"สตง." ชี้สอบใช้งบฯ สปสช. ทำตามหน้าที่ ไม่ได้หวังเชือดใคร
"พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส" แจง สอบการใช้จ่ายเงิน สปสช. เป็นการติดตามประเมินผล ไม่ใช่ฟัน 'ทุจริต' ย้ำทำตามหน้าที่ ไม่ได้ต้ังป้อมโจมตีใคร ลั่นภาครัฐใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ประชาชนมีสิทธิรับรู้
จากกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีการตรวจสอบประเมินผลสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในปีงบประมาณ 2554 เนื่องจากเห็นว่า สปสช. ได้รับงบประมาณแต่ละปีจำนวนมาก และเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สตง.สรุปผลการตรวจสอบมีประเด็นข้อตรวจพบและข้อสังเกตที่สำคัญ ดังนี้ 1.การใช้จ่ายงบบริหารไม่ถูกต้องและไม่ประหยัด 2.การบริหารพัสดุไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด 3.การนำเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจากการซื้อยาจากองค์การเภสัชกรรม โดยใช้งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไปใช้เป็นเงินสวัสดิการเป็นการปฏิบัติไม่เหมาะสม
4.การจัดส่วนงานและการกำหนดตำแหน่งงานไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 5.ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด และการบรรจุแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ไม่เป็นไปตามคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง (Job Specification) 6.การใช้จ่ายงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดใน พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 และ 7.การบริหารงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รายการงบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคไม่เป็นไปตามที่คู่มือกำหนด นั้น
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวกับ “ศูนย์ข่าวสารนโยบายสาธารณะ สำนักข่าวอิศรา” ถึงผลสรุปดังกล่าวว่า เป็นการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของ สปสช. ในลักษณะการติดตามและประเมินผลการใช้จ่ายเงินว่า เป็นไปโดยเหมาะสม มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกิดประโยชน์สูงสุดหรือไม่เท่านั้น ไม่ใช่ตรวจสอบการทุจริต
“ในเรื่องของการตรวจสอบนั้นมีหลายระดับ หากเริ่มต้นพบการใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม คงต้องไปดูให้ละเอียดว่า ใช้จ่ายอย่างไร แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะมีการตรวจสอบเรื่องใดเพิ่มเติม ทั้งนี้ การที่ สตง. ได้ออกรายงานเกี่ยวกับ สปสช.ดังกล่าว ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิ์ที่จะตรวจสอบรายละเอียด เจาะลึก”
นายพิศิษฐ์ กล่าวถึงการตรวจสอบของ สตง. ว่า เป็นไปในลักษณะของการสุ่มตรวจ เมื่อบังเอิญไปพบว่า สปสช. จ่ายเงินเดือนมาก ค่าเบี้ยประชุมแพงจึงเข้าตรวจสอบตามหน้าที่ ไม่ใช่หาเรื่องจับผิด อีกทั้งหลักเกณฑ์ที่ใช้ก็เหมือนกับทุกหน่วยงานที่ สตง.เข้าไปตรวจสอบ ดังนั้น ตนยืนยันได้ว่า ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่หน่วยงานใด
“ถ้ามีระเบียบแล้วไม่ทำ ก็คือไม่ถูกต้อง เราจึงต้องชี้แจงให้ปรับปรุง ประการสำคัญเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ข้อเตือนใจ ถ้าสิ่งใดสามารถปรับปรุงแก้ไข เยียวยาได้ก็ให้รีบเร่งดำเนินการให้ถูกต้อง และเพื่อเป็นแนวทางในการพึ่งระมัดระวัง สำหรับการใช้จ่ายเงินในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ เนื่องจากเรากำลังใช้เงินของแผ่นดิน ซึ่งเป็นเงินของประชาชนทุกคน”
เมื่อถามว่า รายงานมีการระบุถึงการใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม อาจตีความได้ว่าพบการทุจริต นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ถ้าได้มีการอ่านรายงานของ สตง. อย่างละเอียดจะเข้าใจ แต่หากใครตีความเป็นอย่างอื่น สตง. คงไม่อาจก้าวล่วงได้ อย่างไรก็ตาม ก็เป็นข้อสังเกตประการหนึ่งว่า การใช้จ่ายเงินของทางราชการ นอกจากความสุจริตแล้ว ยังต้องใช้จ่ายให้เหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อการตรวจสอบของ สตง.เป็นการตรวจสอบตามปกติ แต่กลายเป็นประเด็นใหญ่โต มีนัยยะแอบแฝงหรือไม่ นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า คงต้องทำความเข้าใจว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินของแผ่นดิน ประชาชนทุกคนควรมีสิทธิที่จะรับรู้ข้อมูลข่าวสาร หน่วยงานที่ใช้จ่ายเงินของประชาชน ต้องมีหน้าที่แสดงให้สังคมได้รับรู้รับทราบว่า ใช้จ่ายเงินไปอย่างไร และคงต้องยอมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ ในเรื่องของความเหมาะสม ส่วนใครจะหยิบยกไปเป็นเรื่องอย่างอื่นก็สุดแท้ เพราะไม่สามารถควบคุมได้