- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ลงทุนคุ้มค่า นักธุรกิจ 77% ยกมือหนุนสร้าง 'ฟลัดเวย์'
ลงทุนคุ้มค่า นักธุรกิจ 77% ยกมือหนุนสร้าง 'ฟลัดเวย์'
“เสาวณีย์” ระบุผลสำรวจนักธุรกิจต่อศก.และปัญหาน้ำท่วม ไม่หนุนเก็บภาษีใช้ป้องกันน้ำท่วมเพิ่ม เชื่องบ 1.3 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูหลังน้ำลดไม่พอแน่ ดักทางเงินซ่อมแซมถนน-สะพาน ระวังคอร์รัปชั่น
วันที่ 11 ธันวาคม ภายในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 จังหวัดระยอง รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจหอการค้าโพล ต่อมุมมองสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ปัญหาเรื่องน้ำท่วม การลดความเหลื่อมล้ำ และการสำรวจความเห็นต่อปัญหาการคอร์รัปชั่น โดยสำรวจจากตัวแทนหอการค้าที่มาเข้าร่วมสัมมนาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ 420 ตัวอย่าง ณ ห้องสุนทรภู่ โรงแรมสตาร์ จังหวัดระยอง
รศ.ดร.เสาวณีย์ กล่าวถึงผลสำรวจถึงทัศนะต่อปัญหาน้ำท่วม กับการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมในประเทศไทย เพื่อใช่ในการป้องกันน้ำท่วมนั้น นักธุรกิจ ตัวแทนภาคธุรกิจจากหอการค้าทั่วประเทศกว่า 58.8% เห็นว่า ไม่ควรมีการจัดเก็บ แต่หากต้องมีการจัดเก็บจริงๆ 42.3% ก็ยินดีที่จะทำการจ่าย โดยควรจัดเก็บทุกพื้นที่ แต่กำหนดวงเงินแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน
“สำหรับความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจต่อการลงทุนในการจัดการน้ำขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกว่า 77.3% คาดว่า จะคุ้มค่า โดยเห็นว่า การลงทุนจะมีทิศทางไปเพื่อการทำทางระบายน้ำ (flood way) เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ในส่วนนโยบายที่รัฐบาลออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบัน เช่น รัฐบาล 1.3 แสนล้านบาทเพื่อฟื้นฟู และเตรียมวงเงินสินเชื่อ 3 หมื่นล้านบาทนั้นคิดว่าไม่เพียงพอ”
รศ.ดร.เสาวณีย์ กล่าวถึงผลการสำรวจต่อว่า สถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศไทยในขณะนี้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมากว่า 60.4% มองว่า มีการทุจริตคอร์รัปชั่นเพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและนักธุรกิจ 45.5% ตั้งข้อสังเกตว่า การใช้งบประมาณงบประมาณของรัฐ เพื่อฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤติน้ำท่วม จะมีโอกาสในการเกิดคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะการซ่อมแซมถนนและสะพานมีโอกาสเกิดการคอร์รัปชั่นได้มากที่สุด
รศ.ดร.เสาวณีย์ กล่าวด้วยว่า ผลการสำรวจส่วนใหญ่ นักธุรกิจและผู้ประกอบการมองว่า มีความพึงพอใจระดับปานกลางต่อนโยบายการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยของภาครัฐ
“สิ่งที่ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการในปัจจุบัน ทั้งดูและช่วยเหลือธุรกิจที่ประสบภัย คือ 1.ต้องการเงินชดเชย หรือมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs 2.สร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน 3.จัดสรรแหล่งเงินทุน และให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 4.ลดภาษีสำหรับผู้ที่ประสบอุทกภัย 5.เร่งฟื้นฟูภาคเกษตรและอุตสาหกรรม”