- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ทบ.ตั้ง 5 ศุูนย์บริการผลิต"อีเอ็ม"แจกจ่ายประชาชน
ทบ.ตั้ง 5 ศุูนย์บริการผลิต"อีเอ็ม"แจกจ่ายประชาชน
อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. ร่วมแชร์ประสบการณ์ ใช้อีเอ็มแก้ปัญหาน้ำเน่าทะเลใต้ได้ผล ด้าน หมอพรทิพย์ เผย อย่ามองอีเอ็มเป็นพระเจ้า-เทวดา ย้ำ ไม่ทำให้น้ำสะอาด 100% แต่ช่วยลดการเน่าเสียได้
วันที่ 17 พฤศจิกายน กองทัพบก ร่วมกับสำนักงานทูตความดีแห่งประเทศไทย จัดโครงการอบรมพิเศษให้กับผู้ประสบอุทกภัยและประชาชนทั่วไป ในหัวข้อ “บำบัดน้ำเสียด้วยอีเอ็ม ในภาวะวิกฤตสำหรับผู้ประสบภัย" โดยมี พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาม ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นประธาน
พล.อ.ยุทธศิลป์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุหลายลูก ทำให้น้ำท่วมในหลายจังหวัด ทั้งทางภาคเหนือและภาคกลาง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้งสิ้น 64 จังหวัด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก กองทัพบกได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากหน่วยเหนือ ขณะเดียวกันยังได้จัดกำลังพลมากกว่า 5,000 นาย รถขนาดใหญ่กว่า 4,000 คน ตลอดจนจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ จัดส่งเสบียงอาหารให้กับประชาชน ทั้งนี้ การดำเนินงานดังกล่าว เป็นไปตามแนวนโยบายภาครัฐ อีกทั้งกองทัพบกยังได้ร่วมมือกับเอกชน ชุมชน ท้องถิ่นในการให้ความช่วยเหลือต่างๆ
“แม้ในปัจจุบันสถานการณ์ภาพรวมจะดีขึ้น แต่ในส่วนของกรุงเทพฯ จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี ยังอยู่ในสถานการณ์อุทกภัย และขณะนี้พบว่า พื้นที่ชุมชนซึ่งมีน้ำท่วมขังนานกว่า 15 วัน เริ่มมีปัญหาเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นและเป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จึงมีแนวทางในการใช้อีเอ็มในการแก้ปัญหาดังกล่าว เนื่องจากเป็นสิ่งที่กองทัพบกใช้ในการบำบัดน้ำเสียมานาน และเป็นวิธีบำบัดที่มีราคาไม่แพงมาก ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการออกมาให้ข้อมูลในทางตรงข้ามนั้น ก็ถือว่าเป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ที่ต้องมีพิสูจน์กัน”
พล.อ.ยุทธศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะมีการอบรม สร้างเสริมองค์ความรู้ให้กับภาครัฐ เอกชนและประชาชน เพื่อขยายผลการนำจุลินทรีย์ไปใช้บำบัดน้ำเน่าเสียในพื้นที่อุทกภัยแล้ว ผู้บัญชาการทหารบกยังได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์บริการจุลินทรีย์จำนวน 5 ศูนย์ ได้แก่ 1.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 1.ให้บริการกับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 2.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่อยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก ให้บริการประชาชนในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ จังหวัดลพบุรี 4.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพบทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ จังหวัดสระบุรี 5.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมการสัตว์ทหารบก ให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ จังหวัดนครปฐม เพื่อดำเนินการผลิตจุลินทรีย์น้ำ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-27 ธ.ค.วันละ 50,000 ลิตร
จากนั้นมีการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ประสบการณ์ในการนำจุลินทรีย์ การใช้ EM ในการบำบัดน้ำเสีย” โดยมี พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก นางวรนุช จิตธรรมสถาพร อดีตรองผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ นายมนัส หนูสวี รองประธานมูลนิธิเกษตรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมบรรยาย
พล.อ.พิเชษฐ์ กล่าวถึงประสบการณ์การใช้จุลินทรีย์ในการบำบัดน้ำเสียว่า ที่ผ่านมาได้มีการทดลองใช้จริงในอ่าวปัตตานี โดยได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชนในการโยนอีเอ็มบอลลงทะเล ซึ่งเป็นการช่วยดึงคนในชุมชนเข้ามาร่วมในการพัฒนา และมีความรักความสามัคคีกัน
"ที่ประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัดคือที่ เกาะพิทักษ์ จ.ชุมพร น้ำทะเลในบริเวณนั้นมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น และอาจส่งผลให้ปะการังในทะเลตายได้ ดังนั้นจึงได้ทำการนำลูกอีเอ็มบอลไปโยนใต้ทะเลลึก ผลที่ตามมาคือ ปะการังสามารถฟื้นขึ้นมาได้ และทำให้สภาพแวดล้อมใต้ทะเลกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง สิ่งที่ชี้ชัดคือ ปูเปรี้ยว ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าน้ำสะอาด และทำให้ปลากลับมา ช่วยให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้จากการจับปลา เหล่านี้สามารถยืนยันได้ว่า จุลินทรีย์ หรือ อีเอ็ม สามารถใช้ในการบำบัดน้ำเสียได้ แม้ในน้ำทะเล"
นางวรนุช กล่าวด้วยว่า อยากให้มั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นจุลินทรีย์แบบน้ำหรือจุลินทรีย์บอล ก็สามารถบำบัดเน่าเสียได้ โดยเฉพาะในเวลานี้ ที่มีน้ำขังจากอุทกภัย ส่งกลิ่นเหม็นและเริ่มเน่าเสีย จนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ฉะนั้นควรต้องเร่งให้มีการช่วยกันบำบัดให้เร็วที่สุด
“จากประสบการณ์ในการใช้จุลินทรีย์ในการบำบัดน้ำเสีย เริ่มต้นครั้งแรกในชุมชนเคหะนนทบุรี มีปัญหาน้ำเน่าเสียอย่างมาก โดยสามารถวัดค่า BOD ได้ถึง 48 ซึ่งถือว่าเป็นค่าที่มากกว่าปกติ และพอดีกับการได้มีโอกาสเรียนรู้การทำน้ำจุลินทรีย์จาก พล.อ.พิเชษฐ์ จึงได้นำไปปฏิบัติ จนเห็นผลภายใน 4 ชั่วโมง จุลินทรีย์สามารถทำให้น้ำในสระใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และไม่มีกลิ่นเหม็น นอกจากนี้ยังทำให้กากตะกอนที่อยู่ใต้น้ำหายไปด้วย”
นางวรนุช กล่าวถึงการทดลองใช้จุลินทรีย์ในการบำบัดน้ำเสียในอีกหลายพื้นที่ เช่น ชุมชนวัดตึก ที่มีปัญหาในเรื่องของยุงที่อยู่ในน้ำคลำ แต่หลังจากที่เทน้ำจุลินทรีย์ลงไปแล้วจุลินทรีย์ทำให้ยุงช็อคและตายไปในที่สุด ต่อมาภายใน 6 เดือน น้ำจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด “ล่าสุด รัฐบาลโดยกระทรวงกลาโหมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการบำบัดน้ำเสียบ่อขยะ ในพื้นที่ 30ไร่ จากอุทกภัยน้ำท่วม ด้วยจุลินทรีย์ 3 แสนลิตร และอีเอ็มบอล7 หมื่นลูก ณ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก”
ขณะที่นายมนัส กล่าวว่า อย่าไปยึดติดว่าอีเอ็มบอลจะต้องมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และไม่ต้องรอผลการวิจัยที่จะออกมา ทุกวันนี้นักวิชาการยังคงมีข้อถกเถียงกันว่า อีเอ็มบอลสามารถใช้ได้จริงหรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วเราไม่ต้องรอเวลา เราสามารถที่จะลงมือปฏิบัติได้ เพราะเมื่อถามว่าหลังจากนี้จะจัดการกับจำนวนขยะมหาศาลที่เป็นต้นเหตุของน้ำเน่าเสียได้อย่างไร หลายหน่วยงานก็ยังไม่สามารถให้ความชัดเจนได้ ฉะนั้นแล้ว ภาคประชาชนก็ควรที่จะร่วมใจกันในเวลานี้และรีบลงมือทำ
ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวถึงประสบการณ์การใช้จุลินทรีย์ในช่วงภัยพิบัติว่า เมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ มีศพจำนวนมาก ซึ่งหน่วยงานราชการในขณะนั้น ยังไม่สามารถหาวิธีจัดการได้ จึงมีการนำอีเอ็มไปใช้ ทำให้ศพเน่าช้าลง ไม่มีแมลงวันว่างไข่ หลังจากนั้นเมื่อเกิดภัยพิบัติก็นำอีเอมเข้าไปใช้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีการน้ำอีเอ็มมาใช้ในการบำบัดน้ำเสีย ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า อย่ามองว่า อีเอ็มเป็นพระเจ้าหรือเทวดา ต้องเข้าใจว่า อีเอ็มไม่ได้ทำให้น้ำสะอาดจนดื่มได้ แต่สามารถช่วยลดการเน่าเสียได้ในระดับหนึ่ง เพราะการบำบัดน้ำเสียนอกจากอีเอ็มแล้ว ยังต้องมีปัจจัยเชิงเทคนิคอื่นๆ เพิ่มเติม แต่การใช้อีเอ็มนั้นอยู่ในกระแสความพอเพียง ที่ชาวบ้านสามารถทำเองได้ และเป็นการใช้ธรรมชาติในการบำบัด ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสารเคมีตกค้างตามมา