- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- “ประเวศ หนุน มหาวิทยาลัยการันตีคุณภาพ นศ. เรียนจบ-ทำงานเป็น
“ประเวศ หนุน มหาวิทยาลัยการันตีคุณภาพ นศ. เรียนจบ-ทำงานเป็น
ปธ.สมัชชาปฏิรูป แจง สอนแต่เด็กท่องหนังสือ สุดท้ายทำงานไม่เป็น-ละทิ้งชุมชน แนะ เลิกตีค่าใบปริญญา เปิดโอกาสให้ทุกคนเรียนตามใจชอบ พร้อมจัดตั้งหน่วยงานประกันคุณภาพ
ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวกับ “ศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทย” ถึงแนวโน้มคุณภาพการศึกษาไทยว่า ประเทศไทยนำการศึกษามาเป็นธุรกิจมากเกินไป บางมหาวิทยาลัยมีทั้งโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ มอบดุษฎีบัณฑิตให้นักการเมืองจำนวนมาก ส่วนคนไทยเองก็อยากได้แต่ใบปริญญา โดยไม่สนใจที่จะศึกษาเรียนรู้มากนัก กลายเป็นยึดรูปแบบมากกว่าสาระ ในที่สุดทำให้ระบบการศึกษาบิดเบี้ยวไปหมด ประเทศก็จะถึงคราวลำบาก
“การศึกษาที่ดีจะต้องเป็นประโยชน์ต่อชุมชน ทำให้ชุมชนเข็มแข็งทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม แต่ในความเป็นจริงกลับสวนทาง เราไปเกณฑ์เด็กเล็กมาเรียน ตั้งแต่ประถมศึกษาก็เน้นแต่ท่องหนังสือ เพื่อไปเรียนต่อมัธยมศึกษา อุดมศึกษา สุดท้ายเด็กๆ เหล่านั้นเมื่อเรียนจบก็ละทิ้งชุมชม ไม่เข้าใจชุมชน อีกทั้งยังทำงานไม่เป็นอีกด้วย”
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวถึงการแข่งขันในระดับอุดมศึกษาที่สูงขึ้น ทำให้การศึกษากลายเป็นธุรกิจการค้า ฉะนั้น คนไทยจะต้องเข้าใจเรื่องดังกล่าวและหันมาเน้นสาระมากขึ้น ประการสำคัญ ควรจะเลิกตีค่าใบปริญญา เปลี่ยนเป็นใครจะเรียนหนังสือก็เพราะอยากเรียน ส่วนจะเรียนอะไรนั้น สถาบันการศึกษาจะต้องมีวิชาที่เปิดให้กว้างมากขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของการรับคนเข้าทำงาน ก็ไม่ควรยึดติดกับใบปริญญาเท่านั้น แต่ต้องมองที่ความสามารถในการทำงานด้วย
“มหาวิทยาลัยอาจตั้งหน่วยงาน เพื่อประเมินความสามารถของนักศึกษา หากผลการประเมินพบว่าทำงานเป็นก็สามารถนำเอกสารดังกล่าวนำไปใช้สมัครงานแทนใบปริญญาได้ เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า คนได้ปริญญาจำนวนมากทำงานไม่เป็น ไม่อดทน ไม่รับผิดชอบ ใบปริญญาจึงไม่ได้มีความหมายอะไร ดังนั้น ควรเลิกตีราคาปริญญา”
เมื่อถามถึงการศึกษาไทยจะย่ำแย่เหมือนประเทศฟิลิปปินส์หรือไม่ เพราะระยะหลังพบว่ามีการซื้อขายประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูเกิดขึ้นมาก ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า คุณภาพการศึกษาไทยตกต่ำและแย่อยู่แล้ว เพราะคนไทยเน้นแต่รูปแบบไม่เอาสาระ สมมุติให้สร้างหอพระไตรปิฎกสวยๆ คนไทยจะเอาทันที แต่พอให้เรียนพระไตรปิฎกกลับปฏิเสธ ฉะนั้น เราจะต้องเปิดโอกาสให้คนที่อยากเรียนได้เรียนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเรียนที่ไหนหรืออะไรก็ตาม ต้องการปล่อยให้ดอกไม้บานทั่วประเทศ ไม่ใช่คอยแต่ควบคุม
“การศึกษาคือความงอกงาม แต่เมื่อระบบการศึกษาผนวกเข้ากับระบบราชการไทย กระทรวงศึกษาเลยกลายเป็นบอนไซ ทำให้การศึกษาไม่สอดคล้อง มีปัญหามาก วิธีการเรียนจึงต้องไม่จำกัด เรียนอย่างไรก็ได้ให้มีความรู้และทำงานเป็น”