- Home
- Thaireform
- ข่าวเด่น นโยบายสาธารณะ
- “ศรีศักร” ฉะแจกแท็บเลต ไม่ใช่นโยบายศึกษาที่ถูก ต้องสร้างการเรียนรู้ชุมชน
“ศรีศักร” ฉะแจกแท็บเลต ไม่ใช่นโยบายศึกษาที่ถูก ต้องสร้างการเรียนรู้ชุมชน
อดีต คปร. ย้ำเร่งกระจายอำนาจจัดการศึกษาสู่ อปท. สร้างชีวิต สังคม วัฒนธรรมแก้ประชาธิปไตยสามานย์ ชี้ปฏิรูการปกครองต้องคำนึงตามภูมิภาค มีความเป็นพหุรัฐ
วันที่ 20 สิงหาคม สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับสูง (บสส.) รุ่นที่ 3 โดยมี รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์และสังคม และอดีตกรรมการปฏิรูป (คปร.) บรรยายในหัวข้อ “วิถีชีวิตสังคมในระบบวัฒนธรรม” ณ อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
รศ.ศรีศักร กล่าวตอนหนึ่งถึงการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น ว่า สิ่งที่จำเป็นต้องจัดการอย่างแรก คือ การกระจายอำนาจจัดการศึกษาลงสู่ อปท.เพื่อให้เกิดประชาธิปไตยที่มาจากฐานล่าง เกิดการเรียนรู้ชุมชน วิถีชีวิตสังคมและวัฒนธรรม เพราะที่ผ่านมาคนถูกครอบงำอยู่ในประชาธิปไตยสามานย์มาโดยตลอด
“ปัจจุบัน ศธ.คุมทั้งอำนาจ และเงิน มีการไล่ปิด ไล่รื้อโรงเรียนขนาดเล็กพันกว่าแห่งทั่วประเทศ ซึ่งทำให้เกิดสภาการศึกษาทางเลือกขึ้นมา โดยต้องการให้ ศธ. คืนโรงเรียนเหล่านั้นให้เป็นของชุมชน อันจะทำให้เกิดการศึกษาพื้นฐานอย่างแท้จริงขึ้น ให้รู้จักโลกมากกว่าจะเรียนแค่การศึกษาขั้นพื้นฐานตามกระทรวงฯ ซึ่งห่วยแตก ดังนั้น การศึกษาขั้นพื้นฐานต้องให้ชุมชนทำเอง จึงจะทำให้เกิดชีวิตและวัฒนธรรมอย่างแท้จริง”
รศ.ศรีศักร กล่าวถึงการจัดการศึกษาในปัจจุบันของรัฐบาลที่มีนโยบายจะแจกแท็บเลตว่า ไม่ใช่การกระจายการศึกษาที่ถูกต้อง เพราะการศึกษาต้องเรียนรู้จากสังคมวัฒนธรรมและวิถีชีวิต เรียนรู้จากสังคมใกล้ตัว ต้องนำความเป็นชุมชนกลับมา เพราะการสร้างสังคมประชาธิปไตยต้องมาจากข้างล่าง
“การมองฐานของสังคมไทยต้องมองพัฒนาการที่ประกอบไปด้วย 2 ระดับ คือ สังคมของรัฐที่ครอบสังคมชาวนาอยู่ เป็นความเหลื่อมล้ำที่ผมไม่เรียกว่าอำมาตย์ แต่จะเรียกว่า ศักดินาตามสังคมสมัยก่อน มีการอยู่ร่วมกันในลักษณะสังคมอุปถัมภ์ ที่แม้จะมีความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้น แต่ก็มีกติกาควบคุมอยู่ โดยการอุปถัมภ์ พึ่งพิงซึ่งกันและกัน”
อดีต คปร. กล่าวว่า สังคมเราไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องสังคมวัฒนธรรม ภายหลังที่มีกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงต่างประเทศแล้ว ก็ตัดความเป็นสังคมวัฒนธรรมออก ไปเน้นเรื่องการเมือง ไปศึกษานอกตัวเอง ซึ่งการไม่รู้จัก "รากเหง้า" ตัวเอง แล้วยังทำลายรากเหง้า เท่ากับว่าเป็นการทำลายสำนึกร่วม ชุมชน และทำลายภูมิวัฒนธรรมที่สังคมมีร่วมกัน
“สังคมสมัยใหม่กำลังนำคนไปสู่ความเดรัจฉาน ดังที่เห็นวิกฤติเกิดขึ้นทั่วโลก เพราะเน้นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมากเกินไป ไม่ได้มองด้านวัฒนธรรม อย่างในประเทศไทยการเปลี่ยนแปลงในสมัยรัชกาลที่ 5 นำความเป็นตะวันตกมาใช้ปฏิรูปประเทศ ที่เห็นชัดเจน คือ การเกิดหมู่บ้าน อำเภอ ตำบล ท้องถิ่นที่ทำให้ไม่เกิดความเป็นอิสระ ทำให้ความหลากหลายด้านศาสนาลดลง” อดีต คปร. กล่าว และว่า ฉะนั้น การปฏิรูปการปกครองต้องคำนึงตามภูมิภาค เพราะมีภาษาและวัฒนธรรมพื้นฐานที่มีความหลากหลาย และมีความเป็นพหุรัฐอยู่ แต่ปัจจุบันพบปัญหาการรุกที่ท้องถิ่นจากคนข้างนอก เป็นสังคมที่ทำลายชุมชน โดยเฉพาะสังคมอุตสาหกรรมที่เข้ามารุกชุมชน เป็นสังคมแบบเดรัจฉาน เพราะเราขาดความเข้าใจในตัวเอง ไม่ได้มองเห็นชีวิตวัฒนธรรมของคนกลุ่มเดียวกัน
รศ.ศรีศักร กล่าวด้วยว่า ที่น่ากลัวมาที่สุดขณะนี้ คือ นโยบายที่ว่าจะขึ้นเงินทั้งหลาย ที่หากสุดท้ายทำไม่ได้ อาจต้องไปพึ่งเงินทุนต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เป็น Thailand for sale เป็นการเปลี่ยนสังคมไทยให้เป็นอุตสาหกรรมหนัก เกษตรอุตสาหกรรม แหล่งอุตสาหกรรมเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยนิคมอุตสาหกรรม เช่นที่มีปัญหาอย่างหนักที่มาบตาพุด
“การเปลี่ยนแปลงจากสังคมเกษตรแบบดั้งเดิม มาเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้ทุกคนปรับตัวไม่ทัน ความขัดแย้งที่ภาคใต้ หรือที่อื่นๆ จะทวีความรุนแรงมากขึ้น และหากถึงเวลานั้นผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีก นั่นเพราะมีการแพร่เชื้อความไม่เป็นมนุษย์ในสังคม เห็นได้ว่า เดี๋ยวนี้คนทำเพื่อตัวเองกันหมด ต้องเร่งพัฒนาสำนึกร่วมก่อนที่จะพัฒนาอย่างอื่น”