“โล๊ะทิ้ง” กม.องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมฯ “เดชรัต” ลั่นเสียหาย พท.ต้องรับผิดชอบ
หนึ่งในกก 4 ฝ่าย ยันรับได้ หากไม่ได้เป็นโยบายรบ.ยิ่งลักษณ์ ทั้งลงมติ-ออกแรงผลักดันมาโดยตลอด ชี้ไม่มีเหตุที่กม.ฉบับนี้จะแท้ง พร้อมวอนไม่อยากให้เป็นเกมการเมือง ติดใจถูกเสนอโดยครม.อภิสิทธิ์
ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติจากการประชุมเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2554 ไม่ยืนยัน “ร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ พ.ศ. ....” และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำการยกร่างกฎหมายขึ้นใหม่ โดยยึดถือตามร่างกฎหมายฉบับที่เสนอโดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง (คณะกรรมการ 4 ฝ่าย) นั้น
ดร.เดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งใน คณะกรรมการ 4 ฝ่าย กล่าวกับ “ศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทย” ว่า หากไม่ได้เป็นโยบายของรัฐบาล ก็รับได้ แต่ในกรณีนี้ พรรคเพื่อไทยลงมติเห็นชอบในวาระที่ 3 ตอนผ่านสภาผู้แทนฯ อีกทั้งช่วยเป็นอย่างมากในขั้นตอนของวาระที่ 2 ในชั้นกรรมาธิการ จึงไม่เห็นเหตุผลการทำให้กฎหมายฉบับนี้ต้องตกไป ซึ่งนางฐิติมา ฉายแสง อดีตส.ส.ฉะเชิงเทรา และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ก็ได้ช่วยผลักดันกฎหมายนี้มาโดยตลอด
“ผมจึงเสียดายว่า ไม่มีเหตุ ที่ทำให้ร่างกฎหมายนี้ตกไป ขณะที่กฎหมายฉบับอื่นๆ รัฐบาลสามารถยืนยันได้ทัน ดังนั้นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเห็นชอบ อยู่ๆ มาไม่ยืนยัน ผมถือเป็นความเสียหาย พรรคเพื่อไทยต้องรับผิดชอบต่อการดำเนินการนี้”
ดร.เดชรัต กล่าวถึงร่างกฎหมายฉบับนี้ มาจากคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ทั้ง 4 ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเอกชน ประชาชน รัฐบาล และผู้ทรงคุณวุฒิมาตกลงกันว่า จะใช้ร่างแบบนี้ ดังนั้นการที่รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำการยกร่างกฎหมายขึ้นใหม่ จึงเห็นว่า ไม่ควรไปเริ่มต้นใหม่อีก เพราะการไปเริ่มวาระ 1 วาระ 2 ใหม่ คงต้องใช้เวลาอีกนานประมาณ 6-7 เดือน หรือหากรัฐบาลให้ร่างใหม่ตั้งแต่ต้น (ร่างใหม่,ผ่านครม., ผ่านกฤษฎีกา,กลับมาที่สภาฯ) ก็คิดว่าต้องใช้เวลานานทีเดียวไม่ต่ำกว่า 2 ปี
เมื่อถามว่า ช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่ไม่มีกฎหมายองค์การอิสระสิ่งแวดล้อมฯ จะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มก. กล่าวว่า คงต้องใช้องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (เฉพาะกาล) ไปก่อน แต่ก็จะมีปัญหามากมีข้อจำกัด ระเบียบการใช้จ่าย การทำงานไม่สะดวกนัก
“องค์การอิสระฯ (เฉพาะกาล) ถูกออกแบบให้ทำงานไม่เกิน 1 ปี แต่ขณะนี้เกินปีกว่าแล้ว กฎหมายนี้ยังไม่ออก หากยื้อต่อไปยิ่งเป็นปัญหา”
และเมื่อถามว่า หากจะนำร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าอีกครั้ง มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง และใครจะเป็นผู้เสนอ ดร.เดชรัต กล่าวว่า การเสนอกฎหมายฉบับนี้ จะเป็นรัฐบาล หรือการเข้าชื่อ 10,000 รายชื่อ หรือเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ ซึ่งคิดว่า ควรใช้ช่องทางการเข้าชื่อเสนอกฎหมายจะดีกว่า เพราะมีข้อดีตรงที่ทำให้มีตัวแทนจากภาคประชาชนเข้าไปเป็นกรรมาธิการ ได้สิทธิ ได้โควตา เพื่อช่วยในขั้นตอนการแปรญัตติ
ดร.เดชรัต กล่าวถึงกฎหมายในส่วนของภาคประชาชนด้วยว่า หลายฉบับมาจากการลงชื่อของภาคประชาชน ซึ่งเมื่อมีการเข้าชื่อ 10,000 รายชื่อ พรรคเพื่อไทยจะไม่โล๊ะทิ้ง พร้อมยืนยันให้ดำเนินการต่อ แต่บังเอิญว่า กฎหมายองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมฯ ต่างกันในทางเทคนิคนิดเดียว (คณะกรรมการ 4 ฝ่ายจะเสนอกฎหมาย ผ่านสภาโดยตรงไม่ได้ จึงต้องเสนอผ่านครม.ชุดที่แล้ว) ที่ประชาชนยังรวมชื่อไม่ถึง 10,000 รายชื่อ ไปผ่านทางคณะกรรมการ 4 ฝ่าย และผ่านรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เข้ามา ดังนั้นจึงไม่อยู่ในรายชื่อกฎหมายที่ภาคประชาชนเสนอ
“เราไม่อยากให้เป็นเกมการเมือง เพราะโดยข้อเท็จจริง กฎหมายองค์การอิสระสิ่งแวดล้อมฯ เป็นกฎหมายที่คณะกรรมการ 4 ฝ่ายเสนอ ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยไปติดว่าเป็นกฎหมายโดยครม.ชุดที่แล้วหรือไม่ ถึงไม่ยืนยัน สุดท้ายจึงกลับมาเริ่มกันใหม่ ”
ทั้งนี้ สำหรับกฎหมายองค์การอิสระสิ่งแวดล้อมฯ มีการผลักดันตั้งแต่ปี 2540 และเริ่มเห็นเป็นร่างจริงๆ เมื่อปี 2546 และหยุดไปพร้อมกับรัฐธรรมนูญ 2540 พอมีรัฐธรรมนูญ 2550 จึงมีการร่างกันใหม่ จนกระทั่งมาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่วุฒิสภา แต่กฎหมายฉบับนี้ก็มีอันต้องตกไป