- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- คอป.เสนอปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาก่อน-หลังรัฐประหาร แยกนักโทษการเมือง สร้างคุกพิเศษคุมขัง
คอป.เสนอปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาก่อน-หลังรัฐประหาร แยกนักโทษการเมือง สร้างคุกพิเศษคุมขัง
1 ใน 7 ข้อ คอป.ขอให้ระมัดระวังการใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยไม่คำนึงถึงความละเอียดอ่อน และให้ทุกฝ่ายเทิดทูนสถาบันอยู่เหนือการเมือง
วันที่ 16 กันยายน นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และ 1 ในคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) โพสต์ข้อความ http://www.facebook.com/pages/Kittipong-Kittayarak/133672886723529 ว่า วันนี้ คอป.จะส่งข้อเสนอแนะต่อนโยบายสร้างความปรองดองสมานฉันท์และฟื้นฟูประชาธิปไตยถึงนายกรัฐมนตรี โดยข้อเสนอแนะของ คอป.ที่จะส่งถึงนั้น เป็นฉบับที่ 3 ต่อจากเรื่องตีตรวนผู้ต้องขัง และสิทธิพื้นฐานของผู้ต้องหาในคดีอาญา ลงนามโดยศ.ดร.คณิต ณ นคร นับเป็นฉบับแรกที่ส่งถึง นายกฯ ในรัฐบาลชุดนี้
ข้อเสนอแนะของ คอป.ฉบับที่ 3 มี 7 ข้อ สรุปได้ดังนี้
(1) ให้รัฐบาลมีเจตนารมณ์ทางการเมืองยึดหลักนิติธรรม และยึดประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง รวมทั้งให้ตรวจสอบและผลักดันให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รุนแรงทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม
(2) ขอให้ทุกฝ่ายรักษาบรรยากาศปรองดอง โดยเฉพาะรัฐบาลที่ชนะเลือกตั้งมาส่วนหนึ่งเพราะนโยบายสนับสนุนการปรองดอง จึงต้องไม่ทำอะไรกระตุ้นให้ขัดแย้ง
(3) ให้ตรวจสอบการดำเนินคดีในข้อหาขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ / ชุมนุมมั่วสุมเกิน 10 คน / หมิ่นสถาบัน (ม.112) / พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่างระมัดระวัง โดยให้ตรวจสอบว่า มีการตั้งข้อหารุนแรงเกินจริงหรือไม่ หลักฐานอ่อนหรือไม่ โดยให้พิจารณารวมไปถึงช่วงก่อนปฏิวัติ ทุกกรณีที่มีลักษณะคดีการเมือง เนื่องจากผู้ที่ถูกดำเนินคดีเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากร แต่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง จึงควรชะลอการฟ้อง เพื่อรอศึกษามาตรการอื่นแทนฟ้อง โดยมาตรการอื่นก็เช่น ใช้กระบวนการยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน / กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ซึ่งจะต้องเร่งศึกษาและกำหนดเป็นมาตรการออกมาเพราะการฟ้องคดีเหล่านี้โดยใช้หลักคิดทางอาญาเชิงลงโทษ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองได้
(4) ให้รัฐเร่งเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงทางการเมืองอย่างเร่งด่วน โดยใช้มาตรการพิเศษ ไม่ยึดแค่สิทธิที่มีตามกรอบกฎหมาย การเยียวยาควรรวมไปถึงเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองทุกเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 49 ไม่จำกัดแค่ เม.ย.ถึง พ.ค.53เท่านั้น
การเยียวยาควรครอบคลุมประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ สื่อมวลชน ภาคเอกชน ชุมชน ย่านการค้า โดยตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาดำเนินการอย่างเป็นระบบ
(5) ให้เยียวยากลุ่มที่ถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมด้วย มีหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ที่ยังถูกคุมขัง และจ่ายค่าทดแทนกลุ่มที่ศาลยกฟ้อง
(6) ให้ระมัดระวังการใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยไม่คำนึงถึงความละเอียดอ่อน และให้ทุกฝ่ายเทิดทูนสถาบันอยู่เหนือการเมือง
(7) ให้รัฐบาลจัดเวทีแลกเปลี่ยนเพื่อให้ทุกฝ่ายในสังคมไทยได้เข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาความขัดแย้ง และร่วมกันหาทางออก
อ่านเอกสารเพิ่มเติม