- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- เครือข่ายสันติวิธี ร่วมยินดีกับผลการเลือกตั้ง
เครือข่ายสันติวิธี ร่วมยินดีกับผลการเลือกตั้ง
เฟชบุคเครือข่ายสันติวิธี แสดงความยินดีกับผลการเลือกตั้งของผู้มีโอกาสเป็นฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ขณะที่เครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนประเทศไทย 145 องค์กร แถลงวาระประชาชนต่อนักการเมือง 6 ประเด็น ให้แก้วิกฤติการณ์ชาติอย่างเป็นรูปธรรม
วันที่ 3 กรกฎาคม เฟชบุคเครือข่ายสันติวิธี (Nonviolence Network) ร่วมแสดงความยินดีกับผลการเลือกตั้งของผู้มีโอกาสเป็นฝ่ายรัฐบาล และร่วมยินดีกับผู้มีโอกาสเป็นฝ่ายค้าน
เนื้อหา ระบุว่า ทุกฝ่ายต่างมีพื้นที่ในการร่วมกันสร้างสรรค์ ทำหน้าที่และรับผิดชอบในหน้าที่ของตนให้สมดังที่ภาคพลเมืองไว้วางใจ และต่อไปทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องสามารถตรวจสอบได้จากภาคพลเมือง ทุกภาคส่วนก็คงต้องติดตามการทำงานของทุกฝ่ายต่อไปเพื่อช่วยกันดูแลทักท้วง วิวาทวาทากันต่อไปอย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้เพื่อการทำงานที่เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์ในแนวทางที่ฟังเสียงพลเมืองในประเทศผู้ซึ่งเป็นผู้นำฐานใหญ่ของโครงสร้างสังคม
ท่านได้เริ่มทำหน้าที่ต่อประเทศชาติต่อไปตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2544 เพียงเราให้โอกาสพวกท่านแล้ว ทุกท่านควรยอมรับความจริงและให้โอกาสตนเองทำงานให้เต็มที่สมกับที่ได้รับการไว้วางใจ โดยภาคพลเมืองจะคอยตรวจสอบพวกท่านจนตลอดรอดฝั่งของทางเดินประชาธิปไตยที่จะฟังกันและกันให้ได้ยิน และทำนโยบายที่สร้างสรรค์ เพื่อผู้นำที่แท้จริงของท่านที่เป็นฐานเสียงใหญ่ของสังคมคือภาคพลเมืองไปในแนวทางสันติที่มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริงหลังจากการเลือกตั้งด้วย เพราะเสียงของพวกเราสำคัญ จึงทำให้พวกท่านทุกฝ่ายมีวันนี้ พร้อมให้กำลังใจด้วยความจริงใจต่อทุกฝ่ายในการทำหน้าที่ของตนเองต่อไป ด้วยความพร้อมที่จะเปิดใจรับในสถานการณ์ต่างๆอย่างมีความเพียรพยายามและความอดทนอดกลั้นให้สูง มีสภาวะผู้นำที่เหมาะสม มีการทำงานเป็นทีมที่ดี มีการเปลี่ยนแปลงที่รอการตัดสินใจร่วมกับภาคพลเมืองเสมอในการทำงานของท่านเพื่อประโยชน์สูงสุดของส่วนร่วมเป็นที่ตั้ง
ขณะที่ เครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนประเทศไทย 145 องค์กร แถลงวาระประชาชน ณ ไทยพีบีเอส ถึงผู้ที่กำลังจะเข้าทำหน้าที่บริหารประเทศ สมาชิกรัฐสภา และพี่น้องประชาชนไทยทุกท่าน ว่า การเลือกตั้งในวันนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ แตกต่างจากการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยปรากฎการณ์ความตื่นตัวของประชาชนทุกภาคส่วน ได้ร่วมนำเสนอนโยบายต่อพรรคการเมืองอย่างกว้างขวางทั่วทั้งประเทศ
องค์กรภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สื่อมวลชน นักวิชาการ กว่า145 เครือข่าย ได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นภาคีเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนประเทศไทย ในเวลาเพียงเดือนเศษมีการจัดเวทีกว่า 80 เวที โดยมีประชาชนเข้าร่วมแสดงความเห็นในเวทีกว่า 10,000 คน และยังมีประชาชนอีกหลายแสนคนเฝ้าติดตามแสดงออกผ่านสื่อต่างๆ เพื่อร่วมพลังผลักดันวาระประชาชนต่อผู้บริหารประเทศและสมาชิกรัฐสภา อย่างหนักแน่นพร้อมเพรียงกัน
พร้อมกันนี้ภาคส่วนต่างๆได้เตรียมติดตามผลักดันข้อเสนอของประชาชนภายหลังการเลือกตั้ง เพื่อมิให้เกิดการเพิกเฉย ละเลย หรือผิดต่อคำมั่นสัญญาซึ่งพรรคการเมืองได้ให้ไว้ต่อประชาชนอีกต่อไป
ภาคีเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนประเทศไทย จึงขอแถลงต่อนักการเมืองในประเด็นสำคัญที่เป็นความต้องการร่วมของประชาชน ดังนี้ คือ
1. ให้มีการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ กระจายอำนาจรัฐสู่ท้องถิ่น ปรับบทบาทราชการส่วนภูมิภาค เปิดโอกาสให้กลุ่ม บุคคล ชุมชน องค์กรชุมชน มีอิสระในการจัดการตนเองในกิจการที่เกี่ยวข้องกับชุมชนท้องถิ่น
2.ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะและทิศทางการพัฒนาประเทศ รวมทั้งติดตามตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินในทุกระดับ
3.กำหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่ส่งเสริมการเกษตรแบบปลอดสารเคมี บังคับใช้กฎหมายกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินและรักษาที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรอย่างมีประสิทธิภาพ
4.ส่งเสริมพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
5.ปฏิรูปคุณภาพชีวิตและสังคมด้วยการจัดระบบสวัสดิการมาตรฐานเดียวอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถจัดการศึกษาและพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ชุมชน และให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
6.ยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานภาคประชาชน ผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองเสรีภาพสื่อ รวมทั้งเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกและเคลื่อนไหวทางการเมือง
อนึ่ง การนำข้อเสนอของประชาชนไปเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อนำสู่การปฎิบัติอย่างมีธรรมาภิบาล นอกจากจะตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของประชาชนแล้ว ยังช่วยแก้วิกฤติการณ์ของชาติอย่างเป็นรูปธรรม
ด้วยการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ โปร่งใส ของรัฐบาล สมาชิกรัฐสภา และการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน จะนำพาสังคมประเทศไทยฝ่าฟันอุปสรรค และก้าวพ้นวิกฤติการณ์ของชาติ จนนำพาประเทศสู่ความสงบและสันติอย่างแท้จริง