- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ทีดีอาร์ไอแนะแนวเพิ่มประสิทธิภาพยุติธรรมไทย
ทีดีอาร์ไอแนะแนวเพิ่มประสิทธิภาพยุติธรรมไทย
“สมเกียรติ” เผยยุติธรรมทางอาญาไทยขาดประสิทธิภาพ ใช้ต้นทุนสูงถึงร้อยละ 1.26 ของ GDP เสนอปฏิรูประบบ “ลดโทษ – ไกล่เกลี่ย – เน้นปรับ” เชื่อช่วยรัฐได้ถึง 2,000 ล้านบาท
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธานทีดีอาร์ไอ และหัวหน้าคณะวิจัย กล่าวว่า ต้นทุนของรัฐที่เกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาตั้งต้นจนถึงปลายทางอยู่ในระดับร้อยละ 1.26 ของ GDP โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบการใช้งบประมาณ และบุคลากรกับต่างประเทศ พบว่าขาดประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด สิ่งเหล่านี้มีต้นเหตุมากจากการออกแบบกฏกติกาที่ทำให้เกิดแรงจูงใจอันไม่เหมาะสมหลายประการ โดยเฉพาะการใช้กระบวนการทางอาญาเป็นหลักในการระงับข้อพิพาท
“ยกตัวอย่างกรณีพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 ที่ใช้โทษทางอาญาแทนที่จะใช้กลไกทางธนาคารหรือกลไกอื่น และการกำหนดโทษปรับในกฏหมายต่ำเกินกว่าระดับที่เหมาะสมมาก สิ่งเหล่านี้ทำให้ศาลมักลงโทษด้วยการจำคุกมากกว่าการปรับ นอกจากนี้ยังพบปัญหาจากกลไกในการกลั่นกรอง และเบี่ยงเบนคดีที่เข้าสู่ระบบไม่มีประสิทธิภาพเพียงพออีกด้วย”
ดร.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า คณะผู้วิจัยได้จัดทำแบบจำลองเพื่อศึกษาต้นทุนของคดีทางอาญาพบว่า คดีอาญาที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลชั้นต้นมีต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 77,000 บาท และเมื่อศึกษาถึงความเหมาะสมในทางเลือกเพื่อการปฏิรูประบบกระบวนการยุติธรรมทางอาญาพบว่า แนวทางที่จะช่วยลดต้นทุนได้มากที่สุดคือ 1.ยกเลิกโทษทางอาญาในกฏหมายบางฉบับ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 และกฏหมายมิ่นประมาท 2.สนับสนุนการไกล่เกลี่ยคดีที่ยอมความกันได้ และ 3.ใช้โทษปรับแทนการจำคุกในคดีอาญาที่ไม่ร้ายแรง เหล่านี้จะช่วยลดต้นทุนในกระบวนการยุติธรรมได้มากกว่าปีละ 2,000 ล้านบาท
ดร.สมเกียรติ กล่าวถึงการใช้โทษปรับแก่ผู้กระทำผิดทางอาญา ว่า คณะผู้วิจัยมีข้อเสนอเพิ่มเติม เพื่อให้โทษปรับถูกกำหนดขึ้นอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ด้วยการเพิ่มแนวทางการนำเอาโทษปรับตามรายได้ (Day Fines) มาใช้ในคดีอาญาที่ไม่ร้ายแรง ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในการบังคับใช้โทษปรับระหว่างคนรวยและคนจน แต่อย่างไรก็ตาม การใช้โทษปรับควรได้รับการหนุนเสริมด้วยโทษบริการสังคมในกรณีที่ผู้กระทำความผิดไม่สามารถชำระค่าปรับได้ ส่วนโทษจำคุกนั้นควรใช้เฉพาะในกรณีที่มีการทำความผิดร้ายแรงเท่านั้น