- Home
- Thaireform
- ข่าวเด่น นโยบายสาธารณะ
- พีมูฟโอด 500 ครัวถูกคดีพิพาท ยังไร้ทางออก
พีมูฟโอด 500 ครัวถูกคดีพิพาท ยังไร้ทางออก
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เดินเท้าร้องทุกข์ศาลฎีกาให้แก้ปัญหาคดีคนจน ชวนสังคมร่วมปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เผยล่าสุดคดีลำพูนติดคุก 10 ราย ฆ่าตัวตายแล้ว 1
สืบเนื่องจากกรณีปัญหาความขัดแย้งในการจัดการทรัพยากร ระหว่างภาครัฐ กลุ่มบริษัทเอกชนกับชาวบ้านชุมชนท้องถิ่น ได้ส่งผลให้เกิดข้อพิพาทเป็นคดีความจำนวนมาก ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และการใช้อำนาจทางปกครองของหน่วยงานของรัฐ โดยขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส. หรือ P move) เป็นคนจนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว โดยมีถูกดำเนินคดีอาญาและแพ่ง ในชั้นศาล จำนวน 106 คดี 358 ราย ในจำนวนนี้กำลังติดคุก 13 ราย ถูกดำเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการ 14 กรณี 30 ราย และกำลังจะถูกดำเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวนประมาณ 100 ราย รวมผู้เดือดร้อนประมาณ 500 ครัวเรือน
วันที่ 3 มีนาคม ตัวแทนชาวบ้าน ได้ยื่นเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธานศาลฎีกา เพื่อร้องทุกข์ถึงปัญหาชาวบ้านถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม และกระตุ้นให้มีการหารือเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้
โดยระบุว่า ได้ยื่นเรื่องต่อนายกรัฐมนตรี ให้แก้ไขเรื่องเร่งด่วน 28 กรณีปัญหา นายกฯ ได้รับหลักการ พร้อมทั้งมอบหมายให้แต่ละกระทรวงดำเนินการ มีประเด็นเกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรมในข้อพิพาทเรื่องที่ดินและความขัดแย้งในการใช้ทรัพยากร และชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งมีผู้เดือดร้อนจากการถูกดำเนินคดีจำนวนมาก อาทิเช่น มีกระบวนการออกเอกสารสิทธิมิชอบและฟ้องขับไล่ชุมชน การประกาศเขตที่ดินของรัฐทับที่ดินของชุมชน การให้สัมปทานเหมืองแร่เกิดมลพิษส่งผลต่อสุขภาพ ตลอดจนการข่มขู่คุกคามจากผู้มีอิทธิพล ฯลฯ ดังนั้น จึงขอให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย การฟ้องร้อง การบังคับคดี การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ สายวรรณ ที่ปรึกษาเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง และที่ปรึกษาพีมูฟ กล่าวว่า ประเทศไทยมี 3 เสาหลัก ได้แก่ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ ขณะนี้ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติกำลังถูกแทรกแซงด้วยกลุ่มผลประโยชน์ หากฝ่ายตุลาการถูกแทรกแซงด้วยจะเกิดความวุ่นวายในสังคม จะเกิดแย่งชิงทรัพยากร และความแตกแยกในสังคมมากขึ้น สังคมไทยจะไปไม่รอด
“การออกมาพูดเรื่องนี้ เพื่อให้คนในสังคมร่วมมือกัน ช่วยกันดูแล ประคับประคอง อย่าให้เสาหลักนี้พังลงไปด้วย ตอนนี้กำลังจะเกิดวิกฤติ หลายครอบครัวล่มสลาย หัวหน้าครอบครัวถูกคดี ทั้งที่เขามีสิทธิที่จะทำมาหากินตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีการประกาศเขตอนุรักษ์ทับซ้อนพื้นที่ทำกินของชุมชน และออกเอกสารสิทธิมิชอบ เขาก็กลายเป็นคนผิด ถ้าพ่อถูกคดี ครอบครัวจะล่มสลาย เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า หลายครอบครัวต้องฆ่าตัวตาย เพราะมันตัน ไม่มีทางออก” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม คนถูกคดีในขบวนพีมูฟจำนวนประมาณ 500 คนได้ไปอ่านจดหมายเปิดผนึก “จองจำคนจน เพื่อผลประโยชน์ใคร ชนชั้นใดเขียนกฎหมาย ย่อมรับใช้ชนชั้นนั้น” โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย บ้านแพะใต้ ต.หนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จำนวน 10 ราย ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่เนื่องจาก นายบุญผาย ซางเล็ง หนึ่งในจำเลยได้ฆ่าตัวตายเพราะไม่สามารถทำใจให้ยอมรับกับปัญหาได้ จึงเหลือจำเลย 9 ราย ซึ่งมีความประสงค์จะต่อสู้ในชั้นฎีกา เนื่องจากโฉนดที่ดินที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยนั้นเป็นโฉนดที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย แต่กระบวนการยุติธรรมยังปกป้องระบบกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล แม้ว่าที่ดินนั้นจะมิได้ใช้ทำประโยชน์
นอกจากนี้ ยังมีกรณีบ้านพรสวรรค์ ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฟ้องดำเนินคดีแพ่ง หลังจากศาลพิพากษาให้ชาวบ้านต้องชดใช้เงินตามฟ้อง ซึ่งเป็นยอดเงินจำนวนที่สูงเกินกว่าชาวบ้านจะชำระได้ แต่ทางราชการยังคงใช้วิธีอันเลวร้ายและไม่เป็นธรรม กลับให้ชาวบ้านใช้แรงงานเสมือนโค กระบือ แทนค่าปรับ ซึ่งทั้งสองกรณีจะให้เห็นได้ว่าประชาชนคนจนไม่มีสิทธิเข้าถึงความเป็นธรรมทางกระบวนการยุติธรรม เช่นนี้แล้วการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมทางสังคม ไม่มีวันสิ้นสุด
พร้อมกันนี้ พีมูฟมีข้อเสนอให้แก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเร่งด่วน ดังนี้
1. กรณีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน การจัดการทรัพยากรและสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญ ที่เป็นคดีอาญาอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยุติคดีมีคำสั่งไม่ฟ้องโดยเร็ว
2.กรณีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน การจัดการทรัพยากรและสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญ ที่เป็นคดีแพ่งอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลหรือศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการถอนฟ้อง งดการบังคับคดี หรือถอนการบังคับคดีแล้วแต่กรณี
3. กรณีข้อพิพาทที่ยังไม่มีการดำเนินคดีในกระบวนการยุติธรรมและกรณีการใช้อำนาจทางปกครองของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบงดการดำเนินคดีหรือเพิกถอนคำสั่งทางปกครองไว้จนกว่ากระบวนการในการแก้ไขปัญหาตามนโยบายของรัฐบาลจะแล้วเสร็จ ส่วนในระยะยาว ให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในทุกระดับอย่างเร่งด่วน โดยประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่วมและกำหนด