.อ.ป.ก็ไม่ควรมีอยู่อีกต่อไป
จาก ข้อมูลของสำนักงานวิจัย พัฒนา และสารสนเทศ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ณ วันที่ 31 ก.ค.49 ระบุว่า องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้มีพื้นที่สวนป่าทั่วประเทศในความดูแลทั้งสิ้น 1.1 ล้านไร่ 124 สวนป่า หากมีการยกเลิกทั้งหมด จะมีที่ดินสำหรับ นำมาจัดสรรให้ประชาชนได้ทำอยู่ทำกิน ซึ่งในส่วนข้อเสนอต่อการแก้ไขปัญหากรณีพิพาทที่ดินสวนป่าของชาวบ้าน คือการให้ยุบ อ.อ.ป.และคืนที่ดินให้กรมป่าไม้เพื่อที่ให้ชาวบ้านเข้าไปจัดการใช้ประโยชน์ ที่ดินในรูปโฉนดชุมชน
ขณะที่นางสุนี กล่าวถึงการเรียกร้องให้แก้ปัญหาของสวนป่าเป็นการแก้ไขปัญหาของทุกคน และจากรายงานของคณะกรรมการสิทธิ์ฯ ก่อนหน้านี้ สามารถสรุปปัญหาได้ 2 เรื่อง คือ 1.การจัดทำโครงการใดๆ ไม่มีการฟังเสียงของประชาชน 2.เมื่อประชาชนออกมาเรียกร้องแล้วปัญหามักไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งตรงนี้หากไม่มีการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ก็จะทำให้เกิดการลุกฮือขึ้นมาเรียกร้องได้อีกเรื่อยๆ
ด้าน ดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าวถึงข้อเสนอเรื่องการให้ยุบ อ.อ.ป.ว่า อาจไม่มีผลอะไรกับพี่น้องชาวบ้านผู้ประสบปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน เพราะการโอนไปให้กรมป่าไม้ดูแลพื้นที่ ชาวบ้านอาจมีปัญหาการขอเข้าไปจัดการพื้นที่ไม่ต่างกัน เนื่องจากในส่วนของกรมป่าไม้ก็มีปัญหาในเรื่องการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดิน ตามมติ ครม.30 มิถุนายน 2541 ซึ่งในส่วนนี้เสนอว่า ควรหาแนวทางที่จะหลุดพ้นจากกฎหมายของกรมป่าไม้ เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านเจอกับปัญหานี้มานาน ดังนั้นการมีข้อเสนอก็ควรให้พ้นจากปัญหานี้ด้วยในคราวเดียว โดยหาก อ.อ.ป.ยุติบทบาทลง การจัดการที่ดินจะแบ่งเป็น 2 เงื่อนไข คือ หากเป็นที่ดินที่ชาวบ้านอยู่มาก่อนประกาศเขตพื้นที่ก็ให้มีสิทธิในการจัดการ พื้นที่ได้เลย ส่วนพื้นที่ที่ยังไม่สามารถระบุได้ก็ให้ดำเนินการออกโฉนดชุมชนรองรับการใช้ ประโยชน์ในพื้นที่