- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- คลังเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ รับสมัครสมาชิก 8 พ.ค.ปีหน้า
คลังเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ รับสมัครสมาชิก 8 พ.ค.ปีหน้า
กระทรวงการคลัง เปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติอย่างเป็นทางการ พร้อมค้ำประกันผลตอบแทนให้สมาชิกได้รับดอกผลจากเงินออมไม่น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ประเภท 12 เดือน
วันที่ 1 กรกฎาคม กระทรวงการคลังจัดงานเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ณ ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ภายใต้สโลแกน “เกษียณสุขใจ มีบํานาญ ใช้กับ กอช.” มุ่งหวังให้ประชาชนเข้าถึงช่องทางการออมเงินที่เหมาะสม และสร้างหลักประกันทางสังคมแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชาชนผู้ประกอบอาชีพ อิสระ และนักเรียนนักศึกษา ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติในวาระแรก กล่าวว่า กองทุนการออมแห่งชาติเป็นกองทุนเพื่อการเกษียณอายุภาคสมัครใจ สําหรับผู้ที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคมเพื่อการชราภาพ เพื่อให้มีรายได้หลังเกษียณในรูปบํานาญ และการเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาตินั้น ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงช่องทางการเข้าถึงหลักประกันทางสังคม เข้าใจหลักเกณฑ์ของกองทุน และเตรียมพร้อมในการเป็นสมาชิกและออมกับกองทุน เมื่อกองทุนเปิดรับสมาชิกตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป
ขณะที่นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงที่มาของการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติว่า จากความท้าทายของประเทศที่เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีความเสี่ยงที่ประชาชนจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ด้อยลงเมื่อย่างเข้าสู่วัยชรา และแม้ว่า ประเทศไทยจะมีระบบประกันสังคมในหลายรูปแบบ แต่ที่ผ่านมาผู้ที่ได้รับความคุ้มครองทางสังคมเพื่อการชราภาพจะเป็นผู้ที่มีอาชีพอยู่ในระบบ เช่น ข้าราชการ พนักงานบริษัทเอกชน และพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมจํานวนทั้งสิ้น 14.6 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 37 ของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่ประชากรวัยแรงงานอีก 35 ล้านคน หรือร้อยละ 53 ของประชากรทั้งประเทศยังไม่ได้รับความคุ้มครองให้มีหลักประกันทางสังคมเพื่อการชราภาพอย่างเหมาะสม จึงได้จัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติขึ้น เพื่อเป็นช่องทางการออมเงินของประชาชนกลุ่มดังกล่าว โดยมีรัฐดูแลส่งเงินสมทบให้
สำหรับหลักเกณฑ์การออมเงินกับกองทุนนั้น ผู้มีสิทธิจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 15 – 60 ปี ไม่เป็นสมาชิกกองทุนอื่นใดที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง และไม่ได้อยู่ในระบบบําเหน็จบํานาญภาครัฐหรือเอกชน โดยสมาชิกสะสมเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท แต่ไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี และรัฐบาลจะให้เงินสมทบตามช่วง อายุของสมาชิกและเป็นอัตราส่วนกับจํานวนเงินที่สมาชิกสะสมเข้ากองทุน ตั้งแต่ร้อยละ 50 ถึงร้อยละ 100 โดยไม่เกินเงิน สมทบสูงสุดตามที่กฎหมายกําหนด
ส่วนประโยชน์ตอบแทนที่สมาชิกจะได้รับสมาชิกจะได้รับบํานาญรายเดือนจน ตลอดชีวิตเมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีเป็นต้นไปและมีเงินออมที่มากพอ ซึ่งสมาชิกที่ออมมาก ก็จะได้รับบํานาญมากตามไปด้วย
กรณีที่สมาชิกทุพพลภาพก่อนอายุครบ 60 ปี จะมีสิทธินำเงินออมของตนออกมาใช้ก่อนได้ นอกจากนี้หากสมาชิกมีความจำเป็นต้องลาออกจากกองทุน จะได้รับคืนเฉพาะเงินที่ได้ออมไว้ โดยไม่รวมเงินสมทบ อย่างไรก็ดีสมาชิกจะกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนได้อีกตามความสมัครใจ และหากเสียชีวิตกองทุนจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่สมาชิกได้แจ้งชื่อไว้ หรือให้แก่ทายาทของสมาชิก
สิทธิประโยชน์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ รัฐบาลค้ำประกันผลตอบแทนให้สมาชิกได้รับดอกผลจากเงินออมไม่น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ประเภท 12 เดือน โดยเฉลี่ยของธนาคาร นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับบำนาญจาก กอช.ยังมีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอีกด้วย และที่สำคัญในปีแรกที่กองทุนเปิดรับสมาชิก คือระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2556 จะเปิดให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกกองทุนด้วย