“บ้านอาสาใจดี” ระดมพลแพ็คของ-ทำเสื้อชูชีพ-ปั้น EMball ช่วยน้ำท่วม
อาสาสมัครต่างชาติ ยัน EMball แก้ปัญหาน้ำเน่าได้จริง-เยอรมันใช้เห็นผล เผย ประทับใจ คนไทยมีน้ำใจสู้วิกฤต ด้านนักศึกษา จุฬาฯ เห็นใจ คนต่างจังหวัดรับน้ำแทนคนกรุง
วันที่ 19 ตุลาคม ที่อาคารบรรษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรมธนารักษ์ และภาคีเครือข่ายด้านสุขภาวะ อาทิ ศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (Thaiflood) อาสาดุสิต กองทุนร้อยน้ำใจเพื่อการฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า มูลนิธิโกมลคีมทอง ฯ เปิดศูนย์อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือ “บ้านอาสาใจดี” เพื่อร่วมกันวางแผนดำเนินการช่วยเหลือเพื่อภาคี สสส. รวมทั้งประชาชนที่ประสบภัยทั่วประเทศ
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ ‘บ้านอาสาใจดี’ จึงทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงอาสาสมัคร ทั้งในด้านการให้ความช่วยเหลือ การจัดการ การระดมทุน รวมถึงการประดิษฐ์อุปกรณ์ต่างๆ เนื่องจากเข้าใจว่าแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกัน
“อาสาสมัครสามารถเดินทางมาร่วมบรรจุถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ที่อาคาร บบส. ได้ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.ของทุกวัน นอกจากการบรรจุสิ่งของแล้ว ยังมีกิจกรรมสาธิตวิธีการประดิษฐ์เรือแพ เสื้อชูชีพจากขวดพลาสติก ส้วมเก้าอี้ รวมทั้งลูกบอลชีวภาพบำบัดน้ำเสีย (EMball) อีกด้วย”ทพ.กฤษดา กล่าว และว่า สำหรับสิ่งของต่างๆ ที่ได้รับบริจาคนั้น จะส่งต่อไปยัง Thaiflood เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน รวมทั้งในพื้นที่ที่การช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง
ด้านนางสาวภคมนตร์ จงพิพิธพร นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสาเหตุที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เนื่องจากรู้สึกเห็นใจผู้ประสบภัยในพื้นที่หลายจังหวัด ที่ต้องเสียสละรับน้ำแทนคนกรุงเทพฯ ดังนั้น จึงอาสาเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งช่วยบรรจุสิ่งของ รวมทั้งประดิษฐ์เสื้อชูชีพจากขวดพลาสติก ซึ่งตนรู้สึกดีอย่างมากที่ได้ทำประโยชน์ ขณะเดียวกันก็อยากเห็นสิ่งของบริจาคต่างๆ เดินทางไปถึงมือผู้ประสบภัยทุกคน
ขณะที่นางสาวฮันนา วัตสัน อาสาสมัครชาวอังกฤษ นักศึกษาปริญญาโทสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย กล่าวว่า ตนเคยเดินทางไปในหลายประเทศ แต่ไม่เคยอยู่ในประเทศที่เกิดวิฤตที่ใหญ่ขนาดนี้ และหลังจากที่เห็นข่าวแล้วรู้สึกว่าอยากช่วยเหลือในสิ่งที่สามารถทำได้
“เห็นข่าวแล้วรู้สึกว่า สถานการณ์น่ากลัวมาก แต่สิ่งที่หนึ่งที่น่าประทับใจมากคือ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีน้ำใจ เมื่อเกิดวิกฤตขึ้นในประเทศ คนทั่วทุกสารทิศก็จะมาช่วยกัน ” นางสาวฮันนา กล่าวและว่า เคยรู้เรื่อง EM Ball มาก่อน แต่ไม่เคยทำ เพราะในเยอรมันเมื่อปี 2545 เกิดวิกฤตน้ำล้นในแม่น้ำและเกิดการเน่าเสีย ครั้งนั้นก็มีการใช้ EM Ball ในการช่วยบำบัดน้ำเสียเหมือนกัน
ประมวลภาพ
