- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- สถาปนิกชื่อดัง แนะใจเย็นรอ 3-4 เดือน ค่อยคิดซ่อมแซมบ้าน
สถาปนิกชื่อดัง แนะใจเย็นรอ 3-4 เดือน ค่อยคิดซ่อมแซมบ้าน
'ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์' เผย อันตรายหลังน้ำท่วม มีที่มาจาก ความแข็งแรงของโครงสร้างบ้าน-ไฟฟ้า ชี้ ไม่ต้องรีบซ่อม รอเวลาความชื้นแห้งโดยธรรมชาติ แนะ เดือนมีนา-เมษา เหมาะสุด
วันที่ 30 พฤศจิกายน บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล จัดงานเสวนา “บัญญัติ 21 ประการ บ้านหลังน้ำท่วม” โดยนายยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ สถาปนิกชื่อดัง มาให้ความรู้เรื่องการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด ณ ห้องเวิลด์บอลลูมชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์
อ.ยอดเยี่ยม กล่าวถึงอันตรายที่อาจเกิดหลังน้ำท่วมนั้น เกิดได้จาก 2 ประเด็น คือ 1.ความแข็งแรงของโครงสร้าง เนื่องจากหลังน้ำลดดินจะเกิดการทรุดตัวและโครงสร้างอาจจะเอียงได้ 2.ไฟฟ้า สัตว์ร้าย และเชื้อโรคที่จะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ โดยสิ่งแรกที่ต้องทำหลังน้ำท่วม คือ การทำความสะอาดกับล้างบ้าน ไล่ตั้งแต่ 1.เก็บกวาดขยะ โดยต้องทำการกำหนดจุดในการเก็บขยะว่าจะนำไปไว้ตรงจุดใด 2.ทำความสะอาดตามปกติ อาจจะใช้ผงซักฟอก หรือน้ำสบู่ได้ และ 3.ฆ่าเชื้อโรค ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรด เช่น น้ำส้มสายชู ผงฟู และต้องศึกษาอัตราส่วน วิธีการใช้ให้ดี
สำหรับการกำจัดเชื้อรา สถาปนิกชื่อดัง กล่าวว่า สิ่งสำคัญ ต้องทำให้บริเวณบ้านมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งไม่ใช่จากการเปิดเครื่องปรับอากาศ ส่วนที่นอน หมอน หรือฟูก ที่จมน้ำหากทิ้งได้ก็ควรทิ้งไป เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา
จากนั้น อ.ยอดเยี่ยม ยังแนะวิธีการตรวจสอบบ้านหลังน้ำลด ดังนี้
1. โครงสร้าง เช่น รั้ว เสา-คาน ต้องตรวจสอบดูว่า โครงสร้างบ้านเกิดการเอียงตัวหรือไม่ โดยใช้วิธีง่ายๆ คือการโยนลูกแก้วลงบนพื้น นอกจากนี้สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบดูรอยร้าวตามจุดต่างๆภายในบ้านด้วย
2.ไฟฟ้า หลังจากน้ำลดน้ำ อย่าเพิ่งเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทันที ต้องให้แน่ใจว่าแห้งสนิทเสียก่อน ทั้งนี้ ต้องตรวจว่ามีไฟรั่วหรือไม่ ด้วยการปลดเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด แล้วตรวจดูที่มิเตอร์
3.สุขาภิบาล ในที่นี้ มีทั้งน้ำดีและน้ำเสีย ในส่วนของน้ำดีนั้นคือ ระบบน้ำประปา ต้องให้แน่ใจว่าจะไม่มีสิ่งสกปรกอยู่ในเครื่องปั้มน้ำ เนื่องจากหากเครื่องปั้มน้ำแห้งแล้วนั้นจะเริ่มทำงานทันที และหากมีสิ่งสกปรกอยู่ข้างใน อาจทำให้ไฟไหม้บ้านได้
4.เปลือกอาคาร เช่น ผนัง, หน้าต่าง, ประตูบ้าน รวมถึงประตูรั้ว ซึ่งการทำความสะอาดบ้านพับประตูรั้วนั้นเป็นเรื่องสำคัญและเป็นอย่างแรกๆที่ควรทำ เนื่องจากอาจเกิดอุบัติเหตุทับคนหรือสิ่งของได้
และ 5.พื้นผิว ได้แก่ พื้น ผนัง และฝ้าเพดาน
ทั้งนี้ อ.ยอดเยี่ยม กล่าวอีกว่า ช่วงเวลานี้ ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องรีบซ่อมแซมบ้าน ปล่อยบ้านไว้ก่อน รอจนถึงเดือน มีนาคม-เมษายนปีหน้า เพราะไม่เพียงแต่ต้องจ้างช่างราคาสูงแล้ว ผนังหรือพื้นผิวก็ยังมีความชื้นอยู่ข้างใน ฉะนั้นต้องรอให้ความชื้นออกไปโดยธรรมชาติก่อน จากนั้นจึงค่อยลงมือซ่อมแซมบ้าน หรือทาสีใหม่
“ในกรณีที่หลายคนจะทำการยกบ้านขึ้นนั้น หากจะแก้ปัญหาในลักษณะนี้ ต้องทำความเข้าใจ และมีความรู้เข้ามาเกี่ยวข้องต่อไป การยกบ้านอย่างเดียวนั้นอาจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หรืออาจจะไม่ช่วยแก้ปัญหาก็ได้”
อ.ยอดเยี่ยม กล่าวถึงกรณีบางคนคิดจะย้ายบ้าน หรือย้ายที่อยู่ใหม่นั้น ก็ควรพิจารณาก่อน เพราะน้ำท่วมครั้งนี้ แปลกประหลาด ด้วยการบริหารจัดการน้ำ ทำให้เกิดความสับสน เห็นได้จากบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเดิมเรีบกว่า หนองงูเห่า ที่น้ำควรจะท่วมกลับไม่ท่วม แต่ดอนเมืองกลับท่วม ฉะนั้น เราไม่สามารถคาดเดาได้ จึงควรรอให้ข้อมูลข่าวสารชัดเจนเสียก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ
“คาดว่าปีหน้าน้ำอาจจะท่วมอีก ปีต่อๆไปก็คงจะท่วมอีก เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะท่วมที่ใด เพราะการบริหารจัดการนั้นไม่สามารถบอกเราได้ และหากมองในภาพใหญ่ เราจะพบว่า มีหลายอย่างที่สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลง เราพบคนดี และคนชั่วมากมายจากเหตุการณ์ครั้งนี้”
ในช่วงท้าย อ.ยอดเยี่ยม ได้ฝากข้อคิดไว้ว่า เราต้องเดินทางสายกลาง มีความเข้าใจ ซึ่งสิ่งสำคัญคือเราต้องว่าเราไม่รู้อะไร เพื่อนำไปหาคำตอบ และต้องรู้จักการจัดระบบความคิดให้เป็นระเบียบ จัดระเบียบความคิดให้เป็นระบบ
“น้ำท่วมก็ต้องท่วมอีก ขอให้เข้าใจ แต่คงไม่ต้องถึงกับย้ายบ้าน ย้ายประเทศ เราต้องเข้าใจปัญหาและแก้ปัญหากันต่อไป ปัญหาครั้งนี้เกิดจากสังคมไทยแย่ลง เห็นได้จาก บางเขตที่มีน้ำท่วมขัง 1 เมตร แล้วเกิดการไม่พอใจ ออกมาเดินขบวนปิดถนน เรียกร้อง หลังจากนั้นอีก 36 ชั่วโมงต่อมา น้ำลดลงเหลือ 60 ซม. ถ้าสังคมไทยยังเป็นอย่างนี้ก็คงอยู่ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องออกไปปิดถนนกันอีกเรื่อยๆ เพื่อจะให้น้ำลดลงเหลือ 30 ซม. เป็นต้น”