- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- “พระมหาสมปอง” ชี้น้ำท่วมมาพร้อมกับน้ำใจ-ความรู้ใหม่ -โอกาส
“พระมหาสมปอง” ชี้น้ำท่วมมาพร้อมกับน้ำใจ-ความรู้ใหม่ -โอกาส
พระมหาสมปอง ให้ข้อคิด เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ระดับประเทศ ผู้บริหาร ต้องลงมาดูให้ถ่องแท้ ทำอย่างจริงจัง เพื่อแก้ปัญหา พร้อม กระตุ้นคนไทยเลิกเอาเปรียบแล้วออกมาช่วยเหลือกันและกัน
เมื่อเร็วๆนี้ ในงาน “ย่านราชประสงค์ รวมพลคน Do D ปั้นน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” ณ ลานกิจกรรม Event Hall ชั้น 1 ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต (นครไธสง) ให้ข้อคิดคนไทยในยามเกิดวิกฤตน้ำท่วม "อย่าท้อเมื่อพลาดพลั้ง ทำความหวังขึ้นมาใหม่ นมนานสักปานใด หกล้มไปเพียงชั่วคราว"
พระมหาสมปอง กล่าวถึงประโยชน์ของ "น้ำ" ที่ให้ประโยชน์กับมนุษย์มากมาย ทั้งให้ได้ดื่มกิน ได้อาบชำระร่างกาย ทำเกษตรกรรม มีเป็นประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ แต่กรณีน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ หากมองอีกมุมก็หนึ่ง จะเห็นประโยชน์เช่นกัน ด้วยสิ่งที่มากับน้ำก็จะมีการตกตะกอน มีอาหาร มีปุ๋ย ให้ดินอุดมสมบูรณ์ สามารถช่วยเกษตรกรได้
พระมหาสมปอง กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้ไม่นานก็จะผ่านไป ดังนั้นไม่ควรตกใจกลัว การที่เราตกใจนั้นอาจเป็นเพราะเราอยู่ในสังคมเมือง เป็นวิถีชีวิตแบบใหม่ เป็นตลาด เป็นร้านค้า มีเทคโนโลยีมากมาย ในระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ ผิดกับในอดีตที่เป็นสังคมเกษตรกรรม ที่ไม่ค่อยกลัวน้ำ
“เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว สำคัญอยู่ที่ว่าเราจะอยู่กับน้ำอย่างไร จะอยู่กับแม่พระคงคาอย่างไร แล้วต่อไปเราจะดูแลแม่เราอย่างไร ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ในระดับประเทศ ระดับผู้บริหาร ต้องดูให้ถ่องแท้ และต้องลงมือทำจริงๆ เช่น กระทรวงน้ำที่มีการเสนอให้จัดตั้งมาหลายรัฐบาล แต่ก็ล้มเหลว หรือเมื่อมีการเสนอให้ทำก็มีเรื่องผลประโยชน์ และการทุจริตเข้ามา จึงต้องยกเลิกไป ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายหลายแสนล้านบาท ฉะนั้น บทเรียนจากอุทกภัยใหญ่ครั้งนี้ เราควรต้องทำกันอย่างจริงจังได้แล้ว เพราะภัยพิบัติอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกปี”
พระมหาสมปอง กล่าวอีกว่า เป็นการดีหากรัฐบาลจะจัดตั้งกระทรวงน้ำ เพราะสามารถช่วยเราในเรื่องของการจัดการน้ำได้ ตัวอย่างเช่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ที่เคยโดนน้ำท่วมหนัก มีการจัดการให้มีประตูเปิด-ปิดน้ำ และมีระบบน้ำร้อยปีจนเป็นต้นแบบให้กับประเทศต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ฉะนั้น เราก็จะไม่มีข้ออ้างที่ว่าการที่น้ำท่วม เนื่องจากเราอยู่ต่ำกว่าน้ำทะเล โดยความจริงแล้วไม่เกี่ยวกัน แต่อยู่ที่ระบบการจัดการ
ส่วนประชาชนที่พบกับภัยพิบัติครั้งนี้ พระมหาสมปอง ให้ข้อคิดเพิ่มเติมว่า ต้องมีสติอยู่เสมอ รู้ว่าหากน้ำท่วมแล้วต้องทำอย่างไร และขอให้ตระหนักว่าเราต้องรักกัน สามัคคีกัน ต้องมีระเบียบ ซึ่งสามารถดูตัวอย่างจากเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น คนไทยชื่นชมคนญี่ปุ่นว่ามีระเบียบในการรับของแจก ในการอยู่ด้วยกัน ในการจัดการ ฉะนั้นแล้ว เราก็ควรหันมาชื่นชมคนไทย ว่า เมื่อถึงเวลาจริงๆ เราก็สามัคคีกัน มีความร่วมมือร่วมใจกัน เป็นระเบียบวินัย
“น้ำท่วมมาพร้อมกับน้ำใจ มาพร้อมกับความรู้ใหม่ และมาพร้อมกับโอกาสที่เราจะลงมือทำจริงๆ ทั้งในระดับประเทศ ระดับประชาชน ฉะนั้น คนไทยต้องรู้ว่าเราควรต้องมีระบบป้องกันประเทศอย่างไร และสำหรับคนไทยที่ยังไม่ค่อยได้ช่วยเหลือกัน ยังเอาเปรียบกันอยู่ ในเรื่องการค้าขายที่มีราคาแพงขึ้น ก็อยากจะขอให้มาช่วยเหลือกันตอนนี้"
ทั้งนี้ พระมหาสมปอง ยังฝากไปยังผู้สูงอายุที่ไม่ยอมทิ้งบ้านหรืออพยพออกจากบ้านว่า หลายท่านไม่ใช่ว่าไม่อยากออกหรือทิ้งบ้าน แต่ติดอยู่ที่ว่า หากย้ายไปที่อื่นจะอยู่อย่างไร จะสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านหรือไม่ แต่ถ้าเป็นไปได้ช่วงที่เราสามารถออกได้ก็ควรจะออก เพราะหากไม่ออก พอน้ำมาก็จะออกไม่ได้ จะทำให้ลำบากกว่าเดิม
“ลมหายใจมีค่าที่สุด จะกระเป๋าแบรนด์เนม เสื้อผ้า เงินทอง เราสามารถหาใหม่ได้ เรามีสติปัญญาอยู่ในตัวเรา คนที่มีปัญญาต่อให้เกิดวิกฤตอย่างไรก็อยู่ได้ ดังนั้น เราควรรักษาชีวิตของเราไว้ อย่าวิตกเรื่องโจร เพราะโจรคงไม่สามารถเอาบ้านเราไปได้ อย่างน้อยหากเรารักษาชีวิตของเราไว้ ก็สามารถที่จะกลับไปอยู่ในบ้านที่เรารักได้อีกครั้ง”