- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- 4 สมาคมก่อสร้าง จับมือป.ป.ช.ประกาศตัวต้านทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง
4 สมาคมก่อสร้าง จับมือป.ป.ช.ประกาศตัวต้านทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง
ป.ป.ช. เดินหน้าป้องกัน ปราบปรามทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง จับมือ 4 สมาคมวิชาชีพด้านวิศวกรรมและก่อสร้าง ร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน
วันที่ 24 สิงหาคม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดงานสัมมนาแนวทางการป้องกันการทุจริตภาคธุรกิจเอกชน เรื่อง “ก่อสร้างไทย หัวใจธรรมาภิบาล” ครั้งที่ 2 ณ โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งภายในงานมีพิธีการลงนามในประกาศเจตนารมณ์ร่วม เพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ระหว่าง ป.ป.ช.กับ 4 สมาคมวิชาชีพหลักด้านวิศวกรรมและก่อสร้าง อันประกอบไปด้วย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในรูปแบบต่างๆ กับทางภาครัฐ นั้น เป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคมในภาพรวม และต่อประเทศชาติ อีกทั้งยังลิดรอนเกียรติคุณของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ลิดรอนผลประโยชน์ของประชาชนที่ควรจะได้ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดี ที่ภาคธุรกิจ เอกชนโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างและสถาปนิก ที่เป็นธุรกิจหลัก ได้มารวมกันในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างทำให้เรื่องนี้มีมาตรฐาน เป็นไปตามชอบธรรม โดยยึดหลักธรรมาภิบาล
ขณะที่ ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า กฎหมายใหม่จะช่วยให้ ป.ป.ช.ทำงานในเรื่องของการปราบปรามทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองพยาน ตามมาตรา 103/2 ที่มีการพัฒนากฎหมายให้อยู่ในระดับสากล และการให้รางวัลตอบแทนแก่ผู้ที่ให้ความร่วมมือกับทาง ป.ป.ช. (มาตรา 103/3) รวมถึงการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นพยานให้ได้รับยกย่องเป็นพิเศษ (มาตรา 103/4) และมาตราที่สำคัญคือ มาตรา 103/7 การป้องกันการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง
“การทุจริตประเภทนี้มีอยู่มาก โดยเฉพาะในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีอยู่เกือบครึ่งของเรื่องที่ส่งมาให้ ป.ป.ช. พิจารณา ซึ่งเป็นเรื่องของการที่ใช้งบประมาณไปใช้ในเรื่องของการก่อสร้าง การจัดซื้อจัดจ้าง"
กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างเกิดจากภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่นั้น ทำให้งบประมาณแผ่นดินสูญไปมากกว่าแสนล้านบาทต่อปี ซึ่งการทุจริตอาจเกิดขึ้นโดยการกำหนดราคากลางที่สูงมาก หรืออาจจะเป็นการเซ็นสัญญาเพื่อให้ทางภาครัฐเสียเปรียบ ดังนั้นจึงต้องมีการกำหนดมาตรการขึ้นมา เพื่อป้องกันการเกิดทุจริต โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555
ด้านนายพลพัฒ กรรณสูต นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า มาตรการใหม่ของ ป.ป.ช. อาจทำให้เกิดความยุ่งยาก แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี ทั้งนี้มองว่า ป.ป.ช.ควรมีการกำหนดมูลค่าของสัญญาให้สูงกว่า 5 แสนบาท และควรเริ่มกับโครงการใหญ่ก่อนเพื่อทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง
“ขณะนี้กำลังขับเคลื่อน ให้มีการสัมมนาชี้แจงกฎหมายให้กับสมาชิกเพื่อสร้างความเข้าใจ และได้เตรียมตัวก่อนถึงวันประกาศใช้จริง ซึ่งแม้จะมองเห็นความยุ่งยาก แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้ประเทศชาติก้าวหน้า ทั้งนี้ หากพบว่า มีสาระสำคัญตรงไหนที่ตกหล่นไป ก็จะมีการมานำเสนอให้กับ ป.ป.ช. ได้รับทราบอีกครั้งหนึ่ง”
สำหรับคำประกาศเจตนารมณ์ร่วมเพื่อการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ มีสาระสำคัญ มีดังนี้ สมาคมวิชาชีพทั้ง 4 สมาคม ตระหนักดีว่า การทุจริตทุกรูปแบบก่อให้เกิดการยักย้าย ถ่ายเททรัพยากรของประเทศชาติ ซึ่งทรัพยากรเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการแก้ไขความยากจนและการยกระดับมาตรฐานชีวิตของประชาชน การทุจริตทุกรูปแบบได้ทำลายชื่อเสียงและเกียรติภูมิของผู้ที่อยู่ในวิชาชีพ และยังเป็นการคุกคามต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของวิชาชีพ สมาคมวิชาชีพทั้ง 4 จึงประกาศเจตนารมณ์ร่วกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
1 สมาคมวิชาชีพทั้ง 4 สมาคม จะสนับสนุนทุกวิถีทางเพื่อให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐเป็นไปได้ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม ปลอดจากการทุจริต โดยให้มีมาตรการและวิธีดำเนินการที่ยึดหลักธรรมาภิบาล คุณธรรม และจริยธรรม
2 สมาคมวิชาชีพทั้ง 4 สมาคม จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและองค์กรกลางในการต่อต้านการดำเนินการใดๆ ที่ส่อไปในทางทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ
3 สมาคมวิชาชีพทั้ง 4 สมาคม จะใช้ความพยายามผลักดันให้ขยายผลต่อยอดการดำเนินการเพื่อให้การจัดซื้อจัดจางของภาครัฐโดยหน่วยราชการทุกรูปแบบ และทุกระดับการบริหารเป็นไปตามเจตนารมณ์ดังกล่าวอย่างจริงจังและครอบคลุมทั่วราชอาณาจักร