พบ ‘ประวิทย์’ จ่ายเช็ค 98 ฉบับให้ลูกชาย 4 คนเบิกเงินสด คดีสินบน รพช.
สาวลึก!คดีสินบน รพช. คำให้การ 4 บุตรชาย‘ประวิทย์’รับบิดาจ่ายเช็ครวม 98 ฉบับ ให้ขึ้นเงินแบงก์ แต่ไม่รู้เอาไปทำอะไร ยันพ่อสนิท ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ แต่ไม่เคยหิ้วไปมอบให้ อ้างเคยเห็น‘ประสิทธิ์’มาที่ร้าน ยืมตังค์หมื่นห้า ก่อน ป.ป.ช. สรุปไม่มีมูล
คดีการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx ของนายกิมหงวน แซ่ลิ้ม หรือ นายประวิทย์ อริยกานนท์ เจ้าของร้านขายเครื่องจักรกล เอี่ยมแสงยนต์ ย่านมหาจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากถูก นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) ขอนแก่น กล่าวหาว่าเป็นบัญชีที่รับโอนเงินให้ผู้บริหาร รพช. เฉพาะนายประสิทธิ์ โอนผ่านบัญชีนี้จำนวน 5 ครั้ง ประมาณ 18 ล้านบาท (ไม่รวมเงินสด 3 ครั้ง 10 ล้านบาท รวมทั้งหมดประมาณ 28 ล้านบาท) ในช่วงปี 2538-2540 และอ้างว่า มีข้าราชการ รพช. อีกหลายรายโอนเงินผ่านบัญชีนี้ด้วย
ขณะที่ นายประวิทย์ ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศรา เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2559 สรุปสาระสำคัญเป็นเพียงให้นายประสิทธิ์ยืมใช้โอนเงินเท่านั้น เพราะ รู้จักมักคุ้นกับข้าราชการ รพช.หลายคน เมื่อนายประสิทธิ์ และข้าราชการคนอื่นโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว และเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ก็จะมารับเงินจากนายประวิทย์ไปทั้งหมด ส่วนข้าราชการดังกล่าวจะนำไปให้ใครนั้น ไม่ทราบ อีกทั้ง นายประวิทย์ และบุตรชาย ไม่เคยเอาเงินดังกล่าวไปให้ข้าราชการผู้ใหญ่ใน รพช. หรือเพื่อซื้อขายตำแหน่ง แต่อย่างใด (อ่านประกอบ : อดีต ส.ส.-บิ๊ก รพช. ใช้บัญชี ‘ประวิทย์’ โอนเงิน ‘ซื้อที่ดิน-ดาวน์รถ-เช่าพระเครื่อง’)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในชั้นไต่สวน คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบกระแสเงินหมุนเวียนในบัญชีดังกล่าว ในช่วงปี 2538-2539 นายประวิทย์เจ้าของบัญชีฯ ได้จ่ายเช็คให้บุตรชาย 4 คน รวม 98 ฉบับไปขึ้นเงินกับธนาคาร ได้แก่ นายวีรชาติ อริยกานนท์ จำนวน 69 ฉบับ นายศราวุธ อริยกานนท์ จำนวน 24 ฉบับ นายสง่า อริยกานนท์ จำนวน 2 ฉบับ และ นายเกียรติศักดิ์ อริยกานนท์ จำนวน 3 ฉบับ
คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. มี นายณัฏฐ์ ศรีวิหค ประธานอนุกรรมการไต่สวน ได้เรียกบุตรชายนายประวิทย์ทั้ง 4 คน มาสอบปากคำ ทุกคนให้การเหมือนกันหมดว่า นำเช็คไปขึ้นเงินสดแล้วนำมามอบให้บิดา ส่วนบิดาจะนำไปให้ใครต่อนั้นไม่ทราบ รายละเอียด ดังนี้
1. นายวีรชาติ อริยกานนท์ ให้การต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน วันที่ 22 ส.ค. 2546 โดย ป.ป.ช. ให้ตรวจดูภาพถ่ายเช็คธนาคารกสิการไทย จำกัด สาขาถนนมหาไชย จำนวน 69 ฉบับ ซึ่งมีลายมือชื่อ นายกิมหงวน แซ่ลิ้ม (นายประวิทย์ อริยกานนท์) เป็นผู้สั่งจ่าย โดยระบุ ‘จ่ายเงินสด’ นายวีรชาติให้การว่า เมื่อได้รับเงินตามเช็คดังกล่าวจากธนาคารแล้ว ได้นำเงินมาส่งมอบให้บิดาทุกครั้ง ไม่ทราบว่าเป็นเงินค่าอะไร และไม่ทราบว่า บิดานำเงินไปใช้ทำอะไร ไม่ได้สอบถาม และรู้จัก นายทวี ทวีวงศ์ เป็นอย่างดี เนื่องจาก บิดาสนิทสนมกับนายทวี มาก่อนตั้งแต่สมัยที่นายวีรชาติยังเป็นเด็ก และนายวีรชาติเคยไปที่บ้านนายทวี ในสมัยนายทวียังรับราชการอยู่ที่ รพช. ได้เคยมาหาบิดาที่ร้านเอี่ยมแสงยนต์เสมอ ๆ ในช่วงเย็นหลังเลิกงาน แต่นายวีรชาติไม่เคยนำเงินที่เบิกจากธนาคารมอบให้แก่นายทวี แต่อย่างใด
2. นายศราวุธ อริยกานนท์ ให้การเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2546 โดย คณะอนุกรรมการไต่สวนให้ดูภาพถ่ายเช็ค จำนวน 24 ฉบับ ซึ่งมีลายมือชื่อ นายกิมหงวน แซ่ลิ้ม (นายประวิทย์ อริยกานนท์) เป็นผู้สั่งจ่าย โดยระบุ ‘จ่ายเงินสด’ บิดามอบให้ไปรับเงินตามเช็คแล้วนำเงินมามอบให้บิดา แต่ไม่ทราบว่าเป็นค่าอะไร และไม่ทราบว่า บิดานำเงินไปใช้ทำอะไร เนื่องจาก เวลาได้ล่วงเลยมานานแล้ว
นายศราวุธ ให้การว่า รู้จักนายทวี เนื่องจาก นายทวีเป็นเพื่อนของบิดามานาน และเคยไปมาหาสู่กับบิดาที่บ้าน คือ ร้านเอี่ยมแสงยนต์ บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยเห็นนายทวีมารับเงินจากบิดาที่ร้าน และนายศราวุธไม่เคยนำเงินไปมอบให้นายทวี
3. นายสง่า อริยกานนท์ ให้การต่อคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ 22 ส.ค. 2546 โดย คณะอนุกรรมการไต่สวนให้ดูภาพถ่ายเช็ค จำนวน 2 ฉบับ ฉบับแรก เช็คธนาคารกสิการไทย จำกัด สาขาถนนมหาไชย เลขที่ 4133180 ลงวันที่ 28 มิ.ย. 2538 จำนวนเงิน 1,600,000 บาท และเช็คเลขที่ 0663798 ลงวันที่ 3 ต.ค. 2539 จำนวน 2,000,000 บาท ว่า เป็นผู้ลงลายมือชื่อรับเช็คดังกล่าวจริง โดยเป็นเช็คที่นายประวิทย์ บิดาเป็นผู้สั่งจ่ายโดยระบุเงินสด และมอบให้นายสง่าไปเบิกเงิน หลังจากนั้น นำเงินที่เบิกมามอบนายประวิทย์ และไม่ทราบว่าเป็นค่าอะไร รู้จักกับนายทวี เนื่องจาก เป็นเพื่อนของบิดา แต่ไม่เคยนำเงินไปมอบให้นายทวี กับนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์นั้น ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เคยเห็นนายประสิทธิ์มาพบบิดาที่บ้าน คือ ร้านเอี่ยมแสงยนต์ และจำได้ว่า นายประสิทธิ์เคยมายืมเงินจากบิดาที่ร้านเอี่ยมแสงยนต์ จำนวน 15,000 บาท
4. นายเกียรติศักดิ์ อริยกานนท์ ให้การต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. วันที่ 22 ส.ค. 2546 โดย คณะอนุกรรมการไต่สวนให้ดูภาพถ่ายเช็ค จำนวน 3 ฉบับ ฉบับแรก เช็คธนาคารกสิการไทย จำกัด สาขาถนนมหาไชย เลขที่ 4133143 ลงวันที่ 8 มิ.ย. 2538 จำนวน 1,000,000 บาท ฉบับที่สอง เลขที่ 0663788 ลงวันที่ 23 ก.ย. 2539 จำนวน 2,000,000 บาท และเช็คฉบับที่สาม เลขที่ 0663794 ลงวันที่ 30 ก.ย. 2539 จำนวน 2,026,000 บาท
ทั้งสามฉบับสั่งจ่ายโดย นายกิมหงวน แซ่ลิ้ม (นายประวิทย์ อริยกานนท์) สั่งจ่ายเงินสดให้นายเกียรติศักดิ์ เป็นผู้รับเงินตามเช็ค
นายเกียรติศักดิ์ ให้การว่า บิดาให้นำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินที่ ธนาคารกสิการไทย จำกัด สาขาถนนมหาไชย จริง แต่ไม่ทราบว่าเป็นเงินค่าอะไร และไม่ทราบว่า บิดานำเงินดังกล่าวไปใช้ทำอะไร ส่วนตัวรู้จักกับนายทวี เนื่องจาก เป็นเพื่อนของบิดา และนายทวีเคยมาหาบิดาที่ร้านเอี่ยมแสงยนต์เป็นประจำ แต่ไม่เคยนำเงินของบิดาไปให้แก่นายทวี
คดีนี้ นายประวิทย์ ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศรา เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2559 สรุปสาระสำคัญยอมรับว่า ให้นายประสิทธิ์ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารโอนเงินเข้ามาจริง เนื่องจาก รู้จักมักคุ้นกับนายประสิทธิ์ และข้าราชการ รพช. หลายคน เมื่อนายประสิทธิ์ และข้าราชการคนอื่นโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว และเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ก็จะมารับเงินจากนายประวิทย์ไปทั้งหมด ส่วนข้าราชการดังกล่าวจะนำไปให้ใครหรือใช้ประโยชน์ได้ นั้น ไม่ทราบ อีกทั้ง นายประวิทย์ และบุตรชาย ไม่เคยเอาเงินดังกล่าวไปให้ข้าราชการผู้ใหญ่ใน รพช. หรือเพื่อซื้อขายตำแหน่ง แต่อย่างใด
นายประวิทย์ให้การต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า รู้จักกับเจ้าหน้าที่ รพช. เท่าที่จำได้ มี นายสงวนศักดิ์ เหล่าสิทธิสุข ,นายจงรักษ์ สกุลคู ,นายประดิษฐ์ วิไลลักษณ์ ,นายปรีชาชาติ เจริญพิบูลย์ ,นายวรพจน์ ธีรอำพน ,นางสมใจ เทศประสิทธิ์ ,นายบุญส่ง วิจักษณบุญ ,นายมนัส ซึ่งเจริญยิ่ง ,นายสอดา ใจเพชร์ ,นายปรีชา โพธิหัง ,นายวีรวงศ์ สงวนหงษ์ ,นายปัญญา หลักเมือง ,นายชัยพันธ์ หอมวิเศษวงศา ,นางบุญสม หอมวิเศษวงศา และ นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ (อ่านประกอบ: อดีต ส.ส.-บิ๊ก รพช. ใช้บัญชี ‘ประวิทย์’ โอนเงิน ‘ซื้อที่ดิน-ดาวน์รถ-เช่าพระเครื่อง’)
คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. สรุปผลไต่สวนยกคำร้อง ไม่สามารถเอาผิดนายประวิทย์ ในข้อหาร่วมกันเรียกรับเงินได้ เนื่องจาก ไม่มีพยานบุคคลและหลักฐาน
วิบากกรรมยังไม่จบ คดีล่าสุด ที่ นายประสิทธิ์ ฟ้อง นายทวี ต่อศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อเดือน ก.ย. 2559 นายประวิทย์ และบุตรชาย 1 คน ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 กรณีโอนเงินเข้าบัญชีนายประวิทย์ 1 ต.ค. 2539 จำนวน 3 ล้านบาท ก็คือบัญชีเจ้าปัญหานี้
ส่วน "เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ" ตามคำกล่าวอ้างอุปมาหรือไม่
ต้องต่อสู้ข้อเท็จจริงกันต่อไป
อ่านประกอบ:
อดีต ส.ส.-บิ๊ก รพช. ใช้บัญชี ‘ประวิทย์’ โอนเงิน ‘ซื้อที่ดิน-ดาวน์รถ-เช่าพระเครื่อง’
เปิดบทสัมภาษณ์ 'ประวิทย์' เจ้าของบัญชีเงินฝากคดี รพช. "ผมไม่ได้รวยพันล้าน"
เปิดคำให้การ อดีต ผอ. รพช. รับเช็ค 2 ล. ‘ช่วยเมียลูกชายเพื่อนทำยอดเงินฝาก’
ขมวด 5 ขรก. โอนเงินเข้าบัญชี 'เจ้าของร้านเครื่องจักรกล' 27.4 ล. คดี รพช.
คำให้การ'เฉลิม-ชัยสิทธิ์'คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช.-ปัดเปิด ร.ร.สั่งลูกน้องส่งหัวคิว 2%
ไทม์ไลน์ชัดๆ คดีเรียกรับ 3 ล. บิ๊ก รพช. 13 ปีในมือ ป.ป.ช.-ขาดอายุความ 1 ข้อหา
อดีตซี 9 ฟ้อง ผอ.รพช. อีกคดี!เรียกรับ 3 ล.- นักธุรกิจแจงแค่ยืมบัญชีโอนเงิน
เบื้องหลังจ่าย 3 ล.! คำให้การ ซี 8 “นายให้นโยบายต้องจัดส่งค่าบริหารงาน 1%”
พบอีก 2 ขรก. โผล่โอนเงินเข้าบัญชี'เสี่ย ป.'ใกล้ชิดบิ๊ก รพช. 3 ล. 'ไม่รู้ค่าอะไร'
เปิดใบโอนเงิน 3 ล้าน คดีสินบน รพช.
คำให้การลึก! คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช. คนเดียวจ่ายยิบให้ ‘บิ๊ก’ 8 ครั้ง 28 ล้าน
เปิดพฤติการณ์คดีสินบน 3 ล. ซี 9 รพช. เบิกเงินสดจากแบงก์ไปจ่ายถึงห้องทำงาน
ศาลสั่งจำคุก 6 ปี ซี 9 รพช.รับเงินสด 3 ล.ค่าซื้อเก้าอี้ ผอ.ศูนย์ขอนแก่น ไม่ให้ถูกย้าย