ศ.นพ.เกษม ชี้ภาษาประเทศเพื่อนบ้านสำคัญ รัฐต้องมีนโยบายที่ชัดเจน

องคมนตรี หวัง 'ภาษาไทย' ถูกเผยแพร่ไปยังต่างประเทศเช่นเดียวกับ  มวยไทย อาหารไทย นวดไทย ย้ำชัดก่อนอื่นต้องจัดตั้งสถาบันภาษา จัดทำมาตรฐานภาษาไทยขึ้นมา โดยมีเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ 

วันที่ 29 สิงหาคม ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายภาษาของประเทศ : ภาวะวิกฤตที่ต้องแก้” ภายในงาน  "การนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ 2554" (Thailand Research Expo 2011) ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ  ณ ห้องโลตัส 3-4 โรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

ศ.นพ.เกษม กล่าวถึงการที่จะให้เด็กไทยได้เรียนรู้ภาษาไทยนั้น ต้องเรียนรู้อย่างมีเหตุมีผล ต้องพูดถึงเสน่ห์ภาษาไทย โดยเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ หรือครูผู้สอน ที่จะทำอย่างไรให้เด็กเห็นคุณค่าของภาษาไทย  เกิดความรัก และเมื่อเด็กเกิดความรักและเห็นคุณค่าแล้ว ความหวงแหนและการต่อยอดก็ตามมาเอง

องคมนตรี กล่าวว่า  มวยไทย อาหารไทย นวดไทยนั้นเผยแพร่ไปยังประเทศต่างๆ ได้  ดังนั้น หากต้องการจะเผยแพร่ภาษาไทยในต่างประเทศ ก็ต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน รวมทั้งควรที่จะมีการจัดตั้งสถาบันภาษา จัดทำมาตรฐานภาษาไทยขึ้นมา โดยมีเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ

"เช่นเดียวกับประเทศจีน ที่มีการจัดตั้งสถาบันภาษาและวัฒนธรรมนานาชาติ  โดยมีวัตถุประสงค์ เชื่อมความสัมพันธ์ทางการทูตของจีนกับประเทศต่างๆ เพื่อความสัมพันธ์ทางการค้า และเพื่อเป็นความลุ่มลึกทางวิชาการ ซึ่งปัจจุบันมีการเรียนการสอนภาษาอื่นๆมากกว่า 29 ภาษา"

สำหรับความสำคัญของภาษาท้องถิ่น ภาษาชนกลุ่มน้อย และภาษาประเทศเพื่อนบ้านนั้น องคมนตรี กล่าวว่า  ต้องมีการสนับสนุนส่งเสริมให้มีการศึกษา และวิจัย ให้บริการการเรียนการสอนภาษาประเทศเพื่อนบ้านในสถานศึกษาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แทนที่การเปิดการเรียนการสอนจะเป็นเฉพาะกลุ่มมหาวิทยาลัย หรือสถานศึกษาที่อยู่ติดกับชายแดนเท่านั้น 

“โดยเฉพาะ ภาษาอังกฤษเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพราะจะเป็นภาษากลางในการสื่อสารของประชาคมอาเซียน  ประเทศในประชาคมอาเซียน มีความหลากหลาย ทั้งด้านศาสนา วัฒนธรรม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านภาษา  ซึ่งถึงที่สุดแล้ว อาเซียนคงต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง" องคมนตรี กล่าว และว่า  แต่ในบางประเทศที่ใช้ภาษาใกล้เคียงกัน เราอาจต้องเรียนภาษาของกันและกันด้วย เช่น ไทยและลาว เป็นต้น