- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ‘สุวิทย์’ เล็งชงงบฯ วิจัย ปี 63 ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม 3.7 หมื่นล.
‘สุวิทย์’ เล็งชงงบฯ วิจัย ปี 63 ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม 3.7 หมื่นล.
รมว.การอุดมศึกษาฯ เล็งต่อยอดวิจัยชาติ นำองค์ความรู้จากฐานรากปิรามิดสร้างภูมิปัญญา พาประเทศยั่งยืน เสนองบฯ ทั้งหมด 3.7 หมื่นล. “ผอ.สกสว.” เผยทุกโครงการวิจัยท้องถิ่น ถูกโอนไป วช. เตรียมทำแผนบูรณาการพัฒนาฯ ทางการ
วันที่ 14 ส.ค. 2562 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดงานขับเคลื่อนอนาคตชุมชนไทยด้วยงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ณ ห้องประชุมกมลทิพย์ 2-3 โรงแรมเดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานฯ ว่า 20 ปีที่ผ่านมา ได้เห็นพัฒนาการของการวิจัยจากสิ่งที่ไม่รู้ไปสู่องค์ความรู้ ซึ่งไม่ได้ติดตัวเฉพาะนักวิจัยเท่านั้น แต่ยังติดอยู่ในพื้นที่ด้วยและนำไปสู่การตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน ในขณะที่อนาคตของการก้าวสู่ทศวรรษใหม่ จะต่อยอดโดยการนำองค์ความรู้ที่ได้จากฐานรากของปิรามิดในระดับพื้นที่สู่ภูมิปัญญานั้น เป็นตัวขับเคลื่อนนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงคอยตอบโจทย์เรื่องดังกล่าวอยู่
เมื่อถามถึงงบประมาณการวิจัย ปีงบประมาณ 2563 รมว.การอุดมศึกษาฯ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทำเรื่องเสนองบประมาณ ปี 2563 ทั้งหมดประมาณ 37,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เราอยากบูรณาการวิจัยออกเป็น 4 แพลตฟอร์ม ซึ่งหนึ่งในนั้นเกี่ยวข้องกับท้องถิ่นโดยตรง ชื่อว่า งานวิจัยว่าด้วยการพัฒนาพื้นที่และการสร้างเศรษฐกิจฐานราก การขจัดความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ อยากให้มองเป็นองค์รวมมากกว่า
ด้าน ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า สกสว. กำลังจัดทำแผนพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม แบบบูรณาการ เพื่อชุมชนท้องถิ่นและพื้นที่ เพื่อเป็นแผนแรกที่จะนำความรู้ด้านนี้เข้าไปพัฒนาชุมชนฐานราก ซึ่งแนวคิดอยู่บนฐานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นเดิม โดยจะไม่เน้นการนำความรู้ที่มีอยู่ลงไป แต่เน้นการนำความรู้แบบชาวบ้านหรือปราชญ์ชุมชนทุกพื้นที่ลงไป และความรู้ที่ได้รับนั้นถือเป็นความรู้มหาชน หากสามารถดึงงานพื้นฐานของทุกพื้นที่มาเรียนรู้ร่วมกัน จะทำให้จากความรู้กลายเป็นปัญญา จากปัญญากลายเป็นการวิจัยการพัฒนา
“งานวิจัยเพื่อท้องถิ่นที่ดำเนินการมา 20 ปี จะเป็นฐานสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งระดับโครงการและวิจัยเป็นกลุ่ม ๆ แต่จากนี้ไปจะเปลี่ยนจากความรู้ที่มีอยู่ในแต่ละชุมชนเป็นความรู้ส่วนรวม เกิดการสร้างปัญญา และนำไปสู่การพัฒนาต่อไป”
เมื่อถามว่า โครงการวิจัยท้องถิ่นยังอยู่ภายใต้ สกสว. หรือไม่ ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวต่อว่า การให้ทุนรายโครงการถูกปรับโอนไปที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และในอนาคตเป็นไปได้ที่จะนำการให้ทุนลักษณะนี้ ทั้งการพัฒนาเชิงพื้นที่มารวมกัน แล้วจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะ เพื่อบริหารโครงการเช่นนี้
อีกแง่หนึ่งจะทำงานในระดับนโยบาย โดยดึงความรู้ที่มีอยู่ยกระดับมาเป็นนโยบาย ทั้งนี้ ในแต่ละปีมีการอุดหนุนงบประมาณการวิจัยเพื่อท้องถิ่น ราว 200 ล้านบาท ในขณะที่ปีงบประมาณ 2563 คิดว่าจะยังอยู่ในกรอบวงเงินเดิม .
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/