- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ป.ป.ช.เล็งใช้ กม.คุ้มครองพยาน คดีโจรปล้นบ้านปลัดคมนาคม
ป.ป.ช.เล็งใช้ กม.คุ้มครองพยาน คดีโจรปล้นบ้านปลัดคมนาคม
ป.ป.ช.ชงคดีปล้นบ้าน “สุพจน์” เข้าประชุมพรุ่งนี้ เล็งใช้อำนาจกม.ใหม่ตรวจสอบเส้นทางเงินผ่าน ป.ป.ง. เผย ต้องหาข้อมูลที่ชัดเจน และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจง
วันที่ 21 พฤศจิกายน ศาสตราจารย์ (พิเศษ) วิชา มหาคุณ กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตโดยใช้กลไกทางศาสนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี คดีปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมว่า ขณะนี้ทางป.ป.ช. รับทราบเพียงแค่เบื้องต้น เพราะในจุดที่จะต้องได้ข้อมูลจริงๆคือ การสอบสวนของทางตำรวจ และการให้ปากคำของผู้ต้องหาโดยขณะนี้ทาง ป.ป.ช. ได้ติดต่อกับทางตำรวจโดยตรงที่จะขอสำนวนและตัวผู้ต้องหาเพื่อมาให้เบาะแสที่แท้จริง
"เรื่องของการตรวจสอบทรัพย์สิน เป็นไปตามกฎหมายของ ป.ป.ช. อยู่แล้ว ซึ่งต้องหาข้อมูลที่ชัดเจน พร้อมทั้งให้โอกาสทางนายสุพจน์ ด้วย เพราะจะไปชี้มีการร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินมากผิดปกตินั้นยังไม่สามารถทำได้ ต้องให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจง เพื่อความโปร่งใส และสามารถที่จะตรวจสอบได้"
กรณีที่ก่อนหน้านี้ ทางนายสุพจน์ ได้ยื่นบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน ไว้เป็นจำนวนมาก นอกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมแล้ว ยังเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวง และเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจอีกประมาณ 20 แห่งด้วยนั้น กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวว่า จะได้ตรวจสอบดูว่าที่ได้ยื่นบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สินไว้นั้น ถูกต้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งแม้จะไม่มีการปล้นก็ต้องตรวจสอบ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีผู้บริหารรัฐวิสาหกิจเคยถูกดำเนินการและอยู่ในชั้นของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว
นอกจากนี้ ศ.(พิเศษ) วิชา กล่าวถึงผู้ต้องหาในคดีนี้ อาจจะเข้าหลักกฎหมายใหม่ของทาง ป.ป.ช.ด้วยในกรณีที่ผู้ต้องหา อาจถูกทำร้ายได้ เพราะฉะนั้นจะเข้าระบบคุ้มครองพยาน ของทาง ป.ป.ช. นั่นคือ ผู้ต้องหาควรอยู่ภายใต้การดูแลของเราด้วย นอกจากทางตำรวจ เพราะถ้าให้เบาะแสที่เป็นความจริง อาจจะไม่ปลอดภัยก่อนการเบิกความ
“กฎหมายใหม่ของ ป.ป.ช. ได้มีการเพิ่มศักยภาพในการตรวจสอบ เช่น การใช้อำนาจของ ป.ป.ง.เพื่อที่จะดำเนินการลงลึกเพื่อดูเส้นทางเดินของเงิน และตรวจสอบทรัพย์สินในการโอนเงินไปยังต่างประเทศ รวมถึงเรื่องการยึดอายัด ไว้ชั่วคราวได้ ตามอำนาจของ ป.ป.ช. แต่ว่าต้องเป็นอำนาจของกรรมการทั้งชุด
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมของ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ และจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมด้วย โดยได้มอบหมายให้ นายอภินันท์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการ ฯ ป.ป.ช. ประสานงานกับหน่วยราชการ ทั้งตำรวจผู้สอบสวน รวมถึง ป.ป.ง.เข้าพิจารณาในที่ประชุม
นอกจากนี้ ศ.(พิเศษ) วิชา ยังกล่าวถึง กรณีทุจริตถุงยังชีพด้วยว่า ทาง ป.ป.ช. มีมติชัดเจนแล้วว่าจะจัดตั้งคณะกรรมการใหม่ทั้งชุด เป็น “คณะกรรมการตรวจสอบวิกฤตน้ำท่วม” ทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะถุงยังชีพ โดยมีนายกล้าณรงค์ จันทิก เป็นผู้รับผิดชอบ
“ทั้งนี้ คงไม่มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำโดยตรงเข้าร่วม แต่อาจเป็นในกรณีที่เชิญมาให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์มากกว่า เนื่องจากเป็นการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งชุด 9 คน โดยในสัปดาห์นี้ คงจะสามารถออกรายละเอียดของคณะทำงานได้ เพราะคงจะต้องแตกออกไปอีกหลายชุด เช่นการบริหารจัดการน้ำที่บกพร่อง โดยจะนำเอาทุกเรื่องที่มีการร้องเรียนมาพิจารณา รวมถึงเรื่องที่คุณเรืองไกร ได้ร้องเรียนมาว่าเป็นปัญหาของรัฐบาลชุดที่แล้วด้วย”