logo isranews

logo small 2

รู้จัก "มะรอโซ จันทรวดี" เสียงจากคนพื้นที่กับข้อมูลฝ่ายความมั่นคง

เขียนวันที่
วันพุธ ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 21:27 น.
เขียนโดย
ทีมข่าวอิศรา

"สถานการณ์ใน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นั้น จริงๆ แล้วช่วงหลายปีมานี้ดีขึ้นมาก แต่ที่ยังมีเหตุการณ์อยู่ก็เพราะ นายมะรอโซ จันทรวดี ยังไม่ถูกจับ บอกตรงๆ ว่าพื้นที่นี้ถ้าไม่มีนายมะรอโซ รับรองว่าสันติสุขแน่"

maroso

          เป็นคำกล่าวของนายทหารระดับสูงสังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 (ฉก.นราธิวาส 32) รับผิดชอบพื้นที่ อ.บาเจาะ ที่สะท้อนให้เห็นระดับความสำคัญของ นายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในอำเภอย่านนี้ว่าเขาคือผู้นำ "เบอร์ 1" ตัวจริงของกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐ

          "มะรอโซ" เป็นชื่อตามทะเบียนบ้าน เขาเกิดเมื่อวันที่ 16 ก.พ.2525 อีกไม่กี่วันก็จะอายุครบ 31 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 7 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส

          ข้อมูลจากแฟ้มคดีของฝ่ายความมั่นคง นายมะรอโซเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา (ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) จำนวน 11 หมาย และหมาย พ.ร.ก. (ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) อีก 3 หมาย คดีล่าสุดที่เพิ่งถูกออกหมายเพราะเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง คือคดีสังหาร ครูชลธี เจริญชล ครูโรงเรียนบ้านตันหยง ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ ซึ่งถูกบุกยิงเสียชีวิตถึงในโรงอาหารต่อหน้านักเรียนนับร้อย เมื่อวันพุธที่ 23 ม.ค.2556

          คดีใหญ่อีกคดีหนึ่งที่เขาถูกออกหมายจับโดยพนักงานสอบสวนกองปราบปราม คือคดีพยายายามลอบวางระเบิดหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขานราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2553 เวลา 08.05 น. และต่อมาวันที่ 15 ส.ค.2553  เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) และฝ่ายทหาร ได้เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยและเกิดการยิงปะทะกับคนร้าย ปรากฏว่า นายวาเหะ กะดิง และ นายอารอบี รือสะ ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.บาเจาะ ถูกยิงเสียชีวิต พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย ทั้งหมดให้การตรงกันว่า นายมะรอโซ อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่หนีรอดไปได้

          "มะรอโซเคยอยู่ในกลุ่มที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่หลายครั้ง แต่ก็หนีรอดไปได้ทุกครั้ง เขามีอิทธิพลในพื้นที่นี้มาก ชาวบ้านทุกคนหวาดกลัวมะรอโซ ไม่ว่าใครที่พูดถึงหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาต่อเจ้าหน้าที่จะถูกจัดการอย่างเด็ดขาดทุกราย" แหล่งข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ระบุ และว่า

          "ผมเคยเข้าไปในหมู่บ้าน และไปนั่งในร้านน้ำชาที่มีชาวบ้านอยู่เต็มร้าน ผมอยากจะทดสอบความรู้สึกของชาวบ้านที่มีต่อมะรอโซ ผมก็ทำทีเป็นพูดเสียงดังว่าใครพาผมไปหามะรอโซได้จะมีรางวัลให้ ปรากฏว่าชาวบ้านแตกฮือออกจากร้านไปหมดทุกคน นี่คือความน่ากลัวของเขา"

          ด้วยความที่หนีรอดจากการจับกุมได้ทุกครั้ง ทำให้ นายมะรอโซ ค่อนข้างฮึกเหิม และปฏิบัติการความรุนแรงโดยไม่เกรงกลัวต่อเจ้าหน้าที่

          "ผมทราบข่าวมาว่าเขาเตรียมจะก่อเหตุใหญ่ อาจจะเป็นการโจมตีฐานทหาร เพื่อแสดงศักยภาพให้ชาวบ้านเห็นว่าเขายังสามารถก่อเหตุได้แม้จะถูกกดดันอย่างหนักก็ตาม ชาวบ้านจะได้อยู่ภายใต้การบังคับควบคุมของเขาต่อไป ซึ่งฝ่ายทหารก็เตรียมพร้อมอยู่ ผมก็อยากให้เขาปฏิบัติการ จะได้รู้กันไปเลย" นายทหารระดับสูงจาก ฉก.นราธิวาส 32 ให้ข้อมูลเอาไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

          และ "เหตุใหญ่" ที่ นายมะรอโซ นำทีมปฏิบัติการก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันพุธที่ 13 ก.พ.2556 โดยเขานำกองกำลังติดอาวุธประมาณ 30 คนที่รวบรวมจาก อ.บาเจาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และ อ.รามัน จ.ยะลา เข้าโจมตีฐานปฏิบัติการกองร้อยปืนเล็กที่ 2 บ้านยือลอ ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส

          ความห้าวหาญของมะรอโซ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อเขาเดินอยู่แถวหน้า และเป็นคนผลักประตูฐานปฏิบัติการเพื่อเข้าโจมตีด้วยตัวเอง!

          ทว่าคราวนี้โชคไม่เข้าข้างเขาอีกแล้ว เพราะทหารในฐานรู้ข่าวมาก่อนว่าตกเป็นเป้าจะถูกโจมตี จึงเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้อย่างเต็มพิกัด ทำให้เขาถูกยิงเสียชีวิตในเหตุปะทะในค่ำคืนนั้นเอง...

          ด้านความเห็นของบุคคลที่รู้จักนายมะรอโซอย่าง นายมูฮำหมัดนุ โต๊ะเล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บาเจาะ บ้านเกิดของมะรอโซ กล่าวว่า มะรอโซหายไปจากหมู่บ้านนานหลายปีแล้ว ส่วนเรื่องหมายจับและการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงต่างๆ นั้น ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่รู้เรื่องเลยว่ามีกี่หมายหรือไปก่อเหตุอะไรบ้าง ที่รู้ๆ ก็เวลามีเหตุยิงหรือเหตุร้ายอะไรเจ้าหน้าที่ก็มักจะระบุว่านายมะรอโซเกี่ยวข้อง แต่ชาวบ้านไม่รู้ข้อเท็จจริง มารู้อีกครั้งก็คือเหตุยิงกับเจ้าหน้าที่เมื่อคืน และช่วงสายๆ (13 ก.พ.) ก็มีญาติไปรับศพที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส ญาติที่รู้ข่าวก็ไปกันเยอะ 

          ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่บ้านยือลอ ใกล้ๆ กับฐานทหารที่ถูกโจมตี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุนอนหลับไปแล้ว มาได้ยินเสียงปืนจึงตกใจตื่น ดูนาฬิกาเป็นช่วงใกล้เวลาตี 1 เสียงยิงปะทะดังประมาณ 30 นาที แต่ไม่กล้าออกไปดู ได้แต่หลบอยู่ในบ้าน คาดว่าเสียงปืนดังมาจากค่ายทหาร หลังสิ้นเสียงปืนได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์หลายคันขับออกไปทางโรงเรียนบ้านบือเระ (ปากทางเข้าฐานทหาร) คิดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีค่ายทหารน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 30 คน

          "5 วันที่ผ่านมาได้ยินข่าวลือมาว่าจะมีการโจมตีค่ายทหาร ตั้งแต่ อ.มายอ จ.ปัตตานี ถึง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส แต่ก็ไม่ทราบว่าจะลงมือพื้นที่ไหน" ชายวัยกลางคน กล่าว

          สำหรับฐานปฏิบัติการกองร้อยปืนเล็กที่ 2 บ้านยือลอ ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ นั้น ขึ้นกับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ (ฉก.นย.ภาคใต้) ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งมี น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร เป็นผู้บังคับหน่วย

          ทั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ รับผิดชอบภารกิจแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 5 อำเภอ คือ อ.สายบุรี กับ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี มีหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 26 เป็นผู้รับผิดชอบ อ.บาเจาะ กับ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส มีหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 เป็นผู้รับผิดชอบ และ อ.เมืองนราธิวาส มีหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 33 เป็นผู้รับผิดชอบ

          การปฏิบัติหน้าที่ของ ฉก.นย.ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับคำชื่นชมจากหลายฝ่ายทั้งในแง่ปฏิบัติการทางทหารและงานมวลชน โดยพรรคประชาธิปัตย์เคยเสนอแนะให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยใช้แนวทางของ ฉก.นย. และ น.อ.สมเกียรติ เป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

---------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : นายมะรอโซ จันทรวดี จากแฟ้มคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ